ในโลกของสังคมดิจิทัลคงปฏิ
วันนี้ Memag Online นิตยสารออนไลน์ได้มีโอกาสพูดคุยกับ คุณมัญฑิตา จินดา Vice President Digital Marketing workpoint Entertrainment PCL. ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ และยังเป็นผู้ก่อตั้ง Digital Tips Academy หรือที่รู้จักกันในนามแฟนเพจ Digital Tips – นับ 1 ถึงล้านด้วยการตลาดออนไลน์ ที่โด่งดังและที่สำคั
ประวัติส่วนตัว และการเดินทางธุรกิจสู่สาย Digital Marketing
จบปริญญาโท (เกียรตินิยมอันดับ 2 ) จาก Henley Business School , University of Reading ประเทศอังกฤษ ปริญญาตรี คณะเศรษฐศาสตร์ ภาคภาษาอังกฤษเป็นนักการตลาดที่มีความหลงใหล และ คร่ำหวอดอยู่ในสายงาน Digital Marketing ทั้งในการทำธุรกิจส่วนตัว และ งานประจำ โดยเน้นแนวคิดการ ‘สร้างระบบ’ ธุรกิจออนไลน์ ที่สามารถทำได้โดยที่ใช้ เวลาน้อย เงินทุนน้อย และ สามารถเติบโตอย่างยั่งยืน โดยปัจจุบันนอกเหนือจากงานประจำ ก็ยังมีบริษัทของตัวเอง ทำธุรกิจอาหารสุขภาพ และ อาหารเสริมที่ใช้ช่องทางออนไลน์ 100%
หน้าที่รับผิดชอบของ คุณมัญฑิตา จินดา ใน Workpoint Group
ปัจจุบันดูแลแผนก Digital Marketing และ แผนก Brand Communication มีทีมงานเป็นคนรุ่นใหม่กว่า 30 ชีวิต ดูแล Content และ การต่อยอดธุรกิจ บน online platform ทุกแพลตฟอร์ม ตั้งแต่ Youtube , Facebook , Line, Website, Application เฉพาะ Facebook เอง บริษัทเรามีแฟนเพจกว่า 40 แฟนเพจ โดยมีเพจหลักคือ เพจ Workpoint ที่ตอนนี้มียอด Like กว่า 10 ล้าน ส่วนยอด Follower เกิน 11 ล้าน ไปแล้ว นอกจากนี้ ยังมีส่วนที่ดูแลงานด้าน Digital ให้กับเอเจนซี่และลูกค้า อาทิ พฤกษา , Loreal , Pepsi และอื่นๆอีกมากมาย
จุดเริ่มต้นของแนวคิดDigital Marketing แบบเร่งรัด Digital Tips – นับ 1 ถึงล้านด้วยการตลาดออนไลน์
จุดเริ่มต้น คือ รู้สึกว่าตัวเองโชคดี เพราะการทำงานในองค์กรทำให้เราได้เรียนรู้เยอะ และได้ทำงานใกล้ชิดกับ Partner อย่างเวลามีอะไรเรายกหูหาเค้าได้หมด มีอะไรใหม่ๆ ก็ได้อัพเดทก่อน ประกอบกับเวลาอยากลองอะไร ก็เอามาลองทำกับธุรกิจตัวเอง ใช้เงินตัวเอง เลยทำให้ได้เห็นทั้ง 2 ด้านของการทำธุรกิจ เพราะงานประจำเราสวมบทเป็น Publisher แต่ธุรกิจส่วนตัว เราคือ เจ้าของแบรนด์ ทุกบาททุกสตางค์ ต้อง Return กลับมาเป็นยอดขาย เลยอยากแบ่งปันประสบการณ์ตรงนี้ให้กับคนอื่นๆบ้าง ตอนแรก เริ่มจากการเขียน Blog ก่อน เขียนเป็นงานอดิเรก สนุกๆ จากนั้น ก็เริ่มมีคนมาขอให้สอน ก็เลยเริ่มเปิดคลาสแรกขึ้นตอนเดือน พค 2560 จากนั้น นักเรียนก็แนะนำกันปากต่อปาก คนก็เริ่มเยอะขึ้นๆ อย่างที่เห็นในวันนี้ ซึ่งเราจัดอบรมเดือนละ 1 ครั้ง คนก็เต็มทุกรอบ สิ่งที่ดีใจทุกครั้งก็คือ พอเค้าเรียนจบ แล้วเค้าได้ผลลัพธ์ที่ดีจริงๆ
มีเทคนิคการสอนอย่างไรให้มีศักยภาพโดดเด่นสำหรับผู้เรียน
คอร์สเราเป็นคอร์สเทคนิค ดังนั้น จะเรียนหนักหน่อย มีบรรยายประมาณ 20% เพื่อสร้างความเข้าใจ และ ปูคอนเซปท์ให้ถูกต้อง ที่เหลือเป็นลงมือทำล้วนๆ คั้นมาแต่เนื้อๆ ซึ่งจริงๆ คอร์สแบบนี้ ควรจะเรียนประมาณ 2 วัน แต่เรารวบให้อยู่วันเดียวเลยเพื่อให้ทุกคนประหยัดเวลา ดังนั้น คนที่มาเรียนจะรู้สึกว่าคุ้มมาก เพราะเราไม่มีน้ำๆ มาถึงชกปังๆๆๆ กลับไปเอาไปใช้ได้เลย ที่สำคัญ Tips เยอะมาก สมอย่างชื่อ Digital Tips ค่ะ
กลุ่มลูกค้าโดยมากเป็นกลุ่มไหน?
เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ และ เจ้าของกิจการ เราเน้นคนที่เป็นเจ้าของเพจ มีธุรกิจอยู่แล้ว แต่ไม่รู้ว่าจะต้องทำเพจอย่างไร หรือ ยิงโฆษณายังไงให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด บางท่านก็ใช้เอเจนซี่ทำ เลยอยากจะรู้ว่าจะต้องสั่งงานยังไง จะวัดผลยังไง เค้าก็จะมาเรียน เพื่อที่จะได้คุยกับทีมได้
ทิศทางของFacebook กลยุทธ์และแผนการตลาด ในปี 2561 หรืออนาคตจะเป็นอย่างไร
Facebook เป็นแพลตฟอร์มที่แคร์เรื่อง User Experience มาก ดังนั้น เจ้าของเพจจะพบว่า Organic Reach ลดน้อยลงเรื่อยๆ สาเหตุแรกคือ จำนวนร้านค้าออนไลน์เยอะขึ้นในขณะที่พื้นที่โฆษณามีเท่าเดิม ประกอบกับ User เอง ก็มี Feedback ว่าอยากจะเข้าถึงเพื่อนๆ ญาติๆ มากกว่าแฟนเพจ ดังนั้น Content Marketing จะทวีความสำคัญมากยิ่งขึ้น ในปี 2561 Video จะยังคงเป็นรูปแบบโพสต์ที่ได้รับความสนใจมากที่สุด สร้างยอดขายได้ดีที่สุด แต่ในขณะเดียวกัน ต้องระลึกอยู่เสมอว่า คนเราจะมีสมาธิสั้นลง Attention Span น้อยลง วีดีโอจึงควรต้องดึงความสนใจได้ตั้งแต่แรก พูดง่ายๆ คือ ต้องสั้น กระชับ และ ต่อยให้หนัก
เทคนิคที่ทำให้เปลี่ยนจากคนเล่นFacebook “เปลี่ยนไป” เป็นผู้ขายและก้าวไปสู่ความสำเร็จอย่างไร
ก่อนอื่นก็ต้องหาให้เจอว่าเราอยากทำอะไร และ สินค้านั้นๆ เหมาะที่จะนำมาขายออนไลน์หรือไม่ เพราะไม่ใช่สินค้าทุกอย่างจะเหมาะกับ Facebook การตั้งราคาก็สำคัญ คือ ควรจะเป็นสินค้าที่มีกำไรมากเพียงพอให้คนขายอยู่ได้ด้วย ถ้ากำไรบางมาก บวกลบคูณหารเงินที่ใช้ลงโฆษณาไปแล้วไม่คุ้ม เราก็จะเหนื่อย ที่เหลือเป็นเรื่องของการศึกษาเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ ให้เช้าใจ ควรทำเพจอย่างไร เขียนคอนเทนท์ยังไง ถ้าจะยิงโฆษณาต้องทำยังไง จะได้ใช้งบที่มีได้คุ้มค่ามากที่สุด
ในปี 2561 คุณมัญฑิตา จินดา จะมีการจัดกิจกรรมที่น่าสนใจอะไรบ้าง
ไลน์อัพปีหน้าจะมีคอร์สใหม่ๆออกมาทั้งเรียนสด คอร์สออนไลน์ และ E-Book นอกจากนี้ เราจะมีคอร์สพิเศษเป็นคอร์สใหญ่ จัด 3 เดือนครั้ง เป็นเนื้อหาใหม่ทั้งหมด และจะมี Guest Speaker ที่มืชือเสียงมาร่วมบรรยายด้วย อย่างปีหน้า รอบแรกจะเป็นวันเสาร์ ที่ 13 มค ที่โรงแรม S31 สุขุมวิท 31 เป็นคอร์สที่รวบรวม 20 Technics ทั้ง Facebook Marketing และ Advertising เป็นเทคนิคที่หาฟังยาก รอบนี้ มี Guest เป็น คุณรวิศ หาญอุตสาหะ เจ้าของ ศรีจันทร์ , อจ. ธันยวัขร์ ไชยตระกูลชัย และ คุณเสกสรร ปั้นยูทูบ มาร่วมบรรยายด้วย
องค์กรจะปรับตัวเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างไร ไม่ให้ตกเทรนด์?
อย่างแรกต้องทำความเข้าใจก่อนว่า Digital Marketing มันมี Content ยังไง จะเอามาใช้แบบไหนได้บ้าง เพราะการทำ Digital Marketing ไม่ใช่แค่การเอาคอนเทนท์มาแปะๆ ในสื่อต่างๆ เราต้องเข้าใจธรรมชาติของแพลตฟอร์ม เข้าใจ Customer Journey และการตลาดในยุคต่อไป แบรนด์จะมุ่งเน้นที่การสร้าง Experience ที่ดีในทุกๆ Touch point คือ จะไม่เหมือนสมัยก่อนที่มุ่งเน้นแค่ TQM ( Total Quality Management) ตอนนี้ต้องเป็น TEM ( Total Experience Management) ด้วย
การทำตลาดบนFacebook ทำอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ?
สิ่งที่ธิปน์พูดเสมอๆ ก็คือ ต้องครบ 3 ปัจจัย คือ 1. สินค้าและบริการต้องดีก่อน 2. คอนเทนท์ต้องแจ๋ว และ 3 ต้องสื่อไปได้ตรงกลุ่มเป้าหมาย ดังนั้น การทำตลาดบน Facebook หรือ Social Media อะไรก็ตาม มันเป็นทั้งศาสตร์และ ศิลป์ ศาสตร์คือ เทคนิค ศิลป์ คือ ศิลปะ ว่าด้วยเรื่องของการทำคอนเทนท์ให้ได้ใจผู้คน อย่าลืมว่า เราซื้อสื่อได้ แต่เราซื้อความสนใจคนไม่ได้ เรื่องนี้สำคัญมาก
การสร้างความประทับใจแก่ลูกค้าด้วยคุณภาพและคุณค่าในงานบริการเคล็ดลับเป็นอย่างไร
เคล็ดลับ คือ ต้อง Under Promise , Over deliver คือ ทำให้ได้มากกว่าพุดเสมอ ความจริงใจ น่าจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุด ยุคนี้เป็นยุคที่ ผู้บริโภคต้องการสิ่งที่ ‘ Real’ มากๆ อย่างสมัยก่อน จะขายกระเป๋า อาจจะต้องถ่ายแฟชั่นเซ็ต มีดารา มีนางแบบฝรั่งมาถือ แต่เดี๋ยวนี้ลูกค้าอยากเห็นภาพของคนธรรมดาๆ จริงๆ ว่าถือแล้วดูเป็นยังไง เวลาถ่ายก็ต้องใช้แสงแบบธรรมชาติ คือ ให้ใกล้เคียงความจริงมากที่สุด นอกจากนี้ ธรรมชาติของลูกค้าที่ซื้อของออนไลน์ คือ คาดหวังบริการที่สะดวกรวดเร็ว แอดมินต้องตอบสนองได้ไว การส่งของต้องเร็ว ช่องทางการชำระเงินต้องมีหลากหลาย หลายๆธุรกิจชนะกันที่ตรงนี้