จะเห็นได้ว่าปีที่ผ่านมามีการแข่งขันในเรื่องการตลาดออนไลน์ค่อนข้างสูง ธุรกิจต่าง ๆ งัดกลยุทธเด็ดพิชิตใจลูกค้า ทำให้นักการตลาดแบรนด์ต่างๆ ก็ต้องปรับตัว เพื่อพลิกศาสตร์ทางการตลาด หาหนทางต่อกรกับความไม่แน่นอนของโลกปัจจุบัน รวมถึงพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้ประกอบการรับมือเพื่อก้าวเดินไปอย่างมั่นคง สิ่งที่ต้องปรับตัว “พร้อมกับ อำนาจซื้อที่ลดลง” ดังนั้น สรุปกลยุทธทางการตลาดที่ต้องจับตามอง 5 กลยุทธที่ไม่ควรมองข้าม
1. Search Google
เพราะคนไทย เข้าถึง Internet 80% พฤติกรรมของผู้ใช้เนื่องด้วยการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด19 ที่ทำให้ระส่ำกันไปทั่วโลก ทำให้เรากลัวไม่กล้าออกจากบ้าน ทำให้ทั้งประเทศต้องล็อคดาวน์ห้ามเดินทางไปไหนโดยไม่จำเป็น ทำให้เราต้อง work from anywhere รวมไปถึง Do anything at home ให้ได้มากที่สุด
เพราะสิ่งที่คนไทยเคยค้นหาเป็นประจำก็กลับหายไปในบางช่วง และก็เกิดเรื่องใหม่ๆ ที่อยู่ดีๆ ก็มีการค้นหาบน Google อย่างถล่มทลาย เพราะการใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านมากขึ้น เพราะฉะนั้นนักธุรกิจต้องปรับตัวให้เข้ากับการใช้ชีวิตประจำวันมากขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับผู้บริโภค 2 ปีที่เราต้องอยู่กับความระมัดระวังทั้งทางสุขภาพและทางธุรกิจ และปัจจุบันเราต้องต่อสู่กับเชื้อโรคโอไมครอนรุนแรงน้อยกว่า แต่แพร่เชื้อง่ายกว่า เมื่อเทียบกับเชื้อโควิดสายพันธุ์อื่นๆ
2. Vdo ads และไลฟ์สด
พฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของผู้ใช้งานในปัจจุบันจึงจำเป็นอย่างมากที่การทำ video marketing และต้องแข่งกันที่ Content วิดีโอคอนเทนต์ถือว่ามาแรงมากในช่วงปีที่ผ่านมา แต่ละแบรนด์ต่างผลิตวิดีโอกันออกมามากมาย เพราะวิดีโอ สามารถเล่าเรื่องราวได้หลายอย่าง เห็นภาพ ได้ยินเสียง เห็นการเคลื่อนไหว และเข้าถึงอารมณ์ได้เร็วกว่ารูปภาพเฉยๆ และผู้บริโภคสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์และเชื่อถือกับตราสินค้า สามารถเล่าเรื่องราวของผลิตภัณฑ์ Stories Telling ผ่าน Vdo Content ถือเป็นคอนเทนต์อีกประเภทที่ไม่ควรพลาด แต่ทำวิดีโอให้ดีไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ ต้องโดน ต้องให้คนเกิดความรู้สึกแบบว่าดูจบแล้วอยากแชร์เลยทันที อาจจะ outsource จ้างคนที่เชี่ยวชาญทำก็ได้
การไลฟ์สด จากสถานที่ที่ถ่ายทำหรือสถานที่จริงก็ได้ เพื่อสร้างความตื่นเต้น และรู้สึกทันเหตุการณ์ ซึ่งผู้ชมสามารถเข้ามามีปฏสัมพันธ์สร้างคำถามผ่านคอมเมนต์ หรือการแชร์ให้เพื่อนเข้ามาร่วมชมคอนเทนต์ด้วยกัน
3. Influencer Micro Nano
การตลาดออนไลน์ที่ใช้ Influencer ในการโฆษณาสินค้า เป็นอีกหนึ่งกลยุทย์ทางการตลาด ซึ่งเริ่มจากการใช้ ในกลุ่ม Celebrity หรือ ที่เป็นดารา นักแสดง ในการโฆษณาหรือรีวิวสินค้า ซึ่งเจ้าของแบรนด์ต่าง ๆ ก็นิยมให้ Influencer รีวิวสินค้า เพราะกลุ่มนี้จะเข้าถึงผู้บริโภคและตรงเป้าหมายมากกว่ากลุ่มที่เป็นดารานักแสดง แต่เหล่านี้อาจไม่ใช้ผลิตภัณฑ์จริง ทำให้อิทธิพลของ Micro Influencer และ Nono Influencer มีบทบาทมากขึ้นเนื่องจากพูดถึงสินค้าในเชิงผู้บริโภคคนหนึ่ง เพราะมีความน่าเชื่อถือ ดูแล้วเป็นการรีวิวจากการใช้จริง จึงได้รับความยอมรับจากผู้บริโภคมากขึ้น แลมีผลต่อภาพลักษณืของแบรนด์ผลิตภัณฑ์
Nano-Influencer คือผู้มีอิทธิพลในโลกโซเชียลมีเดียที่มีผู้ติดตาม 1 พัน ถึง 1 หมื่นคน มีความโดดเด่น หรือเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน และเป็นที่รู้จักดีในกลุ่มตลาดประเภท Niche หรือกลุ่มเป้าหมายที่มีความสนใจเฉพาะด้าน และ Nano-Influencer สามารถสร้างปฏิสัมพันธ์ได้ใกล้ชิดกับผู้ติดตามในโลกโซเชียลได้รับ Engagement สูงบนโลกออนไลน์
Micro-influencers มีผู้ติดตามอยู่ระหว่าง 10K ถึง 50K คน (Instagram) สามารถครีเอทคอนเทนต์ได้โดนใจผู้ติดตามและ การโพสต์คอนเทนต์นั้น ๆ จะกำหนดช่วงเวลาที่แน่นอนและสม่ำเสมอ เสมอหนึ่ง Channel รายการ เช่น ทุก ๆ วันศุกร์ อุปกรณ์ที่ใช้อย่างมืออาชีพ และจะมีความพร้อมในการถ่ายทำในระดับดีมาก ซึ่งจะมีแบรนด์ติดต่อเข้ามาเป็นสปอนเซอร์ให้เพื่อเป็นตัวแทนของแบรนด์ Brand Ambassador เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับบริษัท
4. TIKTOK วิดีโอ Short 15 วิและ 60 วินาที
แพลตฟอร์มวิดีโอสั้นชั้นนำทั่วโลก พื้นที่แบ่งปันความคิดสร้างสรรค์ และส่งต่อแรงบันดาลใจของเหล่าครีเอเตอร์ทั้งมืออาชีพและมือสมัครเล่น พื้นที่ที่เปิดกว้างให้ทุกคนได้เพลิดเพลิน และครีเอทคลิปสนุกๆ แบ่งปันความสุขให้กับผู้คนมากมาย ในความยาวไม่เกิน 60 วินาที ได้สร้างปรากฏการณ์ความนิยมทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกซึ่งก่อนหน้านี้การตลาดมองว่าเป็นพื้นที่ของคนรุ่นใหม่ Gen Y และ Gen Z แต่ ภายในระยะเวลาไม่นาน จนหลายๆ วิดีโอเป็นที่ Talk of The Town และแจ้งเกิดเหล่าครีเอเตอร์หน้าใหม่ให้กลายเป็นคนดังในชั่วเวลาข้ามคืน ปัจจุบัน TikTok ทำให้นักครีเอเตอร์ต่างก็สร้างตัวตน ถ่ายทอดผ่านความคิด ความ Creativity ต่างๆ ได้บนแพลตฟอร์มนี้
5. นักการตลาดต้องวางกลยุทธ์ให้เฉียบคมยิ่งขึ้น
แม้ว่าเครื่องมือต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ระบบอัตโนมัติ, Artificial intelligence (AI) หรือ Machine learning จะช่วยผ่อนแรงนักการตลาดได้มากก็ตาม แต่นักการตลาดต้องวางกลยุทธ์ให้รอบคอบยิ่งขึ้น เพราะเครื่องมือทางการตลาดทั้งหลายนับวันยิ่งมีมากขึ้นทุกที การใช้ความสามารถด้าน Data มาพัฒนาหรือสอนปัญญาประดิษฐ์นั้น มาช่วยทำการตลาดในด้านต่างๆ