นายจักรภพ ปิยะรัตน์ Head of Property Management ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ ในเครือเซ็นทรัล รีเทล เผยว่า “ช่วงซัมเมอร์ ถือเป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาที่คนไทยนิยมใช้เวลากับครอบครัว และคนรักในการท่องเที่ยว และพักผ่อน ตามสถานที่ต่างๆ ด้วยเหตุนี้ ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ ในฐานะไลฟ์สไตล์เดสติเนชั่นแห่งการ ‘กิน ช้อป เที่ยว’ ที่สมบูรณ์แบบ จึงขอเดินหน้าตอบรับเทรนด์ความต้องการของนักช้อป ด้วยการเปิดแคมเปญใหญ่ ‘ซัมเมอร์นี้ กินดี มีดีล’ ตลอดเดือนมีนาคม 2564 ที่โรบินสันไลฟ์สไตล์ 24 สาขาทั่วประเทศ โดยเราได้รับความร่วมมือที่ดีจากพันธมิตรร้านค้า ร้านอาหาร กว่า 300 ร้านค้า และบัตรเครดิตชั้นนำ ในการมอบดีลโปรโมชั่นดีๆ ที่จะสร้างสีสันและความสุขในซัมเมอร์นี้แก่นักช้อป ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ‘โรบิ้นคุมเข้ม’ เพื่อเป็น SAFE ZONE ให้นักช้อปมาใช้บริการ ‘กิน ช้อป เที่ยว ปลอดภัย มั่นใจได้ทุกตารางเมตร’”
สำหรับ โปรฯ ฮิต ดับร้อน ของแคมเปญ ‘ซัมเมอร์นี้ กินดี มีดีล’ ประกอบด้วย ลดสูงสุด 50% ทั้งห้างฯ และศูนย์การค้าฯ เมนูเด็ด โปรฯ ดัง ซื้อ 1 แถม 1 จากร้านอาหารในเครือไมเนอร์ฟู๊ดกรุ๊ป ไม่ว่าจะเป็น เดอะ พิซซ่า คอมปะนี, ซิซซ์เล่อร์, แดรี่ควีน, สเวนเซ่นส์ (เฉพาะเมนูที่ร่วมรายการ) ช้อปปุ๊บ สแกนปั๊บ แลกรับเครดิตเงินคืน 12% เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต KTC และสแกน QR ลงทะเบียนบน www.ktc.co.th เพื่อใช้คะแนน KTC FOREVER เท่ายอดใช้จ่าย / เซลล์สลิป กับร้านค้า ร้านอาหาร และสเปเชียลตี้สโตร์ในศูนย์การค้าฯ อาทิ ท็อปส์ มาร์เก็ต, ซูเปอร์สปอร์ต, บีทูเอส, ออฟฟิศเมท, เพาเวอร์บาย, ออโต้วัน, แฟมิลี่มาร์ท, ฟู้ดพาร์ค, เคเอฟซี, เอ็มเค เรสโตรองต์, ยาโยอิ, เอส แอนด์ พี, ออน เดอะ เทเบิล, มิสเตอร์ โดนัท, บาจา, สตูดิโอเซเว่น, เจ มาร์ท, บานาน่า, บางกอกโกลด์ส, สวนสนุกฟันเฟสต้า ฯลฯ ตั้งแต่วันที่ 1 – 31 มีนาคม 2564 ที่ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ ทุกสาขา
“เราคาดว่าแคมเปญ ‘ซัมเมอร์นี้ กินดี มีดีล’ จะสามารถช่วยกระตุ้น และสร้างบรรยากาศการจับจ่ายที่ดีให้กับค้าปลีกในช่วงซัมเมอร์ ด้วยความพร้อมของดีลโปรโมชั่นดีๆ ที่เราได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรธุรกิจต่างๆ รวมทั้งความเป็นไลฟ์สไตล์เดสติเนชั่น กิน ช้อป เที่ยว ที่สมบูรณ์แบบ และมาตรการฯ ที่คุมเข้มอย่างเคร่งครัดขั้นสูงสุดในการป้องกันโควิด-19 ซึ่งเราหวังว่าการตอบรับที่ดีจากนักช้อปในแคมเปญฯ จะเป็นหนึ่งส่วนสำคัญในการผลักดันและขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องนั่นเอง” นายจักรภพ กล่าวสรุป