เฉียบคมในรอยยิ้ม กับ พรพิมล ปักเข็มประธานกรรมการ Match House Learning Center ศูนย์กลางนวัตกรรมและทางเลือกด้านการศึกษา
เกิดคำถามขึ้นกับตนเองว่า แล้วเด็กๆ จะเรียนไปเพื่ออะไร เพราะในขณะที่เราส่งเสริมให้พวกเด็กๆ เรียนเก่งขึ้น แต่เรายังไม่รู้เลยว่าศักยภาพของเด็กเป็นอย่างไร เป้าหมายในชีวิตของเขาเป็นอย่างไร ทำให้เริ่มเรียนรู้และมองหาว่าจะมีกระบวนการอะไรบ้างที่จะช่วยให้เด็กสามารถค้นหาเป้าหมายของตนเองได้
“สิ่งที่ห่วงที่สุดคือลูก อธิษฐานทุกคืน… ขอให้ลูกมีความสามารถในการแยกแยะสิ่งผิดสิ่งถูก และกล้าปฏิเสธในสิ่งที่ผิด เรื่องนี้หญิงมองว่าสำคัญมาก และให้ถือเป็นนโยบายสำหรับคุณครูและทีมงานของ Match House Learning Center ทุกคน เพราะถึงแม้ว่าเราจะเป็นโรงเรียนนอกเวลา แต่เราควรใส่ใจ ใส่คุณธรรม จริยธรรม และสอดแทรกวิธีคิดที่ถูกต้องให้กับเด็กๆ ด้วย”
คุณพรพิมล ปักเข็ม ประธานกรรมการ บริษัท แมทซ์ เฮ้าส์ จำกัด หรือ Match House Learning Center ศูนย์กลางด้านการศึกษาที่มีความโดดเด่นและแตกต่างจากโรงเรียนกวดวิชาทั่วไป ด้วยการใช้เครื่องมือและนวัตกรรมทางการศึกษาหลากหลายรูปแบบเข้ามาช่วยในการวิเคราะห์ ประมวลผล ค้นหาศักยภาพและนำไปสู่แนวทางที่ถูกต้องชัดเจน
“หญิงมีธุรกิจหลายรูปแบบ สำหรับ Match House เป็นธุรกิจแรกที่ทำ เพราะเป็นนักเรียนทุนที่จบมาทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ โดยตรง จากมหาวิทยาลัยทักษิณ ตอนนั้นมีความรู้สึกว่าเราอยากช่วยให้เด็กมีความรู้ มีความเข้าใจในวิชาคณิตศาสตร์ให้ได้ง่ายยิ่งขึ้น อยากเป็นคนที่คอยแนะนำ คอยดูแลให้เด็กชอบวิชาคณิตศาสตร์และไปต่อในทางคณิตศาสตร์ให้ได้ด้วยดี นั่นเป็นความรู้สึกเมื่อเริ่มทำ Match House
…แล้วอยู่มาวันหนึ่ง ก็เกิดคำถามขึ้นกับตนเองว่า แล้วเด็กๆ จะเรียนไปเพื่ออะไร เพราะในขณะที่เราส่งเสริมให้เด็กๆ เรียนเก่งขึ้น แต่เรายังไม่รู้เลยว่าศักยภาพของเด็กเป็นอย่างไร เป้าหมายในชีวิตของเขาเป็นอย่างไร ทำให้เริ่มเรียนรู้หาและมองหาว่าจะมีกระบวนการอะไรบ้างที่จะช่วยให้เด็กสามารถค้นหาเป้าหมายของตนเองได้ ซึ่งในปัจจุบันเราก็ได้นำเครื่องมือหลายอย่างเข้ามาใช้ จุดนี้น่าจะเป็นจุดสำคัญในการเปลี่ยน Match House Learning Center จากแต่เดิมที่เป็นโรงเรียนกวดวิชามาเป็นศูนย์รวมด้านการศึกษาซึ่งนำเอาศาสตร์จากหลายที่เข้ามารวมไว้ด้วยกัน เพื่อให้เป็นศูนย์รวมด้านการศึกษาจริงๆ”
หลากหลายนวัตกรรมด้านการศึกษา นำพาสู่ความสำเร็จ
เครื่องมือที่ใช้ในการค้นหาศักยภาพและความถนัดของแต่ละคน นอกเหมือจากนวัตกรรมวิเคราะห์ลายนิ้วมือแล้ว ที่ใช้ในการวิเคราะห์แล้วยังมี Personality test (แบบทดสอบบุคลิกตัวตน) เป็นแบบทดสอบความเหมาะสมด้านอาชีพ , แบบทดสอบศักยภาพที่เหมาะสมกับบุคลิกตัวตน และ IQ Test ด้วยเครื่องมือวัดที่ได้มาตรฐานระดับโลกผู้ปกครองทราบถึง IQ ของบุตรหลานเพื่อสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการวางแผนชีวิต การเรียนและอนาคตได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ เพื่อให้เกิดความมั่นใจยิ่งขึ้นว่ากระบวนการวิเคราะห์ด้วยหลากหลายเครื่องมือนี้ให้คำตอบไปในทิศทางเดียวกัน
“ในส่วนของการค้นหาศักยภาพด้วยนวัตกรรมวิเคราะห์ลายนิ้วมือนั้น ทาง Match House ใช้กับเด็กเล็ก เพื่อจะรู้ได้ว่าเด็กแต่ละคนมีความสามารถด้านใด อนาคตควรไปสายอาชีพแบบไหน ควรเตรียมความพร้อมอย่างไร ควรให้การสนับสนุนโดยเน้นไปทางด้านไหนเป็นพิเศษ สำหรับเด็กโตหรือผู้ปกครองที่อาจต้องการความมั่นใจว่าผลการวิเคราะห์จะมีความถูกต้องแม่นยำมากน้อยแค่ไหน หลายแบบทดสอบมีผลการวิเคราะห์ที่ตรงกันหรือไม่ เราก็จะมีเครื่องมือในการวัดผลอื่นๆ เป็นองค์ประกอบ ไม่ว่าจะเป็น Personality test (แบบทดสอบบุคลิกตัวตน) และ IQ Test รวมถึงเครื่องมือในการทดสอบอื่นๆ ที่หลากหลายด้วย
สิ่งหนึ่งที่เราจะเห็นข้อดีได้อย่างชัดเจนเมื่อเด็กเชื่อมั่นในศักยภาพของตนเองและมีเป้าหมายในชีวิต เด็กคนนั้นจะไปถึงเป้าหมายของเขาได้เร็วกว่าเด็กที่ไม่เคยรู้เลยว่าเขามีศักยภาพในด้านไหน ควรจะเรียนอะไร ประกอบอาชีพอะไร ไม่มีข้อมูลอะไรเลยเกี่ยวกับความสามารถที่แฝงอยู่ในตัวของเขาเอง เขาก็จะใช้เวลาหมดไปอย่างไม่มีจุดหมาย เรียนไปเรื่อยๆ แบบสะเปะสะปะ หรืออาจไปเรียนในสาขาวิชาที่ไม่ได้ถนัดจริงๆ ก็จะไม่ทำให้เกิดผลดีขึ้นกับทุกฝ่าย ทั้งกับเด็ก คุณครูและผู้ปกครองเองก็จะเหนื่อย เราน่าจะเคยได้ยินบ่อยๆ เกี่ยวกับเด็กที่สอบเข้าเรียนได้ แล้วไม่ชอบ ไม่ถนัด ต้องกลับมาเตรียมตัวสอบใหม่ บางคนจบแล้วด้วยซ้ำยังต้องมาเรียนเพิ่มอีกสาขาวิชา ทำให้ต้องเสียเวลา บางครั้งเพิ่งมารู้ตัวว่าศักยภาพของเขาจริงๆ มีอยู่ในด้านไหน หรืออาจมีศักยภาพแฝงแต่ไม่เคยรู้ ไม่เคยได้รับการพัฒนา เสียเวลา เสียโอกาสในการทำงานไปอย่างน่าเสียดาย
Top Talent Program ค้นพบศักยภาพ ชี้นำสู่จุดหมาย
นอกจากการค้นพบศักยภาพเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายให้ได้อย่างรวดเร็วแล้วนั้น ยังต้องเข้าใจถึงลักษณะการเรียนรู้ (Learning Style) ของแต่ละคนซึ่งไม่เหมือนกันอีกด้วย บางคนเรียนรู้ได้ดีโดยผ่านการฟัง (Auditory Learner) บางคนต้องเรียนรู้ผ่านการลงมือปฏิบัติ (Kinesthetic Learner) บางคนเรียนรู้ได้ด้วยการมองเห็น (Visual Learner) หรือบางคนเรียนรู้ได้ผ่านการอ่านและเขียน (Read and Write Learner) ดังนั้นหากทุกฝ่ายมีความเข้าใจตรงกันในเรื่องนี้ เท่ากับมีข้อมูลที่ดีมากสำหรับการเรียนการสอนและการสื่อสาร ระหว่างโรงเรียน คุณครูและผู้ปกครอง
“ล่าสุดนี้เรามี Top Talent Program ซึ่งเน้นเรื่องเป้าหมายในชีวิต เป็นโปรแกรมที่มีความแม่นยำสูงถึง 90-95 เปอร์เซ็นต์ เหมาะสำหรับการจัดการร่วมกันระหว่างโรงเรียน องค์กรและสถาบันการศึกษาต่างๆ เนื่องจากโปรแกรมนี้มีค่าใช้จ่าย แต่ให้ผลเป็นเลิศ หากทางโรงเรียน สถาบันฯ หรือสมาคมผู้ปกครอง เข้าใจและให้ความสำคัญในเรื่องนี้ ก็จะช่วยให้เด็กทุกคนได้มีโอกาสวิเคราะห์ลายนิ้วมือเพื่อค้นหาลักษณะการเรียนรู้ที่เหมาะสมและศักยภาพโดยกำเนิด ผลดีที่ตามมาก็คือทางโรงเรียน หรือสถาบันฯ จะได้ประโยชน์ในเรื่องการเรียนการสอน คุณครูก็จะเข้าใจนักเรียนและดูแลนักเรียนได้ง่ายขึ้น ทำให้โปรแกรม Top Talent มีกระแสตอบรับดีมาก ทั้งในส่วนของผู้บริหารโรงเรียนและสมาคมผู้ปกครอง เพราะทุกฝ่ายก็อยากเห็นเด็กแต่ละคนสำเร็จและโดดเด่นในแบบฉบับของแต่ละคน
และเนื่องจากจุดเด่นของโปรแกรมนี้คือสามารถแยกได้ว่า ลักษณะการเรียนรู้ ศักยภาพ และความสามารถ ของทั้งห้องเป็นแบบไหน คิดเป็นสัดส่วนกี่เปอร์เซ็นต์ คุณครูก็สามารถเอาข้อมูลที่ได้นี้มาจัดกิจกรรมเพื่อให้เกิดผลดีในด้านการพัฒนานักเรียนให้ครบถ้วนทุกด้าน เช่น สามารถรู้ได้ว่าเด็กนักเรียนห้องนี้มีระดับไอคิวค่อนข้างสูง แต่อีคิวยังอยู่ในระดับค่อนข้างกลางหรือล่างลงมา คุณครูก็ควรจัดกิจกรรมที่ช่วยเสริมสร้างอีคิวให้มีเพิ่มมากขึ้น
อีกทั้งโปรแกรม Top Talent สามารถนำไปใช้ร่วมกับหลักสูตรของโรงเรียนได้เป็นอย่างดี ยกตัวอย่าง เช่น คุณครูสอนคณิตศาสตร์ ถ้ารู้ว่า ลักษณะการเรียนรู้ ของเด็กแต่ละคนเป็นอย่างไร พฤติกรรมของคุณครูก็จะเปลี่ยนไปแทนที่จะบอกว่านักเรียนต้องฟัง แต่นักเรียนบางคนไม่ได้เรียนรู้ผ่านการฟัง แต่เรียนรู้ผ่านการลงมือปฏิบัติ คุณครูก็ต้องใช้แบบฝึกหัดช่วยในการสอน หรือเด็กบางคนอาจเรียนรู้ผ่านการมองเห็น สื่อที่เป็นรูปภาพและมีสีสันน่าดึงดูด จึงต้องเข้ามามีบทบาทในการเรียนรู้ของเด็กประเภทนี้เป็นอย่างมาก ในที่สุดเมื่อครูรู้แล้วว่าเด็กคนไหนมีการเรียนรู้ได้ดีในแบบไหน คุณครูก็จะรู้ว่าควรจัดการเรียนการสอนให้กับนักเรียนในแต่ละคน แต่ละห้องอย่างไร ให้พวกเขาได้เรียนรู้อย่างเต็มที่และเต็มประสิทธิภาพของ
ตอบโจทย์ คิดต่าง สร้างสรรค์
ในขณะเดียวกัน Top Talent Program ได้ถูกนำมาใช้ที่ Match House Learning Center ด้วยเช่นเดียวกัน ได้รับกระแสตอบรับจากผู้ปกครองในระดับดีเยี่ยม เพราะเป็นองค์ประกอบหลักในการตอบโจทย์สำหรับผู้ปกครองส่วนใหญ่ได้เป็นอย่างดี“รูปแบบการเลี้ยงดู การใช้ชีวิต โดยเฉพาะการศึกษาของบุตรหลานในปัจจุบันได้เปลี่ยนไปแล้ว จะเห็นได้ว่าในสมัยก่อนเมื่อลูกหลานของเราเดินทางมาถึงจุดหนึ่ง เส้นทางจะเป็นเหมือนยอดปีรามิด ทางจะค่อยๆ แคบเข้าไปอยู่ในเป้าหมายเดียวกันทั้งหมด เหมือนเป็นแบบฟอร์มเดียวกันว่าลูกจะต้องสอบเข้าโรงเรียนนี้ แล้วสอบเข้าเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยนี้ให้ได้ แต่ในปัจจุบันวิธีคิดได้เปลี่ยนไปแล้ว โดยเฉพาะเมื่อมีเครื่องมือในการค้นหาศักยภาพเข้ามาเป็นตัวช่วยชี้ทางที่เหมาะสมกับลูกหลานของแต่ละท่าน แนวคิดของผู้ปกครองก็เปลี่ยนไป ทำให้ความหลากหลายในสายอาชีพมีเพิ่มมากขึ้น การส่งเสริมความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านก็มีมากขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน เช่น เด็กบางคนอาจโดดเด่นด้านศิลปะ แต่ที่ผ่านมากลับไม่ได้รับการสนับสนุน เด็กโดนปิดกั้นความสามารถอย่างน่าเสียดาย เพราะถ้าเด็กได้เรียน ได้รับการสนับสนุน ได้พัฒนาก็จะโดดเด่นมากยิ่งขึ้น”
ประกาศจุดยืน เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้และทางเลือกด้านการศึกษา
“บทบาทของ Match House Learning Center มีจุดยืนที่ชัดเจนคือเป็นศูนย์กลางทางด้านการศึกษา เป็นผู้แนะนำแนวทางให้กับน้องๆ ร่วมกับผู้ปกครองในการวางแผนการเรียนให้กับเด็ก นอกจากวิชาหลักอย่างคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ แล้วเรายังมีวิชาอื่นเสริมเพื่อเติมเต็มให้อีกด้วย เช่น วิชาการเงิน เรามองว่าเด็กควรรู้เรื่องการเงินให้เร็ว ในต่างประเทศมีการเรียนการสอนในเรื่องนี้ให้กับเด็กๆ แล้ว
แต่เมืองไทยยังไม่ได้สอน เราอยากมีคอร์สให้หลากหลายมากขึ้น เพื่อให้เหมาะกับเด็กแต่ละคนนอกจากนี้เราจะมีคอร์สในส่วนของผู้ปกครองด้วย มีการจัดสัมมนากลุ่มย่อยสำหรับผู้ปกครองในเรื่องของการเลี้ยงลูก เนื่องจากจะเห็นได้ว่าผู้ปกครองก็มีหลายเจนเนอเรชั่น บางครั้งคุณปู่ คุณย่า เลี้ยงหลาน ก็จะเกิดความไม่เข้าใจกัน ที่วางแผนไว้จะเปิดสัมมนาฟรีในบางโอกาส จุดประสงค์หลักเพื่อให้เด็กและผู้ปกครองเข้าใจกัน ก็จะเกิดความสุข เด็กเองก็ไม่เครียด ผู้ปกครองก็จะไม่ทำให้เด็กรู้สึกว่าโดนบีบบังคับเพราะเรามีจุดยืนเป็น Learning Center เราจึงไม่ได้มองคนอื่นเป็นคู่แข่ง เรามองทุกคนเป็นพาร์ทเนอร์ สามารถมาจับมือกันได้ เช่น Match House Learning Center จับมือกับ ดร.เมี่ยง จินตคณิต เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้มีทางเลือกเพิ่มมากขึ้น เพราะ ดร.เมี่ยง โดดเด่นในเรื่องการสอนด้วยลูกคิดและการจินตภาพ เหนืออื่นใดเรามองที่ประโยชน์สูงสุดของเด็ก สำหรับช่วงนี้ก็กำลังเปิดเพิ่มอีกหนึ่งพาร์ท สำหรับคุณครูบางท่านที่มีหลักสูตรที่โดดเด่น แต่ไม่มีสถานที่ เราก็ยินดีที่จะได้มาร่วมงานกัน หรืออะไรก็ตามที่เป็นผลประโยชน์กับเด็กในวันนี้ เราอยากเป็นส่วนหนึ่งในการให้โอกาสนั้น และให้เด็กได้มีโอกาสเลือกหลายๆ วิชา เราเองก็ไม่ได้เก่งทุกด้าน เราอาจจะเชี่ยวชาญ คณิต – วิทย์ แต่ในส่วนของภาษาจีน เราก็ยังต้องมีพาร์ทเนอร์จากเมืองจีน COLEMAN EDUCATION ACADEMY (THAILAND) มาร่วมงานกัน ซึ่งตอนนี้ก็กำลังทำหลักสูตรจีนเพื่อในการเตรียมสอบ HSK หรือ สนททนาในชีวิตประจำวัน และทำซัมเมอร์ที่ประเทศจีน หรือจัดส่งนักเรียนไปเรียนที่ประเทศจีน โดยเราจะเลือกเมืองที่ค่อนข้างเป็นเมืองด้านการศึกษา ขณะเดียวกันอากาศต้องดี ไม่จอแจ และเต็มไปด้วยความสวยงามของวัฒนธรรมของเมืองจีน ตอนนี้อยู่ระหว่างการทำ MOU กับทางฝ่ายจีนค่ะ”
พาร์ทเนอร์ต้องใช่ พร้อมก้าวไปด้วยกัน
“เราขยายงานโดยทำตลาดในระบบแฟรนไชส์ โดยเฟ้นหาเจ้าของธุรกิจนี้ที่มีความใส่ใจและยอมรับได้ในหลักการเดียวกัน เพราะผู้ที่จะเข้ามาเป็นพาร์ทเนอร์กับเราต้องมีความชอบงานด้านการศึกษาก่อน ต้องมีใจ ต้องเอาใจใส่นักเรียนและผู้ปกครอง เราเป็นเหมือนส่วนหนึ่งในครอบครัวของเขา บางครั้งผู้ปกครองจะมาปรึกษา มาฝาก หรือบอกว่าช่วยคุยกับลูกให้หน่อยในเรื่องนี้เรื่องนั้น เพราะด้วยความที่ในบางเรื่องเด็กมักจะเชื่อครูมากกว่าผู้ปกครอง การเป็นคุณครูนอกจากประสิทธิประศาสตร์ความรู้ให้กับเด็กแล้ว ยังเป็นเหมือนที่ปรึกษาของเด็กด้วย
แฟรนไชส์ Match House Learning Center เริ่มต้นที่ 350,000 บาท ระยะเวลา 5 ปี มีค่าธรรมเนียมรายเดือน 15% และค่าการตลาดอีก 5%
โดยแฟรนไชส์ซี ต้องมีทำเล สถานที่ ที่เห็นว่าเหมาะสม ทางเรามีหลักสูตร แนวทางการสอน และให้สิทธิ์ในการสแกนลายนิ้วมือ รวมถึงให้ใช้โปรแกรมการบริหารจัดการโรงเรียนทั้งหมดด้วย”
ซื่อสัตย์ ทุ่มเท เอาใจใส่ ให้ความรักต่อผู้อื่น
“ปัญหาอุปสรรคเกิดขึ้นอยู่ทุกปี เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพียงแต่เราจะผ่านปัญหาและอุปสรรคนั้นๆ ไปได้อย่างไร เมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมาก็เกิดปัญหาการขาดสภาพคล่องทางเศรษฐกิจ มีผลกระทบไปในวงกว้าง กระทบไปถึงผู้ปกครองด้วย เราก็ต้องคิดแคมเปญที่จะช่วยลดคอร์สให้ผู้ปกครองได้ อย่างเช่นล่าสุด ให้เอาใบเสร็จค่าเทอมที่โรงเรียนมาเป็นส่วนลดในการชำระค่าใช้จ่ายสำหรับคอร์สต่างๆ หรือถ้าไม่สะดวกชำระทั้งหมด เราก็มีนโยบายให้แบ่งชำระได้ ก็ต้องช่วยกัน เพราะเด็กๆ แต่ละคนก็อยู่กับเรามานาน เกิดเป็นความผูกพัน มีอะไรก็ต้องช่วยกัน พึ่งพิงกันและกัน และไม่ว่าจะมีปัญหามากแค่ไหน ไม่ว่าจะทำอะไรเราต้องรับผิดชอบต่อสังคม ต้องทุ่มเทในสิ่งที่ทำ ต้องซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมากับลูกค้าในทุกด้าน เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ยึดถือมาโดยตลอด อะไรก็ตามที่เราทำเราต้องกล้าพูดได้อย่างเต็มปากว่าเราได้ทำดีและเลือกสิ่งที่ดีที่สุดแล้วจริงๆ”
หยิบยื่นความรู้ คืนกำไรสู่สังคม
“ในส่วนของ Match House เราทำงานเพื่อสังคมมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการไปสอนเด็กที่ต่างจังหวัด การบริจาคอุปกรณ์การเรียนต่างๆ บริจาคหนังสือเรียนต่างๆ หรือการเข้าไปแนะแนวด้านการศึกษาต่อให้กับเด็กๆ และเราไม่ได้เลือกว่าต้องวางแผนให้เฉพาะกับเด็กของเราเท่านั้น เรายินดีแนะนำให้กับเด็กๆ ทุกคน เพราะนอกจากเว็บไซต์ของเราแล้ว เรายังมีเฟซบุ๊คที่เน้นให้ข้อมูลข่าวสารเป็นเหมือนศูนย์รวมด้านการศึกษา ชื่อ Student Square โดยไม่จำกัดว่าเป็นใครก็สามารถเข้าไปรับข่าวสารได้”
สร้างโอกาสที่ดีให้กับลูก เพื่อการเติบโตอย่างมีทิศทาง
“เรามองว่าเด็กเป็นอนาคตจริงๆ จึงอยากให้เด็กแต่ละคนได้ใช้ศักยภาพที่เขามีได้อย่างเต็มที่ ก็อยากเชิญชวนผู้ปกครองพาเด็กของท่านเข้ามา เข้ามาทำนวัตกรรมวิเคราะห์ลายนิ้วมือ มาทำแบบทดสอบ IQ Test, Personality test (แบบทดสอบบุคลิกตัวตน) ก็ได้ค่ะ เพราะในวันนี้เรามีเครื่องมือมากพอสำหรับเป็นแนวทาง เป็นแผนที่ให้กับเด็ก เครื่องมือเหล่านี้เปรียบเหมือนเป็นข้อมูลเบื้องต้นให้กับเราได้เป็นอย่างดี เหมือนเราจะไปไหน เราวางแผนไว้ก่อน เมื่อถึงเวลาเดินทางจริงๆ เราจะใช้แผนนี้หรือไม่ก็ตามเราก็ได้วางแผนแล้ว หรือเราอาจใช้แผนฉุกเฉินแทนก็ได้ แต่เรามีแผน ย่อมดีกว่าแน่นอน
ขอย้ำอีกครั้งว่าเมื่อไหร่ที่เด็กรู้แนวทางของเขาได้อย่างชัดเจน เขาจะสามารถไปถึงเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว หญิงอยากเชิญชวนให้ผู้ปกครองได้มีโอกาสเข้ามาค้นพบศักยภาพของลูก มาวางแผนการเรียน ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่คุ้มค่ามากในการที่เราจะมีข้อมูลต่างๆ สำหรับลูกให้มากที่สุด ลองเปรียบเทียบดูว่าแค่เราจะซื้อบ้าน จะซื้อรถ หรือซื้ออะไรก็ตาม เรายังต้องการข้อมูลมากมายมาประกอบการตัดสินใจ แล้วยิ่งถ้าเป็นเรื่องของลูก ข้อมูลเกี่ยวกับอนาคตของลูกยิ่งนับเป็นเรื่องสำคัญที่สุด เหนืออื่นใดเราหวังว่าเด็กแต่ละคนจะสามารถนำศักยภาพที่เขามีออกมาใช้ได้อย่างคุ้มค่า เพื่อความสำเร็จแบบไม่ต้องเสียเวลาในการที่จะค้นหาตัวเองแบบไร้ทิศทาง”
ความสุขของครอบครัวคือคำตอบของชีวิต
“สำหรับหญิง เรื่องการบริหารเวลาเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ยากที่สุด แต่ต้องพยายามทำให้ลงตัวให้ได้ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของธุรกิจ ครอบครัว โดยเฉพาะต้องให้เวลากับลูกให้มากที่สุดซึ่งหญิงถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ก็ไม่ง่ายค่ะ ยิ่งตอนนี้กำลังโฟกัสที่โปรแกรม Top Talent ด้วย Rassapoom Clinic สาขาเดอะมอลล์บางแค ด้วย ช่วยงานสามีในเรื่องการนำเข้าสินค้ามาจากเมืองจีนด้วย แล้วยังมีธุรกิจน้องใหม่ที่กำลังฮอตกระแสดีมากๆ ในตอนนี้ คือ เพนนี พรีเมียม ป็อบคอร์น (Pennii Premium Popcorn) รู้สึกภูมิใจมาก ทั้งที่ยังไม่ได้ทำตลาดจริงจังแต่ได้ผลตอบรับดีมาก มีออเดอร์เข้ามาเยอะ ไม่ขาดสาย เป็นการตลาดแบบบอกต่อปากต่อปากจริงๆ เรื่องเวลาจึงต้องมีการบริหารจัดการให้ดี
เรื่องที่สำคัญที่สุดคือต้องให้เวลากับลูก 2 คน เพราะลูกยังเป็นเด็กเล็ก ยังต้องการให้เราอยู่ด้วยตลอดเวลา แต่บางครั้งเราทำงานนอกบ้าน กลับช้าหญิงจะมีกฎกติกากับลูกว่าเมื่อกลับจากโรงเรียนถึงบ้าน แล้วลูกจะโทรหาเรา ถ้าเราไม่รับสาย ลูกจะโทรจนกว่าเราจะรับสาย หรือแม้แต่ไปต่างประเทศ ถ้าลูกไม่ได้ไปด้วย เราต้องซื้อแพ็คเกจโทรฯ เพื่อให้เธอโทรได้ตลอดเวลา คุยได้นานแค่ไหนก็ได้ หรือแม้แต่ในรายละเอียดเล็กน้อยอื่นๆ เราก็ต้องใส่ใจ ให้ความสำคัญ เพราะไม่ว่าเราจะทำธุรกิจอะไร ประสบความสำเร็จ มากน้อยแค่ไหน ความสุขที่แท้จริงก็คือครอบครัวนั่นเอง และหญิงคิดว่านิยามความสุขของแต่ละครอบครัวก็คือความสุขความสำเร็จของลูกเช่นเดียวกัน”
ตกผลึกประสบการณ์ชีวิตและธุรกิจของ คุณพรพิมล ปักเข็ม (คุณหญิง) นักบริหารหญิงยุค 4.0 ผู้มีมุมมองเฉียบคม ภายใต้รอยยิ้มสดใส และ Match House Learning Center ซึ่งพลิกฝ่ามือด้วยวิสัยทัศน์ของคุณหญิง จากโรงเรียนกวดวิชาทั่วไป มาเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ด้านการศึกษา เป็นโอกาสและทางเลือกของเด็ก ตอบโจทย์ทั้งวิธีคิดและการใช้ชีวิตในปัจจุบัน
หากท่านใดสนใจทำธุรกิจและร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาการเด็กๆ ได้ที่
https://www.matchhouse.school/franchise/