การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดงาน “Amazing Thailand : Meet the Influencers 2023” ส่งสัญญาณกระตุ้นปีท่องเที่ยวไทย 2566 ยกกลยุทธ์ Influencer Marketing เดินหน้า Drive Demand ผ่านคอนเทนต์ท่องเที่ยวออนไลน์ โดยเชิญ Influencer 350 ราย ร่วมเสริมทักษะสร้างสรรค์คอนเทนต์และอัปเดตเทรนด์ท่องเที่ยว พร้อมสร้างความสัมพันธ์เครือข่ายสื่อออนไลน์ด้านการท่องเที่ยวและผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวจัด Speed Dating รูปแบบ B2B เพิ่มโอกาสทางธุรกิจ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2566
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า ตามที่ ททท. กำหนดให้ปี 2566 เป็น “ปีท่องเที่ยวไทย”หรือ “Visit Thailand Year 2023 : Amazing New Chapters” ถือเป็นความท้าทายครั้งใหม่ของ ททท.
ในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจด้วยการท่องเที่ยว ททท.เห็นถึงความสำคัญของ Influencer และสื่อออนไลน์ที่มีบทบาทอย่างมากในการสร้างแรงบันดาลใจให้คนไทยออกเดินทางท่องเที่ยวไปสัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวบทใหม่
ซึ่ง ททท. มุ่งนำเสนอ Soft Power ของไทยควบคู่กับการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ (Responsible Tourism) เพื่อส่งมอบประสบการณ์การเดินทางที่มีคุณค่าและมีความหมาย (Meaningful Travel) และก่อให้เกิดความยั่งยืน พร้อมนำนวัตกรรมเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้เพื่อตอบสนองการท่องเที่ยวในยุคดิจิทัล ซึ่งคาดว่า การจัดงานในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการสร้างเครือข่ายพันธมิตร ยังจะส่งผลต่อการกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศมากขึ้นจากความร่วมมือของ Influencer ที่มาเข้าร่วมงาน ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญที่จะช่วยกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศอีกด้วย
นายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา เปิดเผยว่า ททท. เล็งเห็นโอกาสในการเร่งสื่อสารความน่าสนใจของการท่องเที่ยวไทย สอดรับกระแสการท่องเที่ยวแบบล้างแค้น (Revenge Tourism) ในปีท่องเที่ยวไทย 2566
เพื่อกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวด้วยเนื้อหาด้านการท่องเที่ยวผ่านช่องทางออนไลน์และโซเชียลมีเดีย ซึ่งมีอิทธิพลอย่างมากในปัจจุบัน ด้านสื่อสารการตลาด ททท. จึงกำหนดจัดงาน Amazing Thailand : Meet the Influencers 2023 ขึ้นในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2566 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยชูกลยุทธ์ Influencer Marketing เชิญพันธมิตรสื่อออนไลน์ด้านท่องเที่ยวของไทย ตั้งแต่ระดับ Pico Mega Influencer ไปจนถึง Mega Influencer รวมทั้งสิ้น 350 ราย จาก 210 สังกัด ซึ่งคาดว่ามีมากกว่า 55 ล้านผู้ติดตาม เข้าร่วมอัปเดตเทรนด์ท่องเที่ยว แลกเปลี่ยนความรู้และเพิ่มทักษะการสร้างสรรค์เนื้อหาเชิงท่องเที่ยว (Boost Skill & Creativity)
ร่วมเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการท่องเที่ยว และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับทิศทางการส่งเสริมอุตสาหกรรม
ท่องเที่ยวไทยร่วมกับ ททท. เพื่อสร้างความสัมพันธ์เครือข่ายและเป็นเวทีในการประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยว (Boost Connection) รวมทั้งร่วมสัมผัส Soft Power (5F) ของไทยผ่านกิจกรรมเวิร์ปช้อปสินค้าท่องเที่ยวจากชุมชนต่างในพื้นที่ต่างๆ (Boost Travel Content)
สำหรับไฮไลท์ของการจัดงาน Amazing Thailand : Meet the Influencers 2023 ททท. เริ่มต้นพาผู้เข้าร่วมงานรับพลังบวก เพิ่มแรงบันดาลใจไปกับ “เขื่อน ภัทรดนัย เสตสุวรรณ” จากนั้นชวนอัปเดตเทรนด์ท่องเที่ยวและเพิ่มทักษะการสร้างสรรค์คอนเทนต์ด้วยกิจกรรม Breakout Session กับ 3 หัวข้อสัมมนาที่น่าสนใจ ได้แก่ 1) Inspiration from Your Daily Life Turns into Viral Content เจาะอินไซต์เทรนด์ท่องเที่ยวกับ Tiktok พร้อมถอดรหัส Go Viral ของครีเอเตอร์สุดฮอต “Japan and Friends” โดยนางสาววรรณิตา คำนุ้ย จากแพลตฟอร์ม Tiktok และนางสาวณภัค ภักดีอิสรา เจ้าของเพจ Japan จอมโหด and Friends 2) How to be Professional Influencers เเชร์เทคนิคเล่าเรื่องให้สนุก น่าติดตาม จุดประกายมุมมองใหม่ที่ “แตกต่าง” และประทับใจกว่าที่เคย ไปกับโค้ดดี้ อรรถพล โพธิ์หาญรัตนกุล ผู้ร่วมก่อตั้ง ‘เสือร้องไห้’ และ 3) 2023 Trends: What’s Next for Content Marketing? ติดอาวุธอินฟลูเอนเซอร์ยุคใหม่และวิเคราะห์เทรนด์โลกออนไลน์ โดย
นายกล้า ตั้งสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไวซ์ไซท์ (ประเทศไทย) จำกัด ก่อนจะเข้าสู่ กิจกรรม Speed Dating โดยเชิญผู้ประกอบการธุรกิจที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ทั้งโรงแรมชั้นนำ แหล่งท่องเที่ยว และสายการบินทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น 65 หน่วยงาน ร่วมพบปะกับ Influencer และสื่อออนไลน์ในรูปแบบ B2B
เพื่อเป็นเวทีในการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการท่องเที่ยวและสร้างโอกาสทางธุรกิจร่วมกัน ซึ่งถือเป็นช่องทางที่ช่วยผู้ประกอบการในการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี Digital ทำตลาดเพื่อตอบสนองพฤติกรรมของนักท่องเที่ยว ไม่เพียงเท่านั้น ภายในงานยังมีการนำเสนอ Soft Power ของไทย โดยเปิดโอกาสให้ชุมชนท่องเที่ยวได้มาร่วมนำเสนองานคราฟท์และอาหารประจำถิ่นเพื่อให้ Influencer สัมผัสประสบการณ์ใหม่ นำไปสู่การออกเดินทางจริงในแต่ละพื้นที่
นอกจากนี้ งานในครั้งนี้ ททท. มีความตั้งใจออกแบบการจัดงานให้มีการสร้างขยะน้อยที่สุด โดยคำนึงถึงความยั่งยืนและได้นำแนวคิด Responsible Tourism มาปรับใช้ในหลายส่วน อาทิ ถุงของที่ระลึกทำจากวัสดุ
ที่นำมากลับมาใช้ใหม่ได้ ป้ายแบนเนอร์และแบคดรอปภายในงานผลิตจากกระดาษรังผึ้งย่อยสลายได้ ลดการสร้างขยะด้วยการไม่ใช้ขวดน้ำพลาสติก รวมทั้งการใช้ภาชนะที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ เพื่อเป็นต้นแบบการขับเคลื่อนและส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยต่อไป