วันหยุดใครๆก็ไปเที่ยวกัน วันนี้แอดมิน นิตยสารออนไลน์ Memag Online ขอพาผู้อ่านไปชมความน่ารักของสัตว์ต่างๆในช่วงเดือนที่ร้อนที่สุดของปีช่วงวันสงกรานต์แบบนี้ ว่าแต่ตัวนั้นเค้าจะมีการคลายร้อนแบบไหนกันบ้าง ในครั้งนี้เราเลือกที่จะพาทุกท่านมาเที่ยวดับร้อนกันที่ Safari World ที่ท่องเที่ยวในโลกของสัตว์ป่าแบบใกล้ชิด
มารีนปาร์คและ ซาฟารีปาร์ค Safari World แหล่งท่องเที่ยวที่ให้ทั้งความรู้ และ ความสนุกเพลิดเพลินโดยเฉพาะเด็กๆ จะตื่นเต้นกันเป็นอย่างมากที่ได้เห็นสัตว์ป่าชนิดต่างๆ อย่างใกล้ชิด การไปเที่ยวในครั้งนี้ มีแต่ความสนุกแบบ ไม่คาดคิดว่า ระยะทางจากบ้าน ซึ่งไม่ไกลมาก ทำให้ การพาเด็กๆ ไปเที่ยวในวันหยุดนี้ มีแต่ความสุข และรอยยิ้ม
ก่อน อื่น เราต้อง วางแผนการท่องเที่ยว ในครั้งนี้ เพื่อ เพื่อการดูโชว์ ในครั้งนี้ เพื่อให้ดูจะได้ดูโชว์ ครบทุกโชว์
ส่วนที่หนึ่งคือ ซาฟารีปาร์ค ซึ่งเป็นสวนสัตว์เปิด มีสัตว์ต่างๆ เช่น ม้าลาย กวาง ยีราฟ นก เสือ สิงโต หมี ฯลฯ ให้นักท่องเที่ยวได้นั่งรถชมชีวิตความเป็นอยู่ของสัตว์ตามธรรมชาติโดยรถส่วนตัว หรือรถบริการพร้อมผู้บรรยายของซาฟารีเวิลด์
ส่วนที่สอง คือ มารีนปาร์ค หรือสวนน้ำ มีสัตว์น้ำ และสัตว์ชนิดต่างๆ ที่หาดูให้ชมยาก รวมทั้งการแสดงต่างๆ เช่น การแสดงของปลาโลมา, นก, แมวน้ำ และลิง เป็นต้น
อันดับแรก เราผ่านประตูแล้วเค้าจะให้แผนการท่องเที่ยว จะมีตารางแสดงของแต่ละโชว์และเวลา ซึ่ง เราต้อง วางแผน ให้ดี เพื่อที่จะได้ ไม่พลาดการดูโชว์ ซึ่งไฮไลต์ของวัน และกิจกรรมพิเศษ จะมีโชว์ฟิตติ้ง รีเวอร์ซาฟารี, เลี้ยงยีราฟ, แมนนาทีม มินิเวิลด์, ซึ่งกิจกรรมพิเศษเหล่านี้ ไม่ควร อย่างเด็ดขาด เมื่อได้ตารางดูโชว์มาแล้ว เราจะเริ่มเข้า ซาฟารีปาร์ค ซึ่งในแผนที่ ว่าจะมีจุดไหนเป็น ของสัตว์อะไร แล้วเราก็จะขับรถ เพื่อไปดู เสร็จแล้วเราก็ผ่าน ด้านในการที่ ขับรถเข้าไป เพื่อที่จะดูสัตว์ เค้าจะแบ่งเป็นโซนหากเราต้องการเที่ยวทั้ง 2 ส่วน ให้เราขับเข้าทางเข้าด้านซ้ายซึ่งเป็นซาฟารีปาร์ค เพื่อที่จะไปเริ่มเที่ยวจากส่วนของซาฟารีปาร์คให้เสร็จเรียบร้อยก่อน แล้วค่อยไปเที่ยวมารีนปาร์คกันต่อทีหลังการขับเที่ยวบริเวณสวนสัตว์เปิดจะมีระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตรกว่าๆ ส่วนระยะเวลาที่เราต้องเผื่อไว้เที่ยวในส่วนนี้ก็คงแล้วแต่นะครับว่าจะรีบเร่ง หรือ ไม่รีบเร่งกันแค่ไหนแต่ว่าหลักๆ คงต้องดูตารางการแสดงของในส่วนของ มารีนปาร์คไว้ให้ดีด้วยละกันนะค่ะจะได้กะเวลาได้ถูกว่าเราจะใช้เวลาที่ซาฟารีปาร์คนานเท่าไหร่ และควรจะเอารถไปจอด และ เผื่อเวลาไว้อย่างไรได้บ้าง
การให้อาหารสัตว์และการ ขับรถมาก็จะเห็นฝูงม้าลาย เยอะมากซึ่งต้องบอกได้เลยว่าแต่ละตัว อุดมสมบูรณ์มาก ทางซาฟารีเค้าดูแลสัตว์ทุกตัวอย่าง อิ่มหมีพีมัน รู้สึกว่าสัตว์มีความสุขกับการเป็นอยู่ที่ดีสมบูรณ์จริง ๆ กลับมาที่ม้าลาย เดินไปมา เล่นกันอย่างสนุกสนาน บางกลุ่มก็เดินเป็นครอบครัว บางกลุ่มก็อาจจะเหมือนหนุ่มๆ สาวๆ จับกลุ่มยืนเล่นกัน แล้วก็เล่นกันบางตัวก็เดินเหมือนโชว์ให้เราดูและร่างกายเขาค่อยๆเดิน อย่างสง่างาม ในส่วนตัว ชอบม้าลายเป็นพิเศษเพราะ สีดำตัดขาวของเขามันช่างงามสง่าจริง ๆต่อมาเราก็จะเจอ พอเข้ามาใน มุมต่างๆ ว่าจะเจอ ม้าลาย แรดขาว ยะลา นกกระจอกเทศ แบล๊คบัค และอีกมากมาย สัตว์ที่นี่เค้าอยู่รวมกันได้สบายไม่มีปัญหา และกิจกรรมพิเศษช่วงฟีดดิ้งโชว์ จะมีประมาณสิบโมงเช้า อันนี้ห้ามพลาด จะมีการโชว์ให้ มีการโชว์ให้อาหารโดยเจ้าหน้าที่
ต่อมาถึงด้านหน้า มารีนปาร์ค เราก็จะมาเจอที่จอดรถกว้างใหญ่ไพศาล และมีจุดจำหน่ายตั๋ว ซึ่ง เราไม่จำเป็นต้องซื้อแล้วค่ะ เพราะว่าเราซื้อเป็นแพ็คเกจมาตั้งแต่ทางเข้าซาฟารีปาร์คแล้ว เราก็สามารถเข้าไปได้เลยอันนี้ก็เหมาะสำหรับใครที่อยากจะเข้าไปเที่ยวเฉพาะส่วนของมารีนปาร์คอย่างเดียวก็มาซื้อตั๋วที่ตรงนี้ได้เลย
เจอทางเข้าจุดประชาสัมพันธ์ มีบูทขาย ของอยู่ด้านหน้า ซึ่ง ภายใน ซาฟารีเวิร์ดนั้น ห้ามนำ อาหารและเครื่องดื่มเข้าไป แต่ไม่ต้องห่วงนะคะ เพราะบริเวณในงาน มีของกิน และของที่ระลึก น้ำ และอาหารมากมาย ไม่ต้องกลัวอด ที่นี้ทางเราตกลงกันว่า จะไปชมโชว์ แรก ของวันนี้คือ โชว์ลิงอุรังอุตัง ซึ่ง เรา ต้อง เดินตรงเข้าไป ซึ่งไม่ไกลจากด้านหน้าเท่าไหร่ เราได้ชมความน่ารักของลิงที่แสนรู้จริง ๆเลย
การแสดงจะตรงเวลามากนะค่ะ เพราะฉะนั้นวางแผนเที่ยวกันให้ดีๆการแสดงที่น่าสนใจและเป็นไฮไลท์ ก็จะเป็น การแสดงปลาโลมา การแสดงสิงโตทะเล คาวบอยสตั๊นโชว์ สปายวอร์ การแสดงนก การแสดงช้าง สรุปน่าสนใจทั้งนั้นค่ะ
การแสดงแต่ละอย่างจะเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปจับจองที่นั่งกัน ครึ่งชั่วโมง ก่อนการแสดงเริ่มนะค่ะ เพราะว่าฉะนั้น อยากดูการแสดงไหน ก็ต้องไปจับจองที่นั่งกันก่อน นอกจากการแสดงแล้วก็ยังมีกิจกรรมต่างๆ ให้เด็กๆ ได้สนุกกันด้วยค่ะ เช่นการขี่ม้าแคระ การถ่ายรูปกับลูกเสือ ยิงปืน โยนบ่วง และ เกมส์ต่างๆ
จากนั้นเราต่อด้วยการดูโชว์ คาวบอยสตั้น เป็นโชว์ ของการต่อสู้ ซึ่ง ทำได้อย่างสมจริง เสียงการตกลงมาได้อย่างน่าเชื่อ และหลังจากนั้นเราก็พักทานข้าว ต้องขอบอกว่าไม่ต้องกลัวอดเลยเพราะที่นี้นั้น มีร้านอาหารแสนอร่อย หลายร้านจะทาน ส้มตำ ไก่ย่าง ขนมจีน ที่นี้มีหมด พอทานกันอิ่มแล้ว เราก็รีบไปชมไฮไลท์ของงานคือการแสดงตอนรับวันสงกรานต์ ชมโชว์ตระการตา พร้อมร่วมรดน้ำแขกที่มาชม ดูแล้วช่างอบอุ่นเสียเหลือเกิน การมาในครั้งนี้เรามาเที่ยวช่วงวันหยุดสงกรานต์พอดี เลยทำให้เราได้ชมการแสดงโชว์ ในครั้งนี้ จากนั้นเรารีบไปชมการแสดงไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด คือการแสดงโชว์ปลาโลมา
การแสดงโชว์ความสามารถของปลาโลมานั้น มีความน่ารักน่าเอ็นดู เสียจริงๆ ครูฝึกก็ดูเอ็นดูน้องปลาโลมา เหมือนกับเป็ลูกเป็นหลาน ความสนุกของปลาโลมาคือ โชว์การกระโดดรอดห่วง การร้องเพลง ของเสียงเจ้าปลาโลมา ขอบอกเลยว่าการชม การแสดงของที่นี่ เป็นการแสดงที่ดีมากๆ ค่ะ ไม่แพ้ที่อื่นๆ ไม่แค่ในประเทศ แต่รวมถึงต่างประเทศเลยค่ะฝรั่งยังตบมือกันเกรียวกราวเลยครับ แน่นขนัดไปด้วยผู้คน ประมาณ 3,000 คนเลยที่เดียว
หลังจากจบการดูโชว์ปาโลมาแล้วเรามานั่งพักเอาแรงกันที่ร้าน Animal Cafe ตั้งอยู่ภายในซาฟารีเลยค่ะ ใกล้กับเวทีโชว์นก ร้านนี้มีคอนเซปตกแต่งเมนูของหวานเป็นรูปสัตว์ชนิดต่างๆ ให้เข้ากับบรรยากาศค่ะ ภายในร้านติดแอร์ มีโต๊ะไม้มีอยู่เยอะเหมือนกันค่ะ เมนูที่เราสั่งเป็น Zebra Crossing 250 บาท เมนูตกแต่งจัดเต็มมาเป็นลายม้าลายน้อยเลย เป็นไอศกรีมวนิลากับถ่ายทวิสกัน เสิร์ฟพร้อมกับเค้กช็อคโกแลตลาว่าไหลเยิ้มพร้อมแผ่นน้ำตาลลายม้าลาย
ซาฟารีเวิลด์ เปิดบริการทุกวัน Open Hours
ซาฟารีปาร์ค Safari Park 9.00-17.00 น.
มารีนปาร์ค Marine Park 09.00-18.00 น.
วันจันทร์ -ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 9.00-17.00 น.
วันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 9.00- 18.00 น.
(เปิดรับรถเข้าซาฟารีปาร์คคันสุดท้ายเวลา 17.00 น.
อัตราค่าเข้าชม
ค่าบัตรผ่านประตูชุด Package (Safari Park + Marine Park) สำหรับผู้ใหญ่ราคา 680 บาท และเด็ก (ความสูง 101-140 ซม.) ราคา 580 บาท
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่
โทร. (02) 518-1000-19, (02) 914-4100-9 หรือที่
เว็บไซต์ www.safariworld.com