เพ็ญ สุขสมบูรณ์วงศ์ ชื่อนี้นอกจากเป็นที่คุ้นหูในแวดวงสังคมชั้นสูง ฐานะเซเลบริตี้ระดับเอลิสต์แล้ว ในทำเนียบ Business Women เก่งของเมืองไทยเธอยังได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้หญิงแถวหน้าคนหนึ่ง ในปัจจุบันเธอดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซองแลนด์ จำกัด (Songland Limited) ซึ่งดำเนินธุรกิจและเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด รวมถึงต่างประเทศ เช่น อาคารพิมาน แมนชั่น สาธร ห้องชุดบ้านเจ้าพระยา โครงการบ้านสวนลลนา สวนหลวง โรงแรม
แอมธาดา เจริญนคร 11 ห้องชุด Sukhothai Residence โครงการธาราวดี พัทยาใต้ โครงการโรงแรมที่หาดในยาง จังหวัดภูเก็ต ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในฮ่องกง เป็นต้น นอกจากโปรเจ็กต์อสังหาริมทรัพย์ระดับพันล้านแล้ว คุณเพ็ญยังเป็นเจ้าของแบรนด์อัญมณี Penn Collections อีกด้วย
If there is a problem in
business, we view it as a
“cancer”. We can either
choose to die or get rid
of it, or even live with
it as a friend
“ทั้งสองธุรกิจ เริ่มมาจากสิ่งที่เหมือนกัน คือ ความรัก ความชอบ และความเข้าใจ เพราะถ้าไม่มีสิ่งนี้แล้ว ก็จะไม่สามารถทำาทั้งสองอย่างได้เลย” คุณเพ็ญ กล่าวด้วยน้ำาเสียงและแววตาที่เปี่ยมความสุข ก่อนจะฉายภาพการโผผินสู่น่านฟ้าธุรกิจ
I Was The One With All The Glory
คุณเพ็ญ เป็นบุตรสาวคนเล็กของ คุณเจริญ-คุณวลี สุขสมบูรณ์วงศ์ เจ้าของธุรกิจก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ที่ทำางานให้กับบริษัทชั้นนำา ระดับโลกอย่างเช่น ไทย โอบายาชิ, อิตาเลี่ยนไทย เป็นต้น หลังจากที่สะสมประสบการณ์การทำางานด้านอสังหาริมทรัพย์จากบริษัทใหญ่ๆ หลายต่อหลายบริษัท รวมถึงจากบิดา คุณเพ็ญจึงผันตัวมา สร้างอาณาจักรของตนเอง “อสังหาฯ เหมือนอยู่ในสายเลือดอยู่แล้ว เพราะเห็นมาตั้งแต่รุ่นคุณพ่อ และก็เติบโตมากับตรงนี้ Songland LTD (บริษัท ซองแลนด์ จำากัด) ตั้งขึ้นเมื่อปี 1997 (พ.ศ. 2540) ในภาวะฟองสบู่แตก หรือ วิกฤติต้มยำากุ้ง เริ่มแรกเป็นการซื้อขายที่ดินและพร็อพเพอร์ตี้ต่างๆ เพื่อเก็งกำาไร อย่างที่ทราบกันดี ว่าช่วงนั้นเป็นช่วงวิกฤติเศรษฐกิจ แบงก์ไม่ปล่อยกู้ การลงทุนต่างๆ หยุดชะงัก เพ็ญใช้วิธีเก็บเงิน ทีละเล็กทีละน้อยแล้วนำามาซื้อที่ดินเก็บไว้เก็งกำาไร” ดังที่กล่าวมาแล้วในเบื้องต้นว่าขุมทรัพย์ อสังหาฯ ภายใต้การลงทุนของ Songland LTD นั้นมีมากมากหลายโปรเจ็กต์ ซึ่งแต่ละโครงการล้วน มีความโดดเด่นในด้าน Creativity การจัดสรรพื้นที่ที่ตอบโจทย์ของผู้บริโภคในการอยู่อาศัย ให้ความ สำาคัญและเลือกสรรวัสดุอย่างพิถีพิถัน โดย ส่วนหนึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากประสบการณ์การ เดินทางของนักธุรกิจสาวที่ได้รับฉายาว่า “เจ้าแม่ อสังหาริมทรัพย์”“จากประสบการณ์ในการเดินทางไปประเทศต่างๆ เราก็จะพยายามเรียนรู้โนว์ฮาว เทคโนโลยี การออกแบบสถาปัตยกรรมที่มีคุณภาพจากทั่วโลก กลายเป็นว่าทุกประเทศที่เราเดินทางไปนั้นทำาให้เราซึมซับและรักความเป็นนักธุรกิจไปโดยไม่รู้ตัว อาจเป็นไปโดยสัญชาตญาณ จึงมักไปดูบ้านตรงนั้นตรงนี้ เรียกว่าทุกที่ที่เพ็ญเดินทางมักจะมีงานเข้าไปแทรกอยู่ด้วยเสมอ จะนำาเทคโนโลยีใหม่ๆ และพวกวัสดุที่เซฟเอ็นเนอร์ยี เช่น หลอดไฟแอลอีดี (LED) ที่จะช่วยประหยัดเกินกว่า 70% ของการใช้ไฟ หรือเทคโนโลยีประตูรีโมทที่สั่งการด้วยโทรศัพท์ โดยเราจะนึกถึงผู้หญิงที่ต้องมาเปิด-ปิด (ลาก) ประตู หรือการติดตั้ง Timer ควบคุมการเปิด-ปิดไฟหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าอัตโนมัติ เพื่อความปลอดภัยสำาหรับบ้านที่มีแต่ผู้หญิง มีเด็กอ่อน ต้องเดินทางบ่อย หรือมีแต่คนแก่อยู่บ้าน” คุณเพ็ญถ่ายทอดแรงบันดาลใจอย่างภาคภูมิใจ
You Were Content To Let Me Shine
“ชอบ… มาตั้งแต่เด็กๆ แต่ไม่รู้ตัว ซึมซับมาจากคุณแม่ ตอนเด็กๆ เมื่อกลับมาจากโรงเรียนจะเห็นคุณแม่อยู่กับเครื่องเพชร นำาเครื่องเพชรมาทำาความสะอาด พอไปอยู่ใกล้ๆ ท่านก็จะได้แหวนมาสักวง หรือสร้อยสักเส้น ประกอบกับเรามีพี่สาวถึงสามคน ซึ่งเป็นธรรมดาที่ผู้หญิงจะชอบการแต่งตัว ชอบจิวเวลรีอยู่แล้ว ซึ่งคงจะสะสมความชอบอยู่ในใจเรามาช้านาน… แล้วเพ็ญเป็นคนชอบดรออิ้ง ก็ได้ฝึกลองสเก็ตมาเรื่อยๆ ดรออิ้งไม่สวย แต่มี Imagination มีไอเดียกระฉูด ว่าทำาไมถึงเป็น อย่างนั้น ทำาไมเป็นอย่างนี้” ด้วยมนต์เสน่ห์แห่งจิวเวลรีได้ทำาให้คุณเพ็ญค้นพบน่านฟ้าธุรกิจใหม่และแรงบันดาลใจในการ สร้างสรรค์ผลงาน… จากการที่มีโอกาสเดินทางไปยัง สถานที่ต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ และด้วย สายเลือดจีนที่มีอยู่ในตัว คุณเพ็ญจึงนำาลวดลวยของดอกโบตั๋น เกล็ดมังกร นกยูง และอื่นๆ มาเป็น แรงบันดาลใจในการดีไซน์เครื่องประดับจิวเวลรี พร้อมคำานึงถึงประโยชน์การใช้สอย แต่ก็ยังไม่ได้ทำาแบรนด์เป็นจริงจัง“
“เรามักบอกว่าไม่มีเวลาๆ… เพ็ญมีโอกาสไปปฏิบัติธรรมที่วัดผาณิตาราม จังหวัดฉะเชิงเทรา วันหนึ่งช่วงที่จะออกจากการนั่งสมาธิ เพ็ญคิดได้ว่า “อย่าบอกตัวเองว่าไม่มีเวลา ทุกคนมีเวลายี่สิบสี่ชั่วโมงเท่ากัน อยู่ที่ว่าจะทำามั้ย” พอกลับมาจึงบอกกับฝ่าย HR ให้หาดีไซเนอร์ให้หน่อยเพ็ญจะทำาตัวนี้ และอีกส่วนก็คือ เวลาไปบริจาคเงินให้วัด เพ็ญยังใช้เงินที่มาจากรายได้ของพร็อพเพอร์ตี้ซึ่งเป็นรายได้หลักของครอบครัวด้วยความศรัทธาของเรา ก็เริ่มรู้สึกว่าเราเอาเปรียบครอบครัว การบริจาคหรือการทำาบุญหมายถึงว่าเราจะต้องไม่เบียดเบียนใคร แม้กระทั่งกับตัวเอง ซึ่งมันไม่แฟร์สำาหรับเขา เพ็ญอยากมีเงินทำาบุญโดยไม่ต้องเบียดเบียนใคร เป็นธุรกิจของเราเพียวๆ (pure) ไม่เกี่ยวกับครอบครัว เราจะควักไปทำาบุญเท่าไหร่ก็ได้ จึงกลายมาเป็นธุรกิจอัญมณี Penn Collections” Collections อัญมณีของคุณเพ็ญนั้นไม่ธรรมดาเลย เพราะนอกจากจะมีราคาสูงแล้ว (บางชิ้นราคาถึง 10 ล้านบาท) ยังได้นำาไปวางจำาหน่ายที่ห้างสรรพสินค้าเก่าแก่มีชื่อเสียงของฮ่องกง Lane Crawford รวมถึงเมื่อมอบให้เป็นของขวัญแก่เพื่อนเซเลบคนดังชาวฮอลลีวูด อาทิ ไคลี่ มิน็อก, ปารีส ฮิลตัน ทุกคน ต่างก็พากันชื่นชอบ
I Can Fly Higher Than An Eagle
“เพ็ญมีความสุขและความสนุกในการทำางาน ถ้าไม่สนุกหรือรู้สึกว่าโดนบังคับก็ไม่อยากจะทำา การทำาธุรกิจเราต้องพึ่งตนเองให้ได้ ถ้าธุรกิจมีปัญหา เกิดขึ้น ปัญหาก็เหมือนกับ ‘มะเร็ง’ เราเลือกที่จะตาย หรือจะตัด คือใช้ชีวิตอยู่กับปัญหา อยู่กับมันเหมือนเป็นเพื่อนคนหนึ่ง เราก็ต้องคิดหาหนทางไปเรื่อยๆ ว่าจะทำาอย่างไรที่จะอยู่กับเพื่อนคนใหม่ที่เราก็ไม่ได้ อยากอยู่ด้วย… แต่ว่าลูกน้องต้องกินต้องเสียภาษี เรา มีหน้าที่ต้องเลี้ยงร่างกายเราให้เดินต่อไปให้ได้แม้ว่า ขณะนั้นเราจะเป็นโรคร้ายอยู่ก็ตาม ปรัชญาการทำางาน ของเพ็ญ เหนื่อยเท่าไหร่ไม่ว่า แต่สิ่งที่ทำาให้เสียใจ คือ ในเวลาที่สถานการณ์ธุรกิจแย่ๆ คนข้างใน กลับทะเลาะกันเอง เพ็ญไม่ชอบการนินทาและเรื่องจุกจิก ในการทำางานเพ็ญจะดูที่ผลของงานความใส่ใจ ความตั้งใจเท่านั้น วันที่รับคนเข้ามาทำางานเราให้เขาเต็ม 100 ที่เหลือคุณจะทำาน้อยกว่าหรือมากกว่า 100 ก็อยู่ที่คนๆ นั้นแล้ว เรื่องเหล่านี้ทำาให้เราท้อ”
79จากภาพลักษณ์ไฮโซสุดเริ่ดที่เจนตาของ คุณเพ็ญ หลายคนคงไม่เชื่อว่านักธุรกิจสาวแถวหน้าคนนี้เข้าวัดปฏิบัติธรรมอย่างจริงจังมาร่วม 10 ปีแล้ว และได้นำาหลักธรรมจาก ‘พุทธศาสตร์’ มาประยุกต์ใช้ในการจัดการบริหารงานและแก้ไขปัญหาควบคู่กับศาสตร์ต่างๆ ในสมัยใหม่ได้อย่างกลมกลืนด้วยคาถาประจำาตัว…“เห็นหนอ คิดหนอ เจอหนอ… จะตั้งคำาถามกับตัวเองไปเรื่อยๆ เพื่อหาทางออก มองที่ปัญหา การแก้ปัญหา จะไม่จมอยู่กับปัญหา เมื่อก่อนอาจจะจมลึกมาก คือสุขก็สุข ไปโลด พอทุกข์ก็ทุกข์ได้เป็นเดือนๆ บางเรื่องอาจเป็นเรื่องเล็กๆ ของคนบางคน แต่เพ็ญอาจจะเป็นเรื่องใหญ่ ทุกข์-สุข ของแต่ละคนไม่เท่ากัน ของเพ็ญติดสุขติดทุกข์แบบสุดกู่ กระทั่งเข้าวัด เรียนรู้การปล่อยวาง ในชีวิตต้องมีอะไรทำาอีกมากมาย การไปวัดช่วยเพ็ญได้มาก เวลาสุขก็ยังอิ่มใจเหมือนเดิม แต่สั้นลง ไม่ยึดติดกับมัน เพราะเรารู้แล้วว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นมันเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป ทุกข์ก็เหมือนกัน เดี๋ยวนี้ก็ไม่ทุรนทุรายกับทุกข์เหมือนแต่ก่อน เพราะเดี๋ยวมันก็มีเรื่องอื่นเข้ามาในชีวิตเรา ไม่พีค (peak) มากเหมือนเมื่อก่อน”
The Wind Beneath My Wings
แม้ยามเยาว์วัยคุณเพ็ญจะได้รับการดูแลดุจ เจ้าหญิงของครอบครัว ‘สุขสมบูรณ์วงศ์’ ไม่เคยรู้จักความลำาบาก ไม่เคยรู้จักคำาว่าปัญหา กิจกรรมใน วัยเด็กมีเพียงเรียนหนังสือและช้อปปิ้ง ในช่วงย่างเข้าวัยรุ่นเมื่อเอ่ยปากว่าอยากได้รถยนต์ คุณพ่อก็จะให้เงินล้านไปซื้อ แม้จะไม่ค่อยได้พบกับพ่อและแม่ ไม่มีกิจกรรมกับครอบครัว แต่คุณเพ็ญก็ยกให้ทั้งสองเป็นไอดอล และเป็นดุจดั่งกระแสลมที่พยุงใต้ปีกของเธอให้โผบินในวันนี้ได้อย่างงามสง่า …
Did I ever tell you you’re my hero? You’re everything, everything I wish I could be. Oh, and I, I could fly higher than an eagle, for you are the wind beneath my wings, ’cause you are the wind beneath my wings…
“เพ็ญเชื่อในเรื่องของความกตัญญู ความอดทน ให้เจอปัญหาเรื่องอะไรต่างๆ มากมายก็ตามแต่ก็ยังมีพ่อแม่คอยซัพพอร์ต ถึงแม้ว่าคุณพ่อคุณแม่ไม่ได้ มีเวลาให้เรายี่สิบสี่ชั่วโมง ไม่ได้มีเวลามานั่งสั่งสอน แต่ว่าเพ็ญมีเวลาเรียนรู้ว่าท่านเหนื่อยและทำางานหนัก คุณแม่จะสอนอยู่เสมอว่าเงินแต่ละบาทที่เราใช้ไป เปรียบเหมือนเหงื่อทุกหยดของคุณพ่อที่ต้องเดินตรวจไซต์งาน เพราะฉะนั้นเวลาจะใช้เงินแต่ละบาท ต้องคิดถึงความยากลำาบากของคุณพ่อ อาจจะเป็นความโชคดีที่คุณแม่สอนตรงนี้… คุณพ่อเป็นเพียงผู้ชาย คนหนึ่งที่เดินทางมาจากเมืองจีนตั้งแต่อายุ 8 ขวบ พาคุณแม่ของตนเองมาตามหาคุณพ่อ พร้อมกับทำางานทุกอย่าง จนก้าวขึ้นมายืนหาเงินเลี้ยงคนนับพันคนได้ในวันนี้ และทุกวันนี้พ่อก็ยังทำางานอยู่เลย ท่านเป็นไอดอลในชีวิตของเพ็ญจริงๆ ส่วนคุณแม่ก็เป็นไอดอลหนึ่งในชีวิตเราเช่นกัน คุณพ่อและคุณแม่คือ ไอดอลที่บาลานซ์กัน คุณแม่จะห่วงเวลาคุณพ่อทำางาน จะแคร์ความรู้สึก เรื่องอะไรที่ไม่ดีก็จะไม่ให้กระทบเลย จะถูกสั่งสอนมาอย่างนี้”
แม้ทุกวันนี้คุณเพ็ญได้ยกย่องหรือตั้งฉายาให้มากมาย อาทิ ไฮโซสาวหมื่นล้าน ไฮโซเครื่องเพชร เจ้าแม่อสังหาฯ เจ้าแม่แบรนด์เนม ฯลฯ แต่คุณเพ็ญกลับให้นิยามตัวเองว่า เป็นคนง่ายๆ เป็นคนธรรมดา“สำาหรับเพ็ญมองว่าตนเองเป็นคนปกติธรรมดาเหมือนคนอื่น แต่เผอิญว่าเรามีโอกาสมากกว่า ได้พูด ได้แก้ปัญหา เพ็ญเชื่อว่าหลายๆ คน เลยที่ยืนตรงนี้แล้วก็ต้องทำาเหมือนอย่างที่เพ็ญทำา มันออโตเมติกนะ เพ็ญว่า อย่ามองคนแค่ภายนอก อย่ามองคนแค่การพูดจา บางคนพูดจาไพเราะ หวานหู อย่ามองแค่ตรงนั้น เพ็ญสามารถรับมือกับความวุ่นวายประจำาวันได้ เพราะมันคืองานที่เป็นสิ่งสะท้อนถึงความสุขของเรา งานที่เราทำาคืองานที่เรารัก เราเลือกแล้ว เราก็ต้องรับผิดชอบ”เพ็ญ สุขสมบูรณ์วงศ์ ถือเป็นภาพสะท้อนของนิยาม “การทำางานด้วยความรัก นำามาสู่ความสำาเร็จ” ได้เป็นอย่างดี… ท้องฟ้ากว้างไกลยังคงมีพื้นที่อีกมากมาย สำาหรับอินทรีที่มีความรักในงานที่ทำาเป็นดั่งกระแสลมที่โอบพยุงใต้ปีกขึ้นมาโบยบินอย่างมีความสุข เพียงแต่ว่าต้องค้นหาความรักนั้นให้พบ…
Fly, fly, fly high against the sky…
I can handle daily chaos since it is the job that reflects our happiness. Our job if what we love and since we made this choice, we must take responsible for it