คำถามที่คนส่วนใหญ่มักจะถามผมอยู่บ่อยๆก็คือว่า
1.ควรจะซื้อคอนโดแถวไหนดี?
2.ควรจะซื้อหรือเช่าคอนโดอยู่ อย่างไหนจะดีกว่ากันอย่างไร?
สำหรับคำถามแรก ผมมักจะแนะนำกลับไปว่า สำหรับคนโสด ควรจะหาคอนโดที่ใกล้ที่ทำงานเป็นหลักยิ่งถ้าอยู่ในรัศมีไม่เกิน 1 กิโลเมตร จากที่ทำงานก็จะดีเป็นอย่างยิ่งเพราะจะสามารถเดินจากคอนโดไปที่ทำงานได้ และถ้าโชคดีหน่อย ที่ทำงานของคุณอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า และคุณมีงบประมาณเพียงพอที่จะซื้อหรือเช่าคอนโดในบริเวณนั้น คุณน่าจะเป็นคนที่ถูกคนกรุงเทพส่วนใหญ่อิจฉานะครับ เพราะคนกรุงเทพส่วนใหญ่จะใช้เวลาเฉลี่ยในการเดินทาง ไปกลับระหว่างบ้านและที่ทำงานเป็นเวลาเฉลี่ย 2 ชั่วโมงครึ่งต่อวัน 1 เดือนมีประมาณ 22 วันทำการ เท่ากับว่าคุณมีเวลามากกว่าคนกรุงเทพส่วนใหญ่ถึง 55 ชั่วโมงต่อเดือน ถ้าตีเสียว่าชั่วโมงทำงานต่อวันเท่ากับ 8 ชั่วโมง เท่ากับว่าคุณมีเวลาทำงานมากกว่าคนอื่นถึง 7 วันต่อเดือนเลยทีเดียว อย่าลืมนะครับว่าเวลาเป็นสิ่งสำคัญมากอย่างหนึ่ง มีเงินแค่ไหนก็ซื้อเวลาไม่ได้ และคุณยังสามารถใช้เวลาที่คุณประหยัดได้ ไปทำงานอดิเรกที่จะสร้างรายได้ให้กับคุณเพิ่มขึ้นอีกทางหนึ่ง
อย่างเช่นตัวผมเอง ผมใช้ที่พักอาศัยเป็นที่ทำงานไปในตัว คอนโดของผมเป็นแบบ 2 ห้องนอน ผมได้ดัดแปลงห้องนอนใหญ่เป็นห้องทำงาน แล้วใช้ห้องนอนเล็กเป็นห้องนอน เพราะผมคิดว่าใน 24 ชั่วโมง ผมใช้เวลาในห้องทำงานประมาณ 12 ชั่วโมง ในขณะที่ผมใช้เวลาในห้องนอนเพียง 8 ชั่วโมงเท่านั้น ผมจึงใช้เวลาเดินทางจากที่พักไปที่ทำงานเพียงแค่ 5 วินาที ทำให้ผมมีชั่วโมงการทำงานมากกว่าคนอื่นๆ ยิ่งถ้าค่าตัวต่อชั่วโมงในการทำงานไซด์ไลน์ของคุณยิ่งสูง เวลาที่คุณประหยัดได้จะมีค่ามากขึ้นเป็นเงาตามตัว
ส่วนคำถามที่ 2 ผมมักจะย้อนถามคนที่ถามก่อนว่า ถ้าตัดสินใจที่จะซื้อคุณมีเงินอย่างน้อย 10 เปอร์เซ็นต์ของราคาคอนโดที่คุณจะซื้อหรือไม่ ถ้าคำตอบว่ามีพอที่นี้คุณก็มี 2 ทางเลือกว่า คุณควรจะซื้อหรือเช่าดี โดยผมจะยกข้อดีและข้อเสียของการซื้อและการเช่าดังต่อไปนี้
การซื้อคอนโด | การเช่าคอนโด | |
1.ต้องมีเงินดาวน์ อย่างน้อย 10-20 เปอร์เซ็นต์ ของราคาคอนโดที่จะซื้อ | 1.ต้องวางมัดจำ 2 เดือนและจ่ายค่าเช่าล่วงหน้า 1 เดือน | |
2.ได้เป็นเจ้าของ ทำให้สามารถที่จะต่อเติม ดัดแปลง และตกแต่งภายในห้องได้ตามใจปรารถนา | 2.ไม่สามารถที่จะต่อเติม ดัดแปลง และตกแต่งภายในห้องได้ตามใจปรารถนา | |
3.สามารถนำดอกเบี้ยที่ผ่อนชำระกับสถาบันการเงิน(ในกรณีขอสินเชื่อกับสถาบันการเงิน) ได้ปีละไม่เกิน 100,000 บาท มาลดหย่อนภาษียิ่งถ้าฐานภาษีสูงยิ่งจะได้ประหยัดภาษีมากขึ้นตามฐานภาษี | 3.ไม่สามารถนำค่าเช่ามาหักภาษีเงินได้ส่วนบุคคล | |
4.เมื่อเวลาผ่านไป จะมีค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงคอนโด | 4.ไม่มีค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงคอนโด เพราะเป็นหน้าที่ของเจ้าของห้อง | |
5.ต้องจ่ายเงินกองทุนคอนโดตอนโอนห้อง และจ่ายค่าส่วนกลางเป็นรายปี | 5.ต้องจ่ายค่าเช่าทุกเดือน | |
6.ได้ประโยชน์จากราคาคอนโด ที่จะมีมูลค่าสูงขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป | 6.ไม่ได้ประโยชน์จากราคาคอนโด ที่จะมีมูลค่าสูงขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป | |
สมมุติว่าซื้อคอนโดราคา 3 ล้านบาท ลองนำค่าใช้จ่ายในการผ่อนคอนโดกับสถาบันการเงิน ที่มีอัตราดอกเบี้ยต่อปี = 4.50%/ปี ระยะเวลากู้ 30 ปี มาเปรียบเทียบกับค่าเช่า ว่าจะเป็นอย่างไร
ค่าใช้จ่ายเมื่อผ่อนคอนโดกับสถาบันการเงิน | ค่าเช่า |
1.ยอดชำระต่อเดือน 15,200 บาท | ค่าเช่าต่อเดือน 17,000 บาท |
2.ค่าส่วนกลางคอนโดต่อเดือน 1,300 บาท | |
3.รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดต่อเดือน 16,500 บาท | รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดต่อเดือน 17,000 บาท |
หมายเหตุ ไม่นำค่าใช้จ่ายสาธารณูปโภคมาคำนวณ เพราะว่าไม่ว่าจะซื้อหรือเช่า ก็จะมีค่าใช้จ่ายดังกล่าวเช่นกัน
จะเห็นได้ว่าค่าใช้จ่ายในการผ่อนคอนโด เมื่อเทียบกับค่าเช่าแทบจะไม่แตกต่างกันเลย เนื่องจากปัจจุบันนี้อัตราดอกเบี้ยในท้องตลาดอยู่ในระดับที่ต่ำมาก จึงเป็นโอกาสอันดีสำหรับท่านที่มีเงินเพียงพอที่จะผ่อนดาวน์คอนโดประมาณ 10 ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ของราคาคอนโด น่าจะใช้โอกาสนี้ในการเลือกซื้อคอนโดแทนที่จะเช่า ยิ่งตอนนี้สาบันการเงินแข่งขันกันน่าดูด้วย แข่งกันให้ดอกเบี้ยต่ำมาก เปิดเฉพาะอัตราดอกเบี้ยของช่วง 3 ปีแรก ดังนั้นเมื่อผ่อนครบ 3 ปีแนะนำว่าให้รีไฟแนนซ์ทุก 3 ปี เพื่อที่จะได้อัตราดอกเบี้ยกู้ในช่วงที่เหลือที่อัตราดอกเบี้ยต่ำ
หลายๆคนกลัวเกี่ยวกับเรื่องภาษีทรัพย์สินที่กำลังจะนำมาประกาศใช้ แต่สำหรับผู้มีบ้านหลังแรก ถ้าราคาไม่เกินเพดานของกฎหมายที่กำลังจะออกมา ก็จะอยู่ในข่ายได้รับการยกเว้นภาษีทรัพย์สิน รู้อย่างนี้แล้วก็รีบเก็บออมรายได้เสียตั้งแต่วันนี้ เพื่อจะได้มีเงินไปผ่อนคอนโดเอาไว้เป็นของตัวเองกันครับ
คอลัมนิสต์
คอลัมนิสต์ หนังสือ "จาก 1 ล้านเป็น 500 ล้าน ผมทำอย่างไร" เล่าประสบการณ์การลงทุนของผมที่นำไปใช้ได้ง่ายๆหนังสือ "ออมจากน้อยเป็นร้อยล้าน" แนะวิธีออมเงินเพียงเดือนละหลักพัน ก็เป็นเศรษฐี 100 ล้าน ก่อนอายุ 50 ปี!ติดตามสาระดีๆทั้งไลฟ์สไตล์และการลงทุนได้ที่Facebook : https://www.facebook.com/VI.Kitichai Twitter : http://twitter.com/value_talk Instagram : Gid_KitichaiBlog website : https://kitichai1.blogspot.com You Tube : http://www.youtube.com/c/KitichaiTaechangamlert |