สถานทูตศรีลังกาประจำประเทศไทยร่วมกับกรมส่งเสริมการท่องเที่ยวของศรีลังกา ได้จัดงานทางวัฒนธรรมโดยสมาชิกจากกองทัพบกศรีลังกา ในค่ำคืนแห่งการฟ้อนรำและลั่นกลอง “คลื่นแห่งท่วงทำนอง” หรือ “ธาละ ธารังกะ” เมื่อวันที่ 19 มกราคม ณ หอประชุมสมาคมธรรมศาสตร์ กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย
คณะนักแสดงจากกองทัพบกศรีลังกานำโดยผู้กอง อจิธ รุวันปุระ และประกอบด้วยนักแสดงอีก 7 นาย ได้แก่ นางอนุชิ เอรันดิกะ, นางนิสันสาละ ดิลฮานิ, นายปรีธิ วิรัจ, นายอุดายะ กุมาระ, นายลาซันธา กุมาระ, นางมัลกะ ดิเลชิ และ นางดิลินี เอรันดิกะ ร่วมแสดงการเต้นระบำที่มีสีสันสวยงามตามแบบฉบับของวัฒนธรรมชาวแคนดี้ (ที่ราบสูง) และการแสดงรูปแบบต่าง ๆ ของชนพื้นเมืองในที่ราบลุ่ม การตีกลอง และ การร้องประสานเสียงของท้องถิ่น
ในงานนี้ นางซามานธา เค จายาสุริยา เอกอัครราชทูตศรีลังกาประจำประเทศไทย ได้ให้เกียรติกล่าวเปิดงาน โดยท่านได้กล่าวถึงประวัติศาสตร์ของศิลปะการเต้นรำและตีกลองที่มีบันทึกในประวัติศาสตร์ของศรีลังกากว่า 800 ปี มีการตีกลองด้วยกันทั้งสิ้น 35 ประเภทที่ใช้ในประเทศศรีลังกา และการแสดง “คลื่นแห่งท่วงทำนอง” ยังรวมไปถึงการลั่นกลองในพิธีทางศาสนาที่เรียกว่า “เฮวิสิ” ซึ่งใช้ในการประกอบพิธีในวัดพระธาตุเขี้ยวแก้ว มีการแสดงยอดนิยม “วันนัม” ซึ่งพรรณนาถึงการเคลื่อนไหวของช้างมงคล เรียกการแสดงชุดนี้ว่า “กาจากะ วันนัมมะ” และ การแสดงเลียนแบบท่าทางของนกยูงที่เรียกว่า “มายุระ วันนัมมะ” ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเคลื่อนไหวร่างกายอันงดงามและทรงพลัง การแสดงเปิดตัวโดยนักแสดงเต้นระบำให้รูปแบบพื้นเมืองที่เรียกว่า “เวส” และเครื่องแต่งกายของนักแสดงที่พรรณนาถึงเทพเจ้าแห่งสุริยะ รวมไปถึงการแสดง “เธ็ลเมะ” ซึ่งเป็นการเต้นตามท่วงทำนองคลาสสิคตามแบบฉบับของชนพื้นเมืองในที่ราบลุ่ม ต่อด้วยการเต้นประกอบพิธีกรรมของชนพื้นเมืองที่ราบลุ่มที่ชื่อว่า “ซาลุ ปาเลีย” และตบท้ายด้วยการตีกลองแบบออเครสตร้าซึ่งแสดงให้เห็นถึงทักษะของนักตีกลองกับเครื่องตีหลักห้าประเภทด้วยกันซึ่งรวมไปถึงระฆังแล่ะขลุ่ย
สำหรับแขกผู้มีเกียรติที่เข้าร่วมในงาน อาทิ คณะนักการทูตที่ประจำอยู่ในประเทศไทย สื่อมวลชน ผู้สนับสนุน นักศึกษาจากมหาวิทยาลัย พี่น้องชาวไทยและชาวศรีลังกาที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย ซึ่งต่างได้ร่วมชมวิดิทัศน์เกี่ยวกับสถานที่ที่น่าสนใจและโรงแรมที่พักในประเทศศรีลังกาด้วยเช่นกัน นอกจากนั้นยังมีโบรชัวร์ประชาสัมพันธ์โดยกรมส่งเสริมการท่องเที่ยวศรีลังกามาแจกให้แก่ผู้ร่วมงานด้วย โดยผู้ร่วมงานทุกท่านยังได้เพลิดเพลินกับการจิบ “ชาซีลอน” และอาหารว่างที่จัดไว้ต้อนรับในงานนี้ด้วย