นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นำทีมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พร้อมด้วยผู้ประกอบการและพันธมิตรทางการท่องเที่ยวไทย ร่วมงาน China International Travel Mart (CITM) 2023 ระหว่างวันที่ 17 – 19 พฤศจิกายน 2566 ณ Dianchi International Convention & Exhibition Center นครคุนหมิง สาธารณรัฐประชาชนจีน นำเสนอโหมดการเดินทางท่องเที่ยวรูปแบบใหม่จากจีนเชื่อมโยงเข้าไทยทางบกด้วยรถยนต์ รถไฟความเร็วสูงจีน-ลาว เปิดประตูสู่ถิ่นอีสานของไทย พร้อมฟื้นฟูกระตุ้นตลาด ปรับภาพลักษณ์ทางการท่องเที่ยว ผลักดันรายได้ตลาดจีนสู่เป้าหมาย
นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า งาน China International Travel Mart (CITM) 2023 เป็นงานส่งเสริมการขายสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดในตลาดจีน ซึ่งจะเป็นเวทีให้ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวภาคเอกชนไทยได้เจรจาธุรกิจกับผู้แทนบริษัทนำเที่ยวในตลาดจีน ตลอดจนนำเสนอสินค้าทางการท่องเที่ยวของไทยในตลาดจีน โดยรัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างไทยและจีนทั้งในมิติด้านเศรษฐกิจ การลงทุน การศึกษา โดยเฉพาะการส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินมาตรการยกเว้นการตรวจลงตราให้แก่นักท่องเที่ยวจีนตั้งแต่เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2566 – 29 กุมภาพันธ์ 2567 เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทาง (Ease of Travelling) ตลอดจนมุ่งที่จะยกระดับการท่องเที่ยวไทยในเรื่องความปลอดภัย คุณภาพมาตรฐานของสินค้าและบริการ และการสร้างประสบการณ์ที่ดีในการเดินทาง เพื่อพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวจีนกลุ่มคุณภาพ
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า ภายหลังจากสถานการณ์โควิด -19 โครงสร้างตลาดนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้าประเทศไทยเปลี่ยนจาก Mass Tourism เป็น Experienced Tourism โดยเฉพาะกลุ่ม Millennials และ Young Generations ซึ่งสนใจการเดินทางที่เน้นการสร้างประสบการณ์เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกัน ซึ่งประเทศไทยมีสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวที่หลากหลายพร้อมตอบโจทย์ รวมถึง ในการเข้าร่วมงาน CITM ของประเทศไทยครั้งนี้ได้นำเสนอทางเลือกใหม่ในการเดินทางท่องเที่ยวสู่ประเทศไทยจากการเปิดให้บริการรถไฟความเร็วสูงจากนครคุนหมิงสู่เวียงจันทน์ สปป.ลาว ซึ่งจะสามารถเชื่อมโยงการท่องเที่ยวเข้าสู่ภาคอีสานของประเทศไทยได้ จึงได้นำเสนอประสบการณ์ความสนุกของการท่องเที่ยวอีสาน ภายใต้แนวคิด “เที่ยวอีสานเมืองไทย ยิ่งไปยิ่งสนุก” ด้วยศิลปวัฒนธรรมไทย ประเพณี กิจกรรมสาธิต สินค้าท้องถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของภาคอีสาน เพื่อดึงกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนศักยภาพ โดยในปี 2567 ททท.จะมุ่งส่งเสริมตลาดจีนภายใต้แคมเปญ Amazing Thailand, You Taiguo Yue Wan Yue Kaixin (เที่ยวเมืองไทย ยิ่งไป ยิ่งสนุก) โดยมีแนวทาง 4 MOREs ได้แก่ More Alliances – สร้างพันธมิตรใหม่/ More Areas – เปิดพื้นที่ใหม่ ๆ เมืองรองของตลาดจีน/ More Nationwide – ร่วมกับพันธมิตร Online Platform ที่มีชื่อเสียง / More Agile – ส่งเสริมตลาดอย่างบูรณาการ
พิธีเปิดคูหาประเทศไทยได้รับเกียรติจาก นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นางสาวภาวีวรรณ นรพัลลภ กงสุลใหญ่ ณ นครคุนหมิง นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. นายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ ททท. และผู้แทนจากบริษัทนำเที่ยวนครคุนหมิงที่เสนอขายสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวคาราวาน และรถไฟความเร็วสูงเข้าร่วม โดยได้จัดการแสดงสีสันหรรษา ลีลาอีสานเป็นการต้อนรับ คูหาประเทศไทยออกแบบตกแต่งภายใต้แนวคิด “เที่ยวอีสานเมืองไทย ยิ่งไปยิ่งสนุก” เปิดประตูสู่ภาคอีสานของประเทศไทย เน้นสีสันและความสนุกสนาน นำเสนอศิลปวัฒนธรรมและวัฒนธรรมประเพณีของภาคอีสาน ด้วยกิจกรรมสาธิตการทำกระเป๋าประคบทองด้วยผ้าของภาคอีสาน การทำตุงใยแมงมุม กิจกรรมนวดไทย และสาธิตวาดภาพออร่าเสมือนจริง พร้อมกันนี้ ททท. นำผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวไทย 20 ราย ประกอบด้วย ผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยว โรงแรมและที่พัก แหล่งท่องเที่ยว โรงพยาบาลและธุรกิจด้านสุขภาพ และสายการบิน เข้าร่วมงานเพื่อเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวจีน
ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 9 พฤศจิกายน 2566 มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าประเทศไทยจำนวน 2,866,212 คน โดยปัจจุบันกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้าประเทศส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม FIT ที่เดินทางด้วยตนเอง ซึ่งมีทั้งกลุ่ม Gen Z & Millennials กลุ่มครอบครัวเพื่อนฝูง กลุ่มนักเรียนและกลุ่มพนักงานออฟฟิศ ซึ่งในปี 2567 ททท.จะมุ่งเน้นส่งเสริมกลุ่มศักยภาพเพิ่มเติม โดยเฉพาะกลุ่มรายได้สูง อายุน้อย กลุ่ม Digital Nomad กลุ่มนักท่องเที่ยวที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม กลุ่ม Young Business Entrepreneur ด้วยโครงการกระตุ้นการขายตลาดจีนควบคู่กับการปรับภาพลักษณ์เชิงบวก เพื่อเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพและมุ่งผลักดันรายได้ตลาดนักท่องเที่ยวจีนสู่เป้าหมาย