ฮอนด้า พร้อมเปิดศึกครั้งยิ่งใหญ่กับ “ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2019”นำนักกอล์ฟไทยร่วมดวลวงสวิงกับนักกอล์ฟหญิงระดับโลก
ครั้งแรกของการจัดแข่งขันรอบ National Qualifiers ภายใต้ความร่วมมือระหว่างฮอนด้าและภาครัฐเพื่อส่งเสริมการพัฒนากีฬากอล์ฟในประเทศไทย
บรรยายภาพ: พิทักษ์ พฤทธิสาริกร (ที่ 4 จากซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับ วินนี่ เฮง (ที่ 7 จากซ้าย) รองประธาน และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอเอ็มจี เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด จัดงานแถลงข่าวการแข่งขันกอล์ฟสตรี ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2019 โปรแกรมการแข่งขันกอล์ฟระดับโลก โดยมี อิทธิพล คุณปลื้ม (ที่ 6 จากซ้าย) ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, ปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ (ที่ 8 จากซ้าย) รองนายกเมืองพัทยา และโปรโม – โมรียา จุฑานุกาล (ที่ 5 จากซ้าย) ร่วมงาน ณ โรงแรมเชอราตัน แกรนด์ สุขุมวิท
บุคคลในภาพ (จากซ้าย)
- เขมทัตต์ พลเดช กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)
- พัชรา อนงค์จรรยา ผู้อำนวยการกองเผยแพร่โฆษณาต่างประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
- พลัฏฐ์ สุวรรณเมธากร ผู้อำนวยการกองบริหารงานและมาตรฐานกีฬาอาชีพ ฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย การกีฬาแห่งประเทศไทย
- พิทักษ์ พฤทธิสาริกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด
- โปรโม – โมรียา จุฑานุกาล
- อิทธิพล คุณปลื้ม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
- วินนี่ เฮง รองประธาน และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอเอ็มจี (ประเทศไทย) จำกัด
- ปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ รองนายกเมืองพัทยา
(กรุงเทพฯ – 1 พฤศจิกายน 2561) บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับไอเอ็มจี พร้อมเปิดศึกดวลวงสวิงครั้งยิ่งใหญ่ สานฝันนักกอล์ฟไทยร่วมดวลวงสวิงกับนักกอล์ฟหญิงระดับโลก ในศึกกอล์ฟสตรี ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2019 ระหว่างวันที่ 21 – 24 กุมภาพันธ์ 2562 ณ สยามคันทรีคลับ พัทยา โอลด์คอร์ส จ.ชลบุรี และพิเศษสำหรับปีนี้ จัดการแข่งขันรอบ Honda LPGA Thailand National Qualifiers เพื่อเฟ้นหานักกอล์ฟไทยเต็งหนึ่งไปร่วมลงสนามกับนักกอล์ฟหญิงทั่วโลกรวม 70 คน ชิงเงินรางวัลสูงกว่า 53 ล้านบาท พร้อมผลักดันกิจกรรมให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอกย้ำมาตรฐานและมุ่งพัฒนาศักยภาพนักกอล์ฟไทยสู่เป้าหมายนักกอล์ฟอาชีพ
นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2019 เป็นการแข่งขันกอล์ฟอาชีพสตรี ซึ่งจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 13 โดยปีนี้จัดขึ้น
การแข่งขัน ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2019 ครั้งนี้ มีนักกอล์ฟสตรีเข้าร่วมทำการแข่งขันทั้งหมด 70 คน ประกอบด้วยโปรกอล์ฟ 58 คน ที่มาจากการจัดอันดับของแอลพีจีเอทัวร์ประจำปี 2019 (2019 LPGA Priority List) ซึ่งในปี 2018 ที่ผ่านมา มีโปรกอล์ฟจาก 10 อันดับแรก ที่มาจากการจัดอันดับ 2018 LPGA Priority List เข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด พร้อมด้วยโปรกอล์ฟ 2 คน ซึ่งเป็นผู้ชนะจากรายการ Pure Silk-Bahamas LPGA Classic 2019 และรายการ 2019 ISPS Handa Women’s Australian Open อีกทั้งนักกอล์ฟรับเชิญอีก 9 คน และอีกหนึ่งคนที่ได้จากการคัดเลือกในการแข่งขัน Honda LPGA Thailand National Qualifiers
สำหรับปีนี้ ได้ร่วมมือกับการกีฬาแห่งประเทศไทย จัดกิจกรรมในชื่อ Road to Honda LPGA Thailand ขึ้นเป็นครั้งแรก โดยมีเป้าหมายในการพัฒนากีฬากอล์ฟในประเทศไทย ไม่เพียงแค่พัฒนาศักยภาพของนักกอล์ฟ ยังรวมไปถึงการเพิ่มศักยภาพกีฬากอล์ฟในประเทศไทยให้ทัดเทียมวงการกอล์ฟระดับโลก โดยไฮไลท์อยู่ที่การจัดการแข่งขันรอบ Honda LPGA Thailand National Qualifiers ณ สยามคันทรีคลับ พัทยา โอลด์คอร์ส ซึ่งเป็นการคัดเลือกนักกอล์ฟสาวไทย 1 คน ที่จะได้รับสิทธิ์ร่วมแข่งขันในทัวร์นาเมนต์ภายใต้โควต้า National Qualifier โดยจะจัดขึ้นในช่วงเดือนมกราคม 2562 เพื่อเปิดโอกาสให้นักกอล์ฟหญิงของไทยทั้งมืออาชีพและมือสมัครเล่น ได้ร่วมประลองฝีมือ และสัมผัสประสบการณ์การแข่งขันระดับโลกในประเทศไทยอีกด้วย
นอกจากนี้ จะมีการจัด งานสัมมนา Young Ambassadors ซึ่งเป็นกิจกรรมให้ความรู้ด้านการจัดการแข่งขันกีฬากอล์ฟ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจแก่เยาวชนทั่วไปที่มีความสนใจ พร้อมมอบโอกาสการไปฝึกงานในต่างประเทศ ในอนาคต และงานสัมมนา Golf Leaders Conference ที่จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมให้บุคลากรและผู้ปฏิบัติงานในวงการกอล์ฟ ได้มาร่วมแลกเปลี่ยนความรู้ในการบริหารจัดการ เพื่อพัฒนากีฬากอล์ฟในประเทศไทยต่อไปอย่างยั่งยืน
นายอิทธิพล คุณปลื้ม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า “ความสำเร็จอย่างต่อเนื่องของ ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ ช่วยสร้างชื่อเสียงให้กับกีฬากอล์ฟและมีส่วนพัฒนาศักยภาพของนักกอล์ฟไทยในการก้าวสู่การเป็นนักกอล์ฟอาชีพไปทั่วโลก ทั้งยังสอดคล้องกับนโยบายของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ในการส่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยวเชิงกีฬา เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เข้าสู่ประเทศไทยมากขึ้น โดยเฉลี่ยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ตั้งใจมาเล่นกีฬากอล์ฟในประเทศไทยราว 400,000 คนต่อปี และ
มีสัดส่วนการใช้จ่ายสูงกว่านักท่องเที่ยวทั่วไปถึง 2 – 3 เท่า สามารถสร้างรายได้ให้แก่ประเทศถึงปีละ 4.8
พันล้านบาท โดยในปีที่ผ่านมา กลุ่มนักท่องเที่ยวกอล์ฟเพิ่มขึ้น 10 – 12% การจัดงาน ฮอนด้า แอลพีจีเอ
ไทยแลนด์ จึงมีส่วนช่วยในการส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศให้ก้าวหน้าเป็นอย่างยิ่ง”
นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ รองนายกเมืองพัทยา กล่าวว่า “เมืองพัทยามีความภาคภูมิใจที่ได้เป็นสถานที่จัดการแข่งขัน ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ อย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลากว่า 10 ปี ซึ่งการได้รับความไว้วางใจนี้ แสดงให้เห็นถึงมาตรฐานและความพร้อมของเมืองพัทยา ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันซึ่งจัดขึ้น ณ สยามคันทรีคลับ พัทยา โอลด์คอร์ส สนามกอล์ฟที่ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในสนามที่ดีที่สุดในประเทศไทยและได้มาตรฐานระดับภูมิภาค โดยติด 1 ใน 100 ของ The World’s 100 Greatest Golf Course 2018 จัดอันดับโดยกอล์ฟไดเจสท์อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีการคมนาคมที่สะดวกสบาย โรงแรมที่พักชั้นนำ สถานที่ท่องเที่ยวอันสวยงาม การให้บริการที่ดีเยี่ยม รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานที่พร้อมรองรับ และสร้างความประทับใจให้แก่นักกีฬา และแฟนกอล์ฟทุกท่านที่มาเยือนได้อย่างแน่นอน”
มิสวินนี่ เฮง รองประธานและกรรมการผู้จัดการ ไอเอ็มจี ประเทศไทย กล่าวว่า “การจัดการแข่งขัน ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ มีมาตรฐานระดับสากลอย่างต่อเนื่อง โดยความร่วมมือกันระหว่างไอเอ็มจี ฮอนด้า และแอลพีจีเอ เรามีความภูมิใจที่ปัจจุบันทัวร์นาเมนต์นี้ ถือเป็นการแข่งขันกอล์ฟที่สำคัญประจำปีและยังเป็นรายการแข่งขันสำคัญของประเทศ ซึ่งในปีนี้มีเงินรางวัลกว่า 1.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 53 ล้านบาท เพื่อมอบให้แก่นักกอล์ฟในศึก ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2019 ซึ่งเราหวังว่าการแข่งขันรายการนี้ จะช่วยพัฒนามาตรฐานกีฬากอล์ฟของประเทศและคาดหวังว่าจะได้เห็นความแข็งแกร่งของนักกีฬากอล์ฟไทยในการแข่งขัน
ครั้งนี้ นอกจากนี้ ยังมี อสมท ร่วมเป็นพันธมิตรด้านการถ่ายทอดสดการแข่งขันทั่วประเทศ โดยออกอากาศตลอดระยะเวลา 4 วันของการแข่งขัน ทางช่อง 9 MCOT HD เพื่อให้ผู้ชมได้รับชมกีฬากอล์ฟระดับโลกอย่างทั่วถึง
ซึ่งจะช่วยให้การแข่งขันระดับโลกนี้ได้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายมากยิ่งขึ้น อีกทั้งเราจะจัดกิจกรรมเพิ่มเติมมากยิ่งขึ้นสำหรับผู้เข้าชมตลอดการแข่งขันด้วยเช่นกัน”
สำหรับการพัฒนาของนักกอล์ฟหญิงไทยซึ่งได้เข้ามาเล่นในทัวร์นาเมนต์ ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ หลายคนได้พัฒนาสู่เส้นทางนักกอล์ฟอาชีพและประสบความสำเร็จในระดับโลก ล่าสุดโปรเม หรือ เอรียา
จุฑานุกาล ซึ่งทำผลงานดีอย่างต่อเนื่อง ขยับขึ้นไปเป็นมือ 1 ของโลกได้สำเร็จอีกครั้ง จากการจัดอันดับของ Rolex Rankings ในขณะที่ โปรโม หรือ โมรียา จุฑานุกาล ซึ่งเป็นพี่สาว ในปีนี้สามารถคว้าแชมป์แรกใน
แอลพีจีเอ ทัวร์ จากรายการ ฮูเจล-เจทีบีซี แอลเอ โอเพ่น (Hugel-JTBC LA Open) ได้สำเร็จเมื่อเดือนเมษายน
ที่ผ่านมา และเตรียมเข้าร่วมแข่งขันและสร้างสีสันให้กับทัวร์นาเมนต์นี้
โมรียา กล่าวว่า “ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ ถือเป็นบ้านที่อบอุ่น และเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ได้ก้าวขึ้นมาแข่งขันในระดับอาชีพ นอกจากนี้ยังเป็นสนามที่สร้างและเปิดโอกาสให้นักกอล์ฟหญิงดาวรุ่งจากทั่วโลกได้ประลองฝีมือกัน นับเป็นเวทีแสดงความสามารถของนักกอล์ฟชาวไทย ในการสานฝันเพื่อก้าวสู่การแข่งขันระดับอาชีพอีกด้วย การได้ลงแข่งในทัวร์นาเมนต์ที่มีแต่นักกอล์ฟระดับโลก ถือเป็นโอกาสอันดี ที่จะช่วยให้ได้เรียนรู้ พัฒนาทักษะและฝีมือการเล่น จึงอยากจะขอให้แฟนๆ กอล์ฟชาวไทย มาร่วมเชียร์และเป็นกำลังใจให้กับนักกอล์ฟไทยทุกคนในการแข่งขันครั้งนี้”
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถซื้อบัตรชมการแข่งขันราคาพิเศษ (Early Bird) พร้อมส่วนลด 25% ได้ตั้งแต่วันนี้ – 16ธันวาคม 2561 ผ่านทางเว็บไซต์ www.hondalpgathailand.com โดยเลือกได้ทั้งบัตรเข้าชมทั่วไปและบัตรวีไอพีซึ่งเริ่มจำหน่ายเป็นปีแรก สำหรับบัตรวีไอพีนั้น ผู้ถือบัตรจะได้รับสิทธิพิเศษในการใช้บริการห้องรับรองบริเวณคลับเฮ้าส์ ณ สยาม คันทรีคลับ พัทยา โอลด์คอร์ส จ.ชลบุรี
สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแข่งขัน “ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2019” ได้ที่ www.hondalpgathailand.com และ www.facebook.com/lpgaThailand