มร.แดลเนียล ชวาล์บ, กรรมการผู้จัดการภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอินเดีย – CAMPARI GROUP (คนกลาง) และ มร.แพททริค โบท, ผู้จัดการทั่วไปโรงแรมคิมป์ตัน มาลัย กรุงเทพฯ (คนที่ 3 จากขวา) ร่วมเป็นเจ้าภาพจัดงาน “Negroni Week 10th Anniversary” การกุศลฉลองครบรอบ 10 ปีในประเทศไทย ณ Bar Yard สำหรับรายได้ส่วนหนึ่งตลอดการจัดงานตลอดทั้งสัปดาห์จะนำไปบริจาคให้กับ Slow Food International องค์กรการเคลื่อนไหวระดับโลกสู่ชุมชนท้องถิ่นและการรณรงค์ด้านวัฒนธรรมอาหารที่ดำเนินการในกว่า 160 ประเทศทั่วโลก โดยมีจุดประสงค์เพื่ออนุรักษ์อาหารท้องถิ่นและอาหารประจำชาติ รวมถึงศิลปะการปรุงอาหารแบบดั้งเดิมที่กำลังจะถูกเลือนหาย ด้วยวิสัยทัศน์ที่ต้องการเผยแพร่ไลฟ์สไตล์แนวใหม่โดยยึดหลักผู้ผลิตเข้มแข็ง ผู้บริโภคได้ประโยชน์ และเป็นมิตรต่อโลก โดยในงานได้รับเกียรติจาก มร.อาโนลด์ ชอนเฟลเดอร์, ผู้จัดการทั่วไป บริษัท อัลเคมี่ ประเทศไทย (ขวาสุด) คาร์ล่า ปอร์เทอร์, วาชินี ไกรฤกษ์, ศศิวิมล ดารารัตนโรจน์, ณิชชา บุณยากร ร่วมงาน.

สำหรับ “Negroni Week 10th Anniversary” เรียกได้ว่าเป็นงานการกุศลเฉลิมฉลองครบรอบ 10 ปี ในประเทศไทย โดยมีเหล่าเซเลบริตี้ อินฟลูเอนเซอร์ รวมถึงสื่อมวลชนทุกแขนง แห่เข้าร่วมแสดงความยินดี พร้อมยลโฉม รวมทุกลุคสุดแกลมในธีม “RED Passion” สีแดงเข้มตามแบบฉบับ CAMPARI เครื่องดื่มเรียกน้ำย่อย Aperitivo (อะเพริติโว) สีแดงเข้มซึ่งเป็นเอกลักษณ์ระดับตำนานสำหรับคนชั้นสูงจากประเทศอิตาลี หรือเรียกติดปากกันคือเหล้าผู้ดีอิตาลี ถือเป็นเครื่องดื่มที่มีความคลาสสิคร่วมสมัยและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ก่อกำเนิดเกิดขึ้น ณ เมืองโนวารา (Novara) ในปี ค.ศ. 1860 โดยการเเช่เเละหมักด้วยพืชสมุนไพร อีกทั้งพรรณไม้หอมรวมถึงผลไม้หลากหลายชนิด ถูกกลั่นกรองออกมาเป็นสีแดงเข้ม ซึ่งทำให้รสชาติออกขมอมหวานกลิ่นหอมหวลเข้มข้น ผนวกกับรสชาติที่สร้างแรงบันดาลใจ Campari จึงเป็นสัญลักษณ์ของความตราตรึงเพลิดเพลินใจมิ เสื่อมคลาย สัมผัสประสบการณ์ในการดื่มอันน่าหลงใหล และนี่คือคุณค่าที่สร้างสรรค์แบรนด์ Campari อันลือชื่อไปทั่วโลก ถือเป็นสัญลักษณ์ในสไตล์อิตาเลียนโน่ที่โดดเด่นน่าหลงใหล และมาพร้อมกับความเป็นเลิศ.


ในราวปี ค.ศ. 1919 ณ เมืองฟลอเรนซ์, ประเทศอิตาลี เมื่อ “ท่านเคานท์ กามิลโล เนโกรนี” (Count Camillo Negroni) กำลังใคร่ครวญถึงการสั่งอเมริกาโน่อยู่นั้นก็ตัดสินใจได้ว่า ถึงเวลาแล้วที่ต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่าง ท่านเคานท์ ตัดสินใจให้บาร์เทนเดอร์ใช้เหล้าจินแทนการใช้โซดา ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากการเดินทางสู่กรุงลอนดอน, ประเทศอังกฤษ ซึ่งได้เห็นภาพการใช้เหล้าจินอย่างแพร่หลาย เหล่าบาร์เทนเดอร์ก็ยินดีที่จะทำตามความประสงค์เพื่อเป็นเกียรติแด่ “ท่านเคานท์ กามิลโล เนโกรนี” เขาใช้ส้มฝานแทนการใช้มะนาวฝานสำหรับปรุงแต่งอเมริกาโน่ เพื่อเป็นสื่อแสดงถึงเครื่องดื่มชนิดใหม่ที่รังสรรค์ขึ้นมาในเมืองฟลอเรนซ์ ถือเป็นเมนูประจำตัวของท่านเคานท์ จึงเป็นที่ขนานนามและรู้จักไปทั่วคือ “อเมริกาโน่ของท่านเคานท์เนโกรนี” (Count Negroni’s Americano) หรือ อเมริกาโน่ที่มีกลิ่นอายสัมผัสของเหล้าจิน ซึ่งถือเป็นจุดกำเนิดของเนโกรนีค็อกเทล ทั้งนี้ Negroni เป็นหนึ่งในค็อกเทลคลาสสิคร่วมสมัยที่โด่งดังที่สุดไม่ว่าคุณจะเดินทางไปที่ไหนทั่วโลก คุณก็สามารถหามิกซ์โซโลจิสต์ที่สามารถเนรมิต เนโกรนี Negroni ที่สมบูรณ์แบบให้คุณได้ด้วยสูตรต้นตำรับที่โดดเด่นจากส่วนผสมที่รวมกันอย่างลงตัวมีอายุราวเกือบศตวรรษ และยังคงนำพาความสุขมาสู่ มิกซ์โซโลจิสต์และเหล่าแฟนๆที่ชื่นชอบ Campari มาจนกระทั่งทุกวันนี้ สมาพันธ์บาร์เทนเดอร์นานาชาติ (The International Bartenders Association, IBA) จึงได้บรรจุ Campari ไว้เป็นส่วนผสมอย่างเป็นทางการของ classic Negroni ดังนั้นจึงไม่มี Negroni ที่ปราศจาก Campari.
สามารถติดตามข่าวสารกิจกรรมตลอด Negroni Week 2022 ได้ที่ http://www.negroniweek.com หรือติดตามแฮชแท็ก #NegroniWeek2022 #Camparinegroni #Negroni #Campari #Imbibe @Campariofficial บนโซเชียลมีเดีย

