นิตยสาร ME ครบรอบ 9 ปีและพิธีมอบรางวัลอันทรงเกียรติ ME AWARDS 2017ให้กับ 13 นักธุรกิจชั้นนำของเมืองไทย
บริษัท มี (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตนิตยสาร ME MAGAZINE Thailand (Market Evolution) ดำเนินธุรกิจก้าวเข้าสู่ปีที่ 9 และได้มีการจัดงานครบรอบ โดยคุณอาภาพิชา สุวรรณปาน กรรมการผู้จัดการ จัดงานในครั้งนี้ เพื่อเป็นขอบคุณลูกค้าที่ให้การสนับสนุนนิตยสารโดยดีมาตลอดระยะ 9 ปี และนิตยสารได้พัฒนาและขยายการรองรับเข้าสู่โลกดิจิตอล เราได้เปิดตัว “MEMAG ONLINE” ผ่านเว็ปไซด์ www.memagazine.co.th ภายใต้ชื่อชื่อบริษัท WORK WITH ME CO.,Ltd.
ในโอกาสพิเศษนี้ เราได้มีโอกาสมอบรางวัลพิเศษให้กับนักธุรกิจที่โดดเด่นในปี 2017 ภายใต้ชื่องาน ME AWARDS 2017 ในคอนเซ็ป Executive of Digital Transformation Process เพื่อมอบรางวัลอันทรงคุณค่าให้กับนักธุรกิจแต่ละบริษัทที่มีทั้งองค์ความรู้-ความสามารถด้านการบริหารจัดการ มีคุณธรรม จริยธรรม ทั้งหมด 13 ท่าน ในแต่ละสาขาอุตสาหกรรมธุรกิจในเมืองไทย ภายใต้ ธีมงาน 9 years of advancement and sustainability เราได้คัดเลือกสุดยอดนักบริหาร CEO เพื่อมอบรางวัลอันทรงเกียรติ เพื่อเป็นแรงและกำลังใจให้กับนักธุรกิจในประเทศไทย เพื่อเชิดชูเกียรติแก่บุคคลในวงการธุรกิจที่ประสบความสำเร็จเหล่านี้ และยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่จะเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยและในอนาคต
รายชื่อและรางวัลสำหรับ Me Awards 2017 13 ท่าน 13 สาขารางวัล ได้แก่
คุณอดิศร์ พฤกษ์พัฒนรักษ์
OPERATIONAL EXCELLENCE AWARD
ADIS PEUKPATTANARUKS
CHIEF EXECUTIVE OFFICER OF ITALTHAI INDUSTRIAL CO.,LTD.
เป็นนักธุรกิจที่มีเส้นทางการบริหารงานอยู่ในองค์ระดับโลก เพราะกุมบังเหียนในตำแหน่งผู้นำธุรกิจของค่ายแอร์ยักษ์ใหญ่ของโลกแบรนด์ “เทรน” ยาวนานถึง 18 ปี สามารถทำยอดขายแอร์ในไทยให้เติบโต 3 เท่าใน 7 ปี แต่เมื่อได้รับโอกาสเลื่อนขั้นเป็น President ไปประจำที่เซี่ยงไฮ้ เขายอมทิ้งเก้าอี้ผู้บริหารสูงสุดเพื่ออยู่กับครอบครัว และย้ายมานั่งเก้าอี้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อิตัลไทยอุตสาหกรรม จำกัด (ITI) อย่างเต็มภาคภูมิ โดยมีภารกิจสำคัญ คือ การสร้างยอดขายเติบโตเท่าตัว จาก 4,000 ล้านบาทเป็น 8,000 ล้านบาท ให้กับกลุ่ม ITI แต่ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่กำลังซื้อไม่ขยายตัวมากนัก และ “คู่แข่ง” เข้ามาแบ่งเค้กมากขึ้นอย่างมีนัยยะในตลาดเครื่องจักรกลอุตสาหกรรม เพื่อมองหาตลาดใหม่ทดแทนตลาดเก่า สิ่งเหล่านี้เป็นโจทย์หินไม่น้อย
ยิ่งไปกว่านั้นองค์กรเก่าแก่มีบุคลากรหลายเจนเนอเรชั่น “เป็นความท้าทาย ที่จะเดินไปข้างหน้าได้ โดยทำอย่างไรให้คน 2 เจนเนอเรชั่น ดึงความสามารถเชิงรุกของคนรุ่นใหม่ มาผนวกกับประสบการณ์คนรุ่นเก่า ให้กลายเป็นอาวุธลับของอิตัลไทยแล้วเคลื่อนธุรกิจไปข้างหน้า นี่เป็นความท้าทายที่ต้องทำให้ได้ ถ้าทำได้จะเป็นแรงผลักดันธุรกิจคูณ 2 แต่ถ้าทำไม่ได้อาจจะสร้างจุดแตกหักให้ธุรกิจเช่นกัน”
สำหรับการทำงาน คุณอดิศร์ให้ความสำคัญกับ “ผลลัพธ์” มาก ดังนั้นการทำงานจึงต้อง “สำเร็จ” บรรลุตามเป้าหมายที่วางไว้ แถมอีกข้อที่คุณอดิศร์กำลังดำเนินการ คือ สร้างความเป็นธรรมและทุกคนเสมอภาคกันในองค์กร เจ้านายคุยกับลูกน้องได้ ลูกน้องมีเวทีแสดงออกทางความคิด นี่คือสิ่งที่ผมต้องการสร้างวัฒนธรรมองค์กรใหม่ เท่าเทียม มีสิทธิ์เสียง เพื่อทำให้ Operation ดีขึ้น พนักงานทำงานอย่างมีความสุข สิ่งเหล่านี้หากเปลี่ยนได้ ทุกฝ่ายจะ Win-Win ทั้งบริษัท พนักงาน และลูกค้า
CEO OF THE YEAR AWARD
CHALERMCHAI MAHAGITSIRI
CHIEF EXECUTIVE OFFICER OF PM GROUP CO.,LTD.
CHIEF EXECUTIVE OFFICER AND PRESIDENT OF THORESEN THAI AGENCIES PLC.
ตระกูล “มหากิจศิริ” เป็นหนึ่งในตระกูลต้นๆ ที่ถูกจัดลำดับเป็นอภิมหาเศรษฐีของเมืองไทยด้วยสินทรัพย์ราว 5 หมื่นล้านบาท ภายใต้อาณาจักร “พีเอ็ม กรุ๊ป” ครอบคลุมสินค้าอุปโภคบริโภคแบรนด์ดัง “เนสกาแฟ” ร้านโดนัทเก่าแก่สัญชาติอเมริกัน “คริสปี้ ครีม” “ร้าน “พิซซ่า ฮัท” ธุรกิจอุตสาหกรรมผลิตฟิล์มบี.โอ.พี.พี. สนามกอล์ฟ คอนโดมิเนียม ธุรกิจขนส่ง ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจโครงสร้างขั้นพื้นฐาน เป็นต้น ปัจจุบันอาณาจักรนี้อยู่ภายใต้การกุมบังเหียนของ “เฉลิมชัย มหากิจศิริ” ซึ่งสืบทอดธุรกิจต่อจากบิดา “ประยุทธ มหากิจศิริ” ปัจจุบันคุณเฉลิมชัยควบตำแหน่งประธานกรรมการ บริษัท พีเอ็ม กรุ๊ป จำกัด และกรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน)
การสวมบาทบาท “ผู้นำ” ขับเคลื่อนธุรกิจ ต้อง “มองอนาคตให้ออก” ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างในสมรภูมิธุรกิจที่กำลังทำอยู่ “ต้องมองแต่ละอุตสาหกรรมว่ามีแนวโน้มเติบโตยาวไกลแค่ไหน ผมจึงมองว่าการบริหารงานแบ่งเป็น 2 ส่วนที่สำคัญ ได้แก่ การบริหารจัดการการเงินให้ดี และมีวิสัยทัศน์การลงทุนในอุตสาหกรรมนั้นๆ” การบริหารธุรกิจยุคนี้แตกต่างจากรุ่นก่อนมาก สิ่งที่ต้องปรับเปลี่ยนตลอดเวลาคือ “กลยุทธ์” ซึ่งจะต้องทบทวนทุกๆ 3 เดือน 6 เดือน เพื่อให้ทันกับกระแสโลกธุรกิจไร้พรมแดนในโลกดิจิทัลที่ข้อมูลข่าวสารล้นหลามว่าจะเป็นปัจจัยที่กระเทือนกลยุทธ์เดิม จนส่งผลกระทบต่อธุรกิจหรือไม่ สิ่งที่ต้องวาง คือ ยุทธศาสตร์ และต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ให้ทันกับบริบททางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วด้วย ยิ่งยุคนี้ทุกคนมีข้อมูลในมือ แต่ใครจะนำมาวิเคราะห์ และนำไปต่อยอดให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้บริหารและองค์กรมากกว่า
CEO OF THE YEAR AWARD
รางวัลซีอีโอแห่งปี ผมดีใจนะ..แต่สุดท้ายผมอยากให้องค์กรที่ผมขับเคลื่อนเป็นอย่างฝันไว้ คือ บุคลากรที่ทำงานกับพีเอ็ม กรุ๊ป มีสุข และชีวิตที่ดีขึ้น สุดท้ายชีวิตมีเพียงแค่นี้ ได้เห็นรอยยิ้ม และความสุขจากคนรอบข้าง ซึ่งจริงๆ ผมอยากเห็นจากทุกคน แต่ขอเริ่มต้นจากคนใกล้ๆ ตัว ไม่ว่าจะเป็นองค์กร ครอบครัว อยากเห็นมากสุดเท่าที่จะทำได้ เพราะองค์กร บุคลากร พนักงานมีช่วงผ่านร้อนหนาวมากมาย ผ่านช่วงที่บริษัทไม่สามารถทำกำไร แต่พวกเขายังอยู่และช่วยเหลือกันจนมาถึงวันนี้
คุณอรรฆรัตน์ นิติพน
RISE OF CREATIVITY AWARD
AKARAT NITIBHON
FOUNDED AND CHIEF EXECUTIVE OFFICER OF MUSHROOM GROUP
แม้แวดวงสื่อจะมีการเปลี่ยนแปลงไป มีสถานีโทรทัศน์ดิจิทัลแจ้งเกิด และยังมีโลกดิจิทัลที่ก่อเกิดสื่อสังคมออนไลน์หลากหลายรูปแบบที่ทรงอิทธิพลต่อการรับชมข้อมูลข่าวสาร ถือเป็นปัจจัยภายนอกที่ท้าทาย สำหรับ “คุณอรรฆรัตน์ นิติพน” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มัชรูม กรุ๊ป จำกัด ผู้ผลิตรายการโทรทัศน์ ซีรีส์ รายการเรียลลิตี้โชว์ และการผลิตโฆษณามาร่วม 1 ทศวรรษ นาทีนี้โมเดลการผลิตคอนเทนท์ของเขาไม่ได้จำกัดกรอบอยู่แค่ทีวีอีกต่อไป แต่ได้ขยายสู่แพลตฟอร์มอื่นๆมากขึ้น
“มองการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมสื่อที่เปลี่ยนนำมาซึ่งโอกาสมากมาย และนั่นยังหมายถึงทุกคนสามารถเข้ามาเป็นนักสร้างสรรค์รายการได้เช่นกัน” ในฐานะผู้บริหารจึงไม่หยุดนิ่งในการคิดสร้างสรรค์แม้นาทีเดียว จึงพยายามฉีกกรอบให้แตกต่างออกไปยิ่งขึ้น คุณอรรฆรัตน์กำลังนำทัพมัชรูม กรุ๊ป สร้าง “คอนเทนท์” เพื่อนำไปต่อยอดสร้างชุมชนหรือ Community ขึ้นมาตอบสนองผู้ชมให้ครอบคลุมสื่อทุกแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็นทีวี (On air) สื่อออนไลน์ (Online) และการจัดกิจกรรมภาคสนาม (On ground) เป็นต้น อย่างรายการ “อายุน้อยร้อยล้าน” ทางช่องเวิร์คพอยท์ ที่ก้าวสู่ปีที่ 6 พูดคุยกับนักธุรกิจทั่วฟ้าเมืองไทย เป็นการนำเสนอเรื่องราวธุรกิจที่ประสบความสำเร็จเพื่อช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่ ซึ่งรายการมีฐานผู้ชมหลักล้านคนต่อสัปดาห์ จึงนำจุดแข็งโดย Synergy ทุกช่องทางสื่อ ไม่จำกัดออกอากาศผ่านจอแก้วเท่านั้น แต่ถ่ายทอดผ่านกิจกรรมการสัมมนาทั่วประเทศ ได้รับการตอบรับจากผู้เข้าฟังเป็นจำนวนมาก จนรายการไม่ได้โด่งดังแค่ในไทย แต่ได้นำเสนอในหน้าจอประเทศเพื่อนบ้านทั้งกัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และเวียดนามในชื่อ “Young Self Made Millionaire”
คุณอรรฆรัตน์กล่าวว่า รายการที่ดีเนื้อหาต้องเยี่ยมยอด การสร้างสรรค์โดนใจ ต้องทำในสิ่งที่ผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย “ชอบ เชื่อ ใช่” และมีส่วนยกระดับทำให้ชีวิตของคนเหล่านั้นดีขึ้น มีความสุขขึ้นในทุกวัน สุดท้ายนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงแนวคิดบางอย่างในตัวผู้ชม
RISE OF CREATIVITY AWARD
ผมภูมิใจและขอบคุณสำหรับรางวัล RISE OF CREATIVITY AWARD เพราะปกติผมทำหน้าที่ 2 อย่าง คือ CEO ของมัชรูม กรุ๊ป นำพาองค์กรก้าวไปข้างหน้า อีกบทบาทคือทำหน้าที่เป็นพิธีกร นำเสนอเรื่องรายดีๆ ทำรายการให้ฐานคนดู ผู้บริโภครับชม เมื่อมีคนให้รางวัล จึงสะท้อนว่าสิ่งที่ผม ทีมงานและบริษัททำมีความหมายกับใครหลายคน มีคนมองเห็นงานคอนเทนท์ที่สร้างสรรค์ออกไปเพื่อผู้ชม ถ้าสังคมเห็นแล้วว่าเราทำได้ดี เราจึงภูมิใจ และผมจะนำรางวัลนี้ไปให้ทีมงานทุกคนได้ภูมิใจร่วมกัน เพื่อเป็นกำลังใจ ตังใจผลิตรายการดีๆออกไปสู่สายตาผู้ชมตลอดไป
———————————————————————————————————————————————————————————————
BEST HOSPITALITY MANAGEMENT AWARD
SUKANYA JANCHOO
GENERAL MANAGER OF THE DUSIT THANI BANKOK
เป็นแบรนด์โรงแรมไทยเก่าแก่และสำหรับสั่งสมชื่อเสียงมาอย่างยาวนานสำหรับ “ดุสิตธานี” กุญแจความสำเร็จของโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ “คุณสุกัญญา จันทร์ชู” ผู้จัดการทั่วไป ดุสิตธานี กรุงเทพ ในฐานะ “ผู้นำหญิงคนเก่ง” ที่คร่ำหวอดในธุรกิจบริการมานานนับ 20 ปี บอกว่า การทำธุรกิจ Hospitality ไม่แตกต่างจากธุรกิจอื่นที่เผชิญความยากและง่ายอยู่ทุกมิติ หากแต่ความยากของการดำเนินธุรกิจนี้ คือ “คู่ต่อสู้” ดังนั้นหากรักที่จะทำธุรกิจโรงแรมต้องจำให้ขึ้นใจว่าคู่ต่อสู้นั้นมีมากมายแน่นอน รวมถึงจำนวนห้องพักโรงแรมในกรุงเทพฯ ที่เพิ่มขึ้นจนเข้าสู่ภาวะล้นตลาด คุณสุกัญญากล่าวว่านั่นคือความยาก และความอยากอีกอย่างหนึ่ง คือ การรักษาชื่อเสียงของโรงแรมคงอยู่ตลอด สิ่เหล่านี้เกิดได้เพราะฟันเฟืองอย่างพนักงานที่มีความร่วมมือ ช่วยกันทำงาน”
“เมื่อนักเดินทางนึกถึงแบรนด์ดุสิต เป็นที่รับรู้และเข้าใจกันว่าเราเป็นหนึ่งในโรงแรมไทยที่แข็งแกร่งแบรนด์หนึ่งในประเทศไทย เพราะเราเองยังดำรงรักษาไว้ซึ่งเอกลักษณ์ความเป็นไทยหลายๆ”
คุณสุกัญญาฉายภาพอีกว่า ปัจจุบันการเติบโตขององค์กรไม่เพียงอยู่ในประเทศเท่านั้น การผงาดของแบรนด์โรงแรมไทยในระดับนานาชาติได้ การบริการด้วยหัวใจและความเป็นไทยต้องเกิดขึ้นทุกที่ที่ดุสิตเข้าไปบริหาร การที่ทำงานบริการให้ออกมาดีได้นั้น เกิดจากการผสานพลังทั้งหน้าบ้านและหลังบ้าน และเป้าหมายสูงสุด แน่นอนว่าต้องการบริหารองค์กรให้ประสบความสำเร็จ มิติที่หนึ่ง คือ เรื่องของรายได้ แต่นอกเหนือจากรายได้ คือ เรื่องของพนักงาน จะทำอย่างไรให้เขาเหล่านี้มีโอกาสได้ความก้าวหน้าในอาชีพ จนวันหนึ่งสามารถก้าวมาทำงานกับเราในตำแหน่งนี้
BEST HOSPITALITY MANAGEMENT AWARD
ก่อนอื่นขอบคุณนะคะ รางวัลที่ได้มาจากการที่ทำงานร่วมกับทุกๆ คน แล้วเป็นความภาคภูมิใจของโรงแรมด้วย ไม่ใช่แค่ของสุคนเดียว แต่เรามีโอกาสมองเห็นว่าธุรกิจนี้มีคนที่เป็นกำลังใจให้เรา ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องขอบคุณและภาคภูมิใจมาก
———————————————————————————————————————————————————————————————
คุณสุขเทพ จันทร์ศรีชวาลา
BEST CEO OF SUCCESS AWARD
SUKHATHEP CHANSRICHAWLA
PRESISENT AND CHIEF EXECUTIVE OFFICER OF MITTARE INSURANXE PLC.
“มิตรแท้ประกันภัย” นับเป็นธุรกิจเก่าแก่แห่งหนึ่งของไทย ซึ่งดำเนินธุรกิจมานานถึง 70 ปี ปัจจุบันองค์กรแห่งนี้ นำทัพโดย “คุณสุขเทพ จันทร์ศรีชวาลา” ประธานกรรมการ บริษัท มิตรแท้ประกันภัย (มหาชน) เขาขับเคลื่อนองค์กรแห่งนี้มานานถึง 31 ปีแล้ว จนกลายเป็นบริษัทประกันชั้นนำที่มีรายได้ระดับ 3,000 ล้านบาท ติด Top Ten ของบริษัทประกันภัยชั้นนำไทย
ความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจกว่า 3 ทศวรรษของซีอีโอสุขเทพ คือ การฉีกแนวตลาด คิดนอกกรอบ หมั่นศึกษาแสวงหาความรู้ กำหนด “กลยุทธ์” ด้วยการวางหมากรบใหม่ด้านผลตอบแทน (ค่าคอมมิชชั่น) ให้แก่ตัวแทนประกันเพื่อลดต้นทุน จนกลายเป็นมาตรฐานให้ทั้งอุตสาหกรรม
เพราะเป้าหมายใหญ่ของคุณสุขเทพ ไม่ได้มุ่งไปที่การโฟกัสทำ “กำไร” แต่ให้ความสำคัญกับ “ความมั่นคง” เป็นหลัก
“มิตรแท้เปรียบเสมือนธุรกิจเพื่อสังคมหรือ Social Enterprise เพราะเราเป็นแหล่ง ‘ให้’ กับคนจำนวนมาก ทั้งมีงานทำ ให้ ‘โอกาส’ มีธุรกิจของตัวเองได้โดยการเป็นตัวแทนประกัน ดังนั้นเป้าหมายสูงสุดของผมจึงไม่ได้การหาเบี้ยประกันได้สูงสุด แต่คือการสร้างความมั่นคงให้กับตัวแทน ตัวแทนอยู่กับเราแล้วมีความเป็นอยู่ที่ดี เราสอนให้เขามีความรู้แล้วนำไปต่อยอดสร้างตัวแทนใหม่ๆ เพื่อให้สามารถตั้งตัวได้”
BEST CEO OF SUCCESS AWARD
การได้รับรางวัลครั้งนี้ เป็นธรรมดาที่ย่อมรู้สึกดีใจ แต่รางวัลต่างๆ ผมไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง และรางวัลชีวิตของผมจริงๆ คือ ความรู้สึกที่ดีเวลาไปเยี่ยมตัวแทนประกันและทีมงานที่จังหวัดต่างๆ แล้วเห็นเขาเติบโตก้าวหน้า ประสบความสำเร็จ มีรายได้ มีทีมงานใหญ่โต และขณะนี้เขากำลังไปเดินหน้าสร้างแรงจูงใจให้คนอื่นๆ เดินตามความสำเร็จของเขา นั่นคือความภาคภูมิใจของผมไม่น้อยไปกว่ารางวัลที่ได้รับ เพราะนั่นเปรียบเสมือนมิตรแท้ประกันภัยเป็นองค์กรเพื่อสังคม (Social Enterprise) มากกว่าองค์กรธุรกิจ และผมพยายามไม่หยุดนิ่งที่จะทำประโยชน์ให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholders) ต่อไปเรื่อยๆ นั่นคือความภาคภูมิใจ
———————————————————————————————————————————————————————————————
คุณสายฝน เขียวเกิด SEEKERS OF INNOVATIVES SOLUTIONS AWARD
SAIFON KHEAWKERD
CHIEF EXECUTIVE OFFICER OF SJJ GROUP CO.,LTD.
ตลอดระยะเวลา 20 ปี บนเส้นทางธุรกิจ Metal Sheet ที่มีมูลค่าหลัก “หมื่นล้านบาท” ของบริษัท เอส เจ เจ เพอร์เฟค รูฟ จำกัด ซึ่งให้บริการลูกค้าชั้นนำและครอบคลุมกลุ่มอุตสาหกรรมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจค้าปลีก โลจิสติกส์ คมนาคม โพลีเมอร์สและพลาสติก เป็นต้น มีเบื้องหลังสำคัญเป็นผู้บริหารที่ขับเคลื่อนกิจการแห่งนี้ คือ “คุณสายฝน เขียวเกิด” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอส เจเจ เพอร์เฟค รูฟ จำกัด
เอสเจเจอมีจุดกำเนิดธุรกิจท่ามกลางวิกฤติต้มยำกุ้ง ด้วยเธอเห็น “โอกาส” ทางการตลาดในการรุกธุรกิจหลังคาเหล็ก ด้วยการชู “นวัตกรรม” เป็นจุดแข็งและจุดขาย ทั้งที่ยุคนั้นอสังหาริมทรัพย์ ตลอดจนธุรกิจการเงินต่างๆ พังครืน แต่หลังคาเหล็กของเอสเจเจกลับได้รับผลตอบรับที่ดีมากจากตลาด นั่นเพราะนวัตกรรมที่นำมาใช้ผลิตสินค้าช่วยเพิ่มคุณค่าให้ผลิตภัณฑ์ได้อย่างดี
ปัจจุบันเอสเจเจเจริญเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็น 1 ใน 10 ผู้เล่นรายใหญ่ของตลาดหลังคาเหล็กระดับ พรีเมี่ยม วันนี้บริษัทไม่ได้ขายสินค้าเพียงอย่างเดียว แต่ทำโครงการจ้างเหมาะแบบเบ็ดเสร็จครบวงจร (Turnkey) ตั้งแต่ออกแบบ ก่อสร้าง และบำรุงรักษาให้แก่ลูกค้า นอกจากนี้บริษัทยังต้องพัฒนาอยู่ตลอดเวลาเพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้าหลากหลายกลุ่มธุรกิจมากขึ้นด้วย “ต้องเข้าใจว่าธุรกิจหยุดอยู่นิ่งไม่ได้ การปรับตัว พัฒนาองค์กร ด้านนวัตกรรมไม่มีคำว่าสิ้นสุด ต้องทำไปเรื่อยๆ คือเราต้องหนีอะไรเก่าๆ ไปเรื่อยๆ เพื่อให้ล้ำหน้าตลาดอยู่เสมอ”
SEEKERS OF INNOVATIVES SOLUTIONS AWARD
รู้สึกภูมิใจ ดีใจ กับรางวัลนี้ที่ได้อยู่คู่กับนักธุรกิจแถวหน้าของเมืองไทย เพราะบริษัทส่วนใหญ่จะได้ทำโปรเจคกับบริษัทใหญ่ๆ มีผลงานชิ้นโบว์แดงที่ภูมิใจมากมาย เช่น หลังคาสถานีรถไฟหัวลำโพง ศูนย์กระจายสินค้าของบริษัท ซีพีออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือเซเว่นอีเลฟเว่นทั่วประเทศ และบริษัท อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)หรือ EPG ที่เราทำงานให้มูลค่าไม่ต่ำกว่า 200 ล้านต่อปี สะท้อนให้เห็นว่าลูกค้ามีความเชื่อมั่นกับสินค้านวัตกรรมของบริษัท
———————————————————————————————————————————————————————————————
ACHIEVING LEADERSHIP EXCELLENCE AWARD
PANU CHOKE-APIRAT
CHIEF EXECUTIVE OFFICER OF FRONTLINE ENGINEERING CO.,LTD.
มองไปที่ระบบชลประทานใหญ่ๆ ในเมืองไทย แน่นอนว่าจะต้องมีผลิตภัณฑ์ของ “คุณภาณุ โชคอภิรัตน์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟรอนท์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด รวมอยู่ด้วยแน่นอน ในฐานะที่เขาเป็นผู้นำเข้า จัดจำหน่าย ติดตั้งและให้บริการหลังการขายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับน้ำครบวงจร ทั้งเครื่องปั๊มน้ำ ท่อส่งน้ำ เครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่เพื่อการชลประทานและป้องกันน้ำท่วม เครื่องสูบน้ำสำหรับการผลิตน้ำประปา และยังมีเรือขุดลอด สะพานฉุกเฉินสำหรับใช้งานเมื่อถนนขาดชำรุด เป็นต้น คุณภาณุมีคร่ำหวอดในแวดวงธุรกิจน้ำมายาวนานร่วม 3 ทศวรรษ จึงรู้ว่าเครื่องสูบน้ำประเภทไหนเหมาะสมกับประเทศไทย และยังมีโครงการวิจัยเพื่อผลิตเครื่องสูบน้ำบุกตลาดในประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้านระดับภูมิภาค
จากวันแรกของการเริ่มธุรกิจที่มีทีมงานเพียง 2 ชีวิต แต่วันนี้องค์กรขยายใหญ่ขึ้นจนสร้างรายได้หลักร้อยล้าน บริษัทมีนโยบายขยายตลาดสู่ต่างประเทศมากขึ้นเพื่อตอบรับโลกการค้าที่ไร้พรมแดน โดยหมายมั่นนำชิ้นส่วนจากต่างประเทศมาผลิตเครื่องสูบน้ำในไทยเพื่อป้อนตลาด ควบคู่กันนั้นจะให้ความสำคัญในการทำการตลาดให้เข้มขึ้นขึ้น เพราะ “ผมมองว่าเรื่องการทำตลาดในยุคปัจจุบันเป็นเรื่องใหญ่มาก ถ้าทำการตลาดผลิตภัณฑ์และบริการได้ดี การขยายตลาดจะง่ายขึ้นในยุคการค้าไร้พรมแดน”
ที่สำคัญเป็นการเดินเกมรุกสานวิสัยทัศน์องค์กรที่ต้องการเป็น “ผู้นำตลาด” ในเซ็กเมนท์เครื่องสูบน้ำในประเทศไทยภายในปี 2562 จากนั้นเตรียมวางแผนเจาะตลาดประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่มประเทศกัมพูชา ลาว เมียนมาและเวียดนาม (CLMV)
ACHIEVING LEADERSHIP EXCELLENCE AWARD
รางวัลที่ได้รับ ทำให้รู้สึกภาคภูมิใจ และคิดว่าเด็กรุ่นใหม่ๆ น่าจะได้เห็นแนวทางการดำเนินธุรกิจที่เราประสบความสำเร็จได้ว่ามาจากการทำงานหนัก เพราะกว่าธุรกิจจะมาถึงวันนี้ ต้องมีความทุ่มเท และการวางแผนงานว่าสิ่งที่เราจะต้องทำมีอะไรบ้าง ทั้งการจัดลำดับความสำคัญ การเข้าใจตลาด เข้าใจสินค้าและบริการ ตลอดจนเข้าใจธุรกิจอย่างถ่องแท้
———————————————————————————————————————————————————————————————
คุณพงษ์ศักดิ์ มหัทธนสกุล
BEST CONSTRUCTIVE EXECUTIVE AWARD
PONGSAK MAHATTANASAKUL
MANAGING DIRECTOR (FOUNDER) OF WM IMMAGINEER
CHIEF EXECUTIVE OFFICER OF PACE INTERIOR SERVICES CO.,LTD.
ผู้อยู่เบื้องหลังที่เนรมิตไอเดียออกแบบตกแต่งที่อยู่อาศัยของผู้คนให้อยู่อย่างมีความสุขและสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของบุคคลนั้นๆ ทั้งยังมีผลงานออกแบบตกแต่งบ้านเหล่าเซเลบริตี้มหาเศรษฐีของเมืองไทย,ร้านอาหารญี่ปุ่นมูเกนได สาขา ดิเอ็ม ควอเทียร์, ร้านอาหารไทย “นารา” ที่สิงคโปร์ และอีกมากมาย ล้วนเป็นผลงานของผู้บริหารหนุ่มนักสร้างสรรค์คนนี้ “คุณพงษ์ศักดิ์ มหัทธนสกุล” ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ดับเบิลยู เอ็ม อิมเมจิเนีย จำกัด และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพซ อินทีเรีย เซอร์วิสเซส จำกัด ในเครือของบริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้สร้างโปรเจคต์หมื่นล้าน “มหานคร” ซึ่งสร้างปรากฎการณ์เป็น “ตึกสูงที่สุดในประเทศไทย”
คุณพงษ์ศักดิ์เปิดใจว่า ปัจจุบันรูปแบบชีวิตผู้บริโภคที่อยู่อาศัยเปลี่ยนแปลง แต่ละคนมี “สไตล์” ที่หลากหลายมากขึ้น และมี “ความต้องการ” ของตัวเองสูงมาก เขาต้องเกาะติดและปรับตัวตลอดเวลา เพื่อไม่ให้ตกเทรนด์ “การเดินทาง” จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ทำให้ได้เปิดโลกทัศน์ เห็นมุมมอง เทรนด์และสไตล์ของการออกแบบตกแต่งระดับโลก
อีกหนึ่งบริษัทที่ตั้งมา 2 ปี คือ เพซ อินทีเรียร์ เซอร์วิสเซส กับผลงานการตกแต่งห้องพักอาศัยให้กับคอนโดมิเนียมระดับ Super Luxury อย่าง The Ritz–Carlton Residences Bangkok บนตึกมหานคร เป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรมออกแบบและตกแต่งของประเทศไทยให้ยกระดับไปอีกขั้น ซึ่งคุณพงษ์ศักดิ์บอกว่าจากนี้พร้อมแล้วที่จะไปออกไปสร้างสรรค์ผลงานให้กับลูกค้าภายนอก เราจะขยายไปทำงานออกแบบตกแต่งที่ใหญ่ขึ่น และรับทำงานให้กับโครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทต่างๆ ทั้งอาคารสูง โรงแรม ร้านอาหารในระดับพรีเมี่ยม
BEST CONSTRUCTIVE EXECUTIVE AWARD
ก็รู้สึกดีใจ และเป็นกำลังใจที่จะผลิตงานที่ดีออกมาให้มากขึ้น และผลิตงานที่มีคุณภาพสูงขึ้นออกมา เพื่อลูกค้าและทีมงาน และเพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมนี้ของประเทศไทยต่อไป
——————————————————————————————————————————————————————————————
คุณพรพิมล ปักเข็ม
WOMEN OF INTERLLIGENCE AWARD
PORNPIMOL PAKKHEM
CHIEF EXCUTIVE OFFICER OF MATCH HOUSE CO.,LTD.
เป็นนักธุรกิจหญิงเก่งที่มีพื้นฐานที่ดีทางด้านการศึกษาโดยตรง เนื่องจากพ่อแม่เป็นครู จึงเป็น “โอกาส” ที่ทำให้ “คุณพรพิมล ปักเข็ม” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แม็ทซ์ เฮ้าส์ จำกัดได้สอบถามข้อสงสัยและหาคำตอบจากพ่อแม่ได้ตลอด นี่จึงเป็นสิ่งที่ทำให้รู้สึกเป็นข้อดีของการเรียนรู้ ด้วยความชื่นชอบ “คณิตศาสตร์” เป็นทุนเดิม และเห็นว่าเป็นวิชาที่ง่าย แต่พบว่ายังไม่มีคนที่จะบ่มเพาะถ่ายทอดศาสตร์การคำนวณให้เด็กเห็นว่าการเรียนรู้ได้ง่ายนั้นทำได้อย่างไร จึงกลายเป็นแนวคิดให้คุณพรพิมลต่อยอดจากการเป็นครูมาสู่อีกหนึ่งบทบาทคือการเป็นนักธุรกิจ โดยการเปิดโรงเรียนกวดวิชา “แม็ทซ์ เฮ้าส์” อย่างจริงจัง
คุณพรพิมลวางให้แม็ทซ์ เฮ้าส์เป็นเน้นสอนนักเรียนเป็นกลุ่มเล็ก สามารถดูแลได้ทั่วถึง ส่วนกระบวนการเรียนการสอนนั้นจะมุ่งสร้างความข้าใจ “สิ่งสำคัญที่สุด คือ เน้นการสอนให้เด็กทุกคนเกิดความเข้าใจ เมื่อเขาเข้าใจแล้วก็จะเกิดความสนุกในการเรียน”
สิ่งที่ทำให้แม็ทซ์ เฮ้าส์ ยืนหยัดได้อย่างแข็งแกร่ง คือ การยกโรงเรียนแห่งนี้ให้เป็นเสมือนบ้านหลังที่ 2
“เป็นความภาคภูมิใจมาก เวลาผู้ปกครองมาแสดงความขอบคุณเราที่ทำให้ลูกของเขาประสบความสำเร็จ ไม่อยากให้เด็กมองว่ามาที่นี่เป็นการมาเรียน แต่อยากให้มองเป็นการมาพบคุณครู มาพบ Advisor มานั่งคุยกัน แบ่งปันกับ Coach ที่มีส่วนช่วยให้นักเรียนหาเป้าหมายของตนเอง ตลอดจนวางแนวทางไปสู่เป้าหมายของเด็กๆได้ด้วยวิธีการอย่างไร ตรงนี้ถือเป็นจุดเด่นที่ทำให้เกิดความใกล้ชิดกัน ทำให้รู้สึกถึงการเป็นครอบครัว” ปัจจุบันแม็ทซ์ เฮ้าส์ได้มอบวิชาความรู้ให้นักเรียนแล้วนับหมื่นคน
คุณพรพิมลหมายมั่นปั้นองค์กรให้เป็นหนึ่งในเครื่องยนต์ขับเคลื่อนสังคมและการศึกษาไทย ส่งเสริมเด็กไทยให้มีความคิดสร้างสรรค์ ริเริ่มนวัตกรรม สามารถผลิตสิ่งใหม่ๆ และผงาดในเวทีโลกได้
WOMEN OF INTELLIGENCE AWARD
ความรู้สึกที่ได้รับรางวัลนี้ ต้องบอกว่าเป็นรางวัลที่ภูมิใจมาก เราทำโรงเรียนกวดวิชามานานแล้ว ไม่ได้เน้นการโฆษณาประชาสัมพันธ์ แต่ผู้ปกครองของเด็กให้การตอบรับแมทซ์เฮ้าส์อย่างดีมาโดยตลอด วันนี้ที่เราได้รับรางวัลก็เหมือนการเติมกำลังใจให้เราว่าสิ่งที่เราทุ่มเททางด้านการศึกษา เป็นสิ่งหนึ่งที่เราอยากให้ทุกคนได้ร่วมกันมองเห็นว่าการศึกษานั้นสำคัญ ต้องเริ่มมาจากที่บ้าน โรงเรียน และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง มันส่งเสริมกันหมด หญิงเชื่อว่าการศึกษาจะช่วยให้อนาคตของประเทศไทยเราได้คนเก่ง การศึกษาช่วยพัฒนาอีคิว ทักษะทางอารมณ์ต่างๆได้อย่างดี
———————————————————————————————————————————————————————————————-
คุณเกียรติศักดิ์ กีรติยากรสกุล
OUTSTANDING ENTREPRENEURSHIP AWARD
KEATISAK KEERATIYAKORNSAKUL
PRESIDENT OF K.P.N.MOTOR CAR CO.,LTD.
ใครจะคาดคิดว่าเงินทุนก้อนแรก 5 หมื่นบาท สำหรับเด็กหนุ่มวัย 21 ปี จะพาธุรกิจและตัวเขามาได้ไกลขนาดนี้ นั่นคือจุดตั้งต้นของ “คุณเกียรติศักดิ์ กีรติยากรสกุล” กรรมการผู้จัดการ บริษัท เค.พี.เอ็น.มอเตอร์คาร์ จำกัดที่วันนี้มีบริษัทในเครือทั้งสิ้น 11 บริษัท ครอบคลุมการให้บริการเกี่ยวกับยานยนต์ครบวงจร
คุณเกียรติศักดิ์เริ่มต้นจากธุรกิจชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ใหม่ ขยับขยายสู่การเป็นตัวเเทนจำหน่ายยางรถยนต์ เปิดศูนย์บริการรถยนต์ ตลอดจนผู้ผลิตจำหน่ายรถ Taxi เเบบ VIP เเห่งเเรกของเมืองไทย ซึ่งสร้างความฮือฮาด้วยการนำรถหรู (Super car) มาแปลงเป็นแท็กซี่ เพราะต้องการปรับปรุงรถแท็กซี่ให้ทันสมัย สะดวกสบาย และตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่แตกต่างจากตลาดด้วย
ผมทำธุรกิจยานยนต์ด้วยใจรัก และเรียนรู้กับสิ่งที่ทำตลอดเวลา เมื่อเป็นผู้ประกอบการเต็มตัว ผมมีนโยบายชัดเจนมากในการจะสร้างการเจริญเติบโตให้กับองค์กรอย่างยั่งยืนท่ามกลางแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ และต้องครบวงจรด้วย ตลอด 17 ปีที่ผ่านมา เคพีเอ็นประสบความสำเร็จมาได้ ผมมองว่าเกิดจากการที่ผมตั้งเป้าหมายชัดเจน โฟกัสในสิ่งที่ถนัดมาโดยตลอด มีความเชื่อมั่นในตนเอง ที่สำคัญต้องเอาใจใส่ “บุคลากร” ในองค์กรอยู่เสมอ เพราะคือฟันเฟืองที่ทำให้องค์กรเดินหน้าได้ นอกจากนี้การตอบสนองความต้องการของลูกค้าก็สำคัญอย่างยิ่งยวด เป้าหมายในอนาคตผมไม่ได้มอง “เงิน” เป็นตัวตั้ง แต่มองการทำงานแล้วมีความสุข สนุก ลูกค้ายิ้มได้ ผู้ถือหุ้นยิ้มได้ เป็นสิ่งสำคัญมาก “เงินเป็นแค่องค์ประกอบหนึ่งและเป็นส่วนที่ใหญ่ แต่ไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับผมในการเป็นผู้ประกอบการธุรกิจ”
OUTSTANDING ENTREPRENEURSHIP AWARD
การได้รับรางวัลครั้งนี้รู้สึกดีใจ ภูมิใจที่ได้รับเกียรติครั้งนี้ เพราะเมื่อมองย้อนกลับไปจุดเริ่มต้นทำธุรกิจ ไม่คิดและคาดหวังว่าองค์กรจะมาไกลถึงขนาดนี้ เพราะตอนทำธุรกิจทำด้วยใจรักจริงๆ ดังนั้นจึงขอเป็นกำลังใจให้นักธุรกิจทุกๆ ท่านบริหารงานให้ประสบความสำเร็จอย่างที่ตั้งใจไว้ เพื่อเป็นหนึ่งในเเรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน
———————————————————————————————————————————————————————————————
คุณณัฐวุฒิ พึงเจริญพงศ์
EMERGIING STARTUP AWARD
NATAVUDH PUNGCHAROENPONG
CO-FOUNDER AND CHIEF EXECUTIVE OFFICER OF OOKBEE
VENTURE PARTNER AT 500 STARTUPS
เป็นรุ่นบุกเบิก “Startup” ของจริง สำหรับ “คุณณัฐวุฒิ พึงเจริญพงศ์” ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อุ๊กบี และก่อตั้งกองทุน 500 สตาร์ทอัพ เพราะหลังจากที่เปิดบริษัทรับเขียนโปรแกรมเมื่อ 10 ปีก่อน แล้วเห็น “โอกาส” ที่ประชากรไทยเริ่มมี Smart Phone ใช้แพร่หลายมากขึ้น จึงลองเขียนโปรแกรม “Ookbee” แพลตฟอร์มอีบุ๊กสำหรับหนอนหนังสือ จนสร้างชื่อและกลายเป็นแบรนด์ติดลมบนมานาน 6 ปีแล้ว
ปัจจุบันคุณณัฐวุฒิไม่ได้หยุดพัฒนาตนเอง แต่ได้มีการขยายธุรกิจสู่แพลตฟอร์มอื่นๆมากมาย เช่น วิดีโอ เพลง การ์ตูน และเดินหน้าทำกองทุน 500 Tuk Tuks (ที่มีเงินลงทุนมากกว่า 10 ล้านเหรียญสหรัฐ) เป็นการขยายบทบาทจากการเป็นผู้ประกอบการไปสู่นักลงทุนในบริษัทที่คล้ายๆ กัน
“กว่าอุ๊คบีตลอดจนแพลตฟอร์มต่างๆ จะประสบความสำเร็จคุณณัฐวุฒิบอกว่าต้องมีความตั้งใจในการทำงาน มีความอดทน ความอึด เพราะธุรกิจสตาร์ทอัพหลายครั้งต้องเผชิญความไม่ความพร้อมจากทั้งตัวตลาดหรือตัวสตาร์ทอัพเอง เนื่องจากเทรนด์ยังไม่เกิดขึ้น และเป็นเรื่องที่ไม่มีใครทราบอนาคต ดังนั้นผู้ประกอบการจึงต้องมีความเร็วผสานกับความอดทนที่จะทำธุรกิจ นอกจากนี้ “ต้องไม่กลัวความล้มเหลว” เมื่อมองทุกอย่างเป็นการทดลอง ทดลองผลิตภัณ์ฑ์ต่างๆ ในสเกลเล็กๆ หากล้มเหลวก็จะเป็นแค่ความล้มเหลวเล็กๆ ถ้าพบเมื่อไหร่ว่าใช่จึงค่อยทำซ้ำและขยายใหญ่ขึ้น
เป้าหมายธุรกิจของคุณณัฐวุฒิระยะสั้น คือ การนำพา “อุ๊คบี” เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภายใน 3 ปี ส่วนระยะยาว คือ เป็น Tech Startup สัญชาติไทยที่ขยายไปสู่ตลาดต่างประเทศเจ้าแรกได้สำเร็จ
EMERGING STARTUP AWARD
ได้รับรางวัลนี้ก็ดีใจ และต้องมองว่าจริงๆ แล้ว ไม่ได้ดีใจในระดับว่าเราประสบความสำเร็จแล้ว แต่ดีใจในแง่ที่มีคนคิดรางวัลแบบนี้ขึ้นมา สะท้อนให้เห็นว่าเรื่องเหล่านี้ค่อยๆ มีคนตระหนักว่าธุรกิจรูปแบบใหม่ที่ใช้เทคโนโลยี ใช้ความรู้เป็นฐานมันมีอยู่จริง และสังคมก็เริ่มมองเห็น
———————————————————————————————————————————————————————————————
YOUNG ASPIRING ENTREPRENEUR AWARD
THANA LIMPAYARAYA
CHIEF EXECUTIVE OFFICER OF CHAIN TANA SUPPLEMENT CO.,LTD.
หนึ่งนักธุรกิจหนุ่มที่รู้จักคุ้นหน้าตากันเป็นอย่างดี สำหรับ “คุณธนา ลิมปยารยะ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เชนธนา ซัพพลีเมนท์ จำกัด เจ้าของผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวพรรณ เครื่องสำอางแบรนด์ “อมาโด้”(amado) เพราะเขาเป็นอดีตศิลปินนักร้องวัยรุ่นที่โด่งดังเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา หลายคนอาจคิดว่าคุณธนา สลัดภาพนักร้องมาสวมบทบาทนักบริหารเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจ แต่จริงๆแล้วธุรกิจอยู่ใน “DNA” มาโดยตลอด ส่วนหนึ่งเพราะพื้นฐานครอบครัวชาวไทยเชื้อสายจีนมีการประกอบธุรกิจอุตสาหกรรมสิ่งทอครบวงจร จึงทำให้เติบโตมากับการดำเนินธุรกิจจริงๆ
“เมื่อมารุกธุรกิจอาหารเสริมแบรนด์อมาโด้ ผมทำการปิดจุดอ่อนทุกมุมที่คาดว่าจะเกิดความผิดพลาดได้ มีการเก็บเงินสดสำรองไว้ (Cash flow) ซื้อสินทรัพย์ ประกอบกับจุดแข็ง (Strengths) ภายในที่มี Signature บางอย่าง ทำให้สินค้าของอมาโด้เกิดกระแสฮิตในตลาด”
กว่า 3 ปี ปลุกปั้นแบรนด์อมาโด้ให้แจ้งเกิด วันนี้ถือว่าประสบความสำเร็จด้านยอดขายคิดเป็น 1 ใน 3 จากที่คุณธนาเคยทำได้ในอดีต ซึ่งตอนที่เขาเป็นหนึ่งในทีมผู้บริหารวุฒิศักดิ์คลินิก สามารถสร้างรายได้มากขึ้น 320 ล้านบาทต่อเดือน ทว่าอมาโด้ทำได้ 120 ล้านบาทต่อเดือน ดังนั้นจึงคาดหวังว่าแบรนด์จะเติบโตได้อีกไกลส่วนเป้าหมายในการเป็นเจ้าของกิจการครั้งนี้ คือ การนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เพื่อระดมทุนในการขยายกิจการ แตกไลน์ธุรกิจให้เจริญเติบโตยิ่งขึ้น เพื่อให้แบรนด์อมาโด้อยู่คู่กับตลาดประเทศไทยจนถึงรุ่นสู่รุ่น
YOUNG ASPIRING ENTREPRENEUR AWARD
สำหรับการได้รับรางวัลครั้งนี้ ถ้าพูดตรงๆ ถือเป็นเครื่องเตือนใจให้มีกำลังใจในการทำงาน ปกติผมไม่ค่อยไปรับรางวัลที่ต้องเสียค่าใช้จ่าย มีการแลกเปลี่ยน (Barter) เว้นแต่ถูกเชิญให้มารับรางวัล ดังนั้นรางวัลนี้จึงถือว่าเป็นเกียรติสำหรับผม
——————————————————————————————————————————————————————————————–
MOST ACTIVE PASSIONPRENEUR AWARD
RANANTHORN PHOLCHART
CHIEF EXECUTIVE OFFICER OF MY BAG SPA (THAILAND) CO., LTD.
AND BAG REPUBLIC ASIA CO.,LTD.
“คุณรณันธร พลชาติ” ประธานกรรมการบริหาร บริษัท บริษัท มายแบ็คสปา (ประเทศไทย) และ บริษัท แบ็ค รีพับลิค เอเชีย จำกัด เป็นนักธุรกิจสาวที่มีความโดดเด่น ทั้งเรื่องการเรียนเพราะเธอจบปริญญาเอก คณะรัฐศาสตร์ สาขาปรัชญาการเมืองเรียบร้อยแล้ว แต่กระนั้นก็ไม่เคยหยุดเรียนรู้ เพราะมีการศึกษาดูงานมากมาย และไม่เพียงเท่านั้นเมื่อมาดูการทำธุรกิจก็ต้องยกนิ้วให้กับความเป็นผู้หญิงทำงานแบบสุดๆ ไปเลย ที่หมั่นคิดหานวัตกรรมใหม่มาบริการดูแลกระเป๋าแก่ลูกค้าตลอดเวลา
ที่มาของธุรกิจร้านสปากระเป๋าเกิดจากความชอบในวัยเด็กที่มักจะสะสมกระเป๋าและรองเท้า สปากระเป๋าทำหน้าที่คืนชีวิตให้กระเป๋าสุดหรูกลับมาใหม่เอี่ยมอ่อง ด้วยการนำแฟรนไชส์ธุรกิจจากสิงคโปร์เข้ามาเปิดตลาดในประเทศไทยในปี 2554 ซึ่งถือเป็นตลาดน่านน้ำสีคราม (Blue Ocean) ที่ยังไม่ค่อยมีใครรู้จัก
เคล็ด (ไม่) ลับของคุณรณันธรเกิดจากบริการของมายแบ็คสปา ตลอดจนการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับกระเป๋าได้ตรงจุด ทำให้ลูกค้าเกิดความ “เชื่อมั่น” และทำให้กลับมาใช้บริการซ้ำ นอกจากนี้กลยุทธ์ปากต่อปาก ยังเป็นกุญแจสำคัญที่ไขไปสู่ใจผู้บริโภค สร้างการรับรู้ร้านได้ง่าย อีกทั้งพฤติกรรมผู้บริโภคชาวไทยมักเชื่อคนใกล้ตัว เช่น เพื่อน คนในครอบครัวมากกว่าการโฆษณาที่อาจเห็นผ่านตาแต่ไม่มั่นใจใช้บริการ แต่เมื่อมีเพื่อนมากระตุ้นสักนิดจะรู้สึกว่าใช่ทันที! ซึ่งภายหลังมายแบ็คสปาได้กลุ่มลูกค้าที่เป็นครอบครัวมากขึ้น และขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ในการคืนชีวิตให้ใหม่ไม่ใช่แค่กระเป๋าอีกต่อไป แต่มีทั้งรองเท้าผ้าใบ รองเท้ากีฬารุ่นใหม่ ที่ลูกค้านำมาให้ทำความสะอาดมากขึ้น
MOST ACTIVE PASSIONPRENEUR AWARD
การได้รางวัลนี้สะท้อนกลับมาที่ตัวโอ๋ที่เป็นคนมีความตั้งใจ และเป็นคนทำอะไรจริง เป็นคนอยากทำอะไรก็ทำ อย่างสมมติเราทดลองทำตู้เก็บกระเป๋ารองเท้า มันเป็นครั้งแรกในโลกและตลาดเมืองไทย และมีเวทีหนึ่งสนใจอยากให้โอ๋นำโปรเจ็คต์นี้เข้าไปประกวดเป็นนวัตกรรมของโลก ตรงนี้โอ๋มองว่าคนไทยเก่ง แต่ยังไม่มีเวที ไม่มีศักยภาพในการแสดงออก เมื่อโอ๋นำเอาจุดนี้มาผสมผสานกัน คือ คิดแบบนักธุรกิจกับนักค้นคว้าวิจัย ทำให้ตู้เก็บกระเป๋ารองเท้าเป็นนวัตกรรมที่คนไทยคิดจริงๆ
ชมภาพบรรยากาศงานได้ที่นี่!