การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับ กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว จัดประชุมเพื่อพิจารณาแผนบูรณาการการทำงานเพื่อเพิ่มอันดับความสามารถทางการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทย ด้านความมั่นคงและปลอดภัย (Safety & Security) เพื่อส่งเสริมผลักดันให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวต่างชาติ (Preferred Destination) โดยมีพลตำรวจโท สุคุณ พรหมายน ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว ททท. และ นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ ททท. ร่วมกันเป็นประธานในการประชุม ณ ห้องประชุมสุพรรณหงส์ ชั้น 10 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานใหญ่
จากการที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้วางนโยบายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวเตรียมกิจกรรมทางการท่องเที่ยวเพื่อส่งเสริมและกระตุ้นการเดินทางเพื่อให้เกิดแรงส่งต่อเนื่องไปถึง
ฤดูการท่องเที่ยวช่วงปลายปีและต่อเนื่องไปจนถึงต้นปีหน้าและให้การท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างรายได้ให้แก่ประเทศนั้น ททท. ในฐานะหน่วยงานส่งเสริมการด้านการตลาดท่องเที่ยวจึงมุ่งพัฒนาศักยภาพในมิติต่าง ๆด้านการท่องเที่ยวเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวของไทยให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั่วโลก อย่างไรก็ตาม จากรายงาน Travel & Tourism Competitiveness Report 2019 โดยสภาเศรษฐกิจโลก หรือ World Economic Forum ได้ทำการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นดัชนีที่แสดงให้เห็นถึงขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวของประเทศต่าง ๆ (T&TCI) โดยพิจารณาจากดัชนี 14 รายการ พบว่า ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 31 จาก 140 ประเทศทั่วโลก และอยู่ในอันดับที่ 3 จาก 9 ประเทศในภูมิภาคอาเซียน สำหรับดัชนีที่ไทยมีอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวสูงที่สุดใน 3 มิติแรก ได้แก่ ดัชนีทรัพยากรธรรมชาติ (ลำดับที่ 10) ดัชนีโครงสร้างพื้นฐานบริการด้านการท่องเที่ยว (ลำดับที่ 14) และดัชนีการแข่งขันด้านราคา (ลำดับที่ 25) ตามลำดับ ในทางกลับกัน ดัชนีที่ไทยมีอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวน้อยที่สุดใน 3 มิติแรก ได้แก่ ดัชนีความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม (ลำดับที่ 130) ดัชนีความมั่นคงปลอดภัย (ลำดับที่ 111) และ ดัชนีด้านสุขภาพและอนามัย (ลำดับที่ 88)
ตามลำดับ จากการจัดอันดับข้างต้น ตั้งข้อสังเกตได้ว่ามิติด้านความมั่นคงปลอดภัย (Safety and Security) ถือเป็นมิติที่ควรจับตามอง เนื่องจาก เป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อการสร้างความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ประเทศ ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้กำหนดมาตรการสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้แก่นักท่องเที่ยว ได้แก่ การจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว (Tourist Assistance Center : TAC) กองทุนช่วยเหลือเยียวยานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ การจัดตั้งศาลแผนกคดีนักท่องเที่ยวในศาลสถิตยุติธรรม การจัดกิจกรรมการฝึกอบรมอาสาสมัครช่วยเหลือนักท่องเที่ยวทางทะเล (Life Guard) และ การจัดกิจกรรมรณรงค์นักท่องเที่ยวขับขี่ปลอดภัยในช่วงเทศกาลท่องเที่ยว ดังนั้นจึงควรพัฒนาด้านความมั่นคงปลอดภัยให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยการผสานความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงเป็นที่มาของการประชุมพิจารณาแนวทางแผนบูรณาการการทำงานเพื่อเพิ่มอันดับความสามารถทางการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทยในมิติความมั่นคงและปลอดภัย (Safety & Security) ระหว่าง ททท. และ กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว หารือเพื่อวางแนวทางการจัดกิจกรรมของ ททท. และแผนงานหรือโครงการของกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวที่อาจบูรณาการความร่วมมือกับ ททท. ได้ในอนาคต
ทั้งนี้ ในปี 2565 กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว และ ททท. ได้ดำเนินการจัดทำแผนบูรณาการร่วมกันในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางการท่องเที่ยวของประเทศไทยในด้านความมั่นคงและปลอดภัย
อย่างเป็นรูปธรรม โดยกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวได้จัดกองกำลังตำรวจเพื่อตรวจตรา ดูแลความปลอดภัย นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ที่ ททท. ดำเนินการจัดในช่วงตลอดเดือนมิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา ได้แก่ กิจกรรมแข่งขันจักรยานทางไกล Amazing Thailand Bike Ride, กิจกรรม Multi Surf Festival, กิจกรรมแข่งขันไตรกีฬา Amazing Race Festival & Triathlon, กิจกรรม Amazing Thailand City Run มันส์ ฟัน เวอร์ยิ่งกว่าเดิม, กิจกรรม Village Tourism Festival และ กิจกรม Amazing Thai Taste และในส่วนของ ททท. ก็ได้
มีการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวในการเข้าร่วมกิจกรรมผ่านช่องทางสื่อต่าง ๆ อีกทั้งเป็นหนึ่งกระบอกเสียงในการประชาสัมพันธ์ แอปพลิเคชัน Tourist Police I Lert U ของกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ที่ใช้ในการรับแจ้งเหตุฉุกเฉิน รวมถึงการขอความช่วยเหลือจากนักท่องเที่ยว
ททท. เชื่อมั่นว่าการดำเนินการดังกล่าวร่วมกันจะเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ประเทศไทยและสร้างความเชื่อมั่นในด้านความมั่นคงและปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว ทำให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทาง
ยอดนิยมของนักท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนต่อไป