เมื่อโลกขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี เมื่อเทคโนโลยีมีมันสมอง มากขึ้นทำให้ธุรกิจ ต่างๆ SME หรือแม้กระทั่งองค์กรขนาดใหญ่ต้องปรับตัวไปตาม ความฉลาดของเทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์ และหลากหลายแบรนด์สินค้าต้องเร่งปรับองค์กร และบุคลากรให้สอดคล้องกับโลกเทคโนโลยีปัจจุบัน ธรุกิจด้านไอทีจึงเข้ามามีบทบาทและในการพัฒนาบุคลากร ให้เข้าใจเรื่องการใช้เทคโนโลยีในองค์กรมากขึ้นและการคิด Solution ให้เข้ากับขนาดขององค์กร วันนี้ Memag Online เราได้พาทุกท่านมารู้จักกับ PSS Groups หนึ่งบริษัทที่ one stop service ที่บริหารงานโดย คุณ เตวิช ไชยวรรณ กรรมการผู้จัดการ PSS Groups ที่มีประสบการณ์มากกว่า 20 ปี
จุดเริ่มต้นของการทำธุรกิจ IT
เริ่มชอบตั้งแต่เด็ก ต้องขอบอกว่ามาจากความชอบส่วนตัว ชอบทางด้านคอมพิวเตอร์ จำความได้ชอบมาตั้งแต่เด็ก ก็เลยศึกษาทางด้านนี้ ไปเรียนปริญาตรี และปริญาโท สุดท้ายแล้วก็ได้มาทำงานในวงการไอที นะครับ ได้มีโอกาสไปอยู่บริษัทชั้นนำของเมืองไทยและก็สุดท้ายแล้วนั้นเลยมาเปิดบริษัทเป็นของตัวเอง
ธุรกิจไอทีของบริษัท PSS Groups มีอะไรบ้าง
เราเป็นธุรกิจไอทีแบบครบวงจร คือมีบริการทุกอย่างนะครับไม่ว่าจะเป็นการทำ ระบบ server network กล้องวงจรปิด และระบบความปลอดภัยทางด้านไอทีนะครับ รวมถึงการให้คำปรึกษา IT consultant ครบวงจร หากมาหาเราเราเรามีทั้งหมดมีบริการทั้งขนาดแล็กและขนาดใหญ่ ตอบโจทย์ได้ทุกแบบ
นำเทคโลยีเข้ามาช่วย SME
สำหรับ SME เรามีการบริการหลายแบบ นะครับตั้งแต่แบบเล็ก ๆ ก็คือ ไฟล์ Sharing นะครับรวมไปถึง server on PSS private cloud แทนที่ SME ต้องมี Sever เอง 1 ตัว ใน office ไม่ต้องมาปวดหัวในการดูแลนะครับ ซึ่งเป็นจาก feedback จากลูกค้าเรา ว่าทำไมต้องมานั่งคอยดูว่าไฟจะดับไหม server เก่าหรือยัง มีคนดูแลไหม server ดับแล้ว มีคนเปิดให้ไหม server เก่าแล้ว มีปัญหาติดต่อใคร จะติดต่อช่างที่ไหน จะติดต่อพันทิพย์ จะปลอดภัยไหม อะไรอย่างนี้เป็นต้น เราก็เลยมี Solution พวกนี้มาตอบโจย์ SME มี ตั้งแต่ Solution ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่เลย ครับ
เริ่มเข้าสู่การรับงานขนาดใหญ่
เรามีตั้งแต่การวางระบบ Sever ชุดใหญ่ รวมถึงการทำระบบ back up ระบบ DR Disaster Recovery คือเป็นระบบสำรอง หาก ระบบหลักมีปัญหา ระบบสำรองจะ Run งานต่อได้ ระบบนี้จะเขามาช่วย ทำให้การทำงานไม่มีสดุด รวมถึงงานราชการด้วยก็มีเช่นกัน ครับ
ย้อนหลังไปที่จุดเริ่มต้นในการทำธุรกิจไอที อะไรคือความสร้างมั่นใจ ว่าธุรกิจนี้จะไปรอด
ต้องบอกว่าอยู่ในวงการไอทีอย่างแรก ทำงานมาหลายบริษัท เห็นมาเยอะว่ามีอะไรบ้าง สอง ก็คือ ตัวเองที่บ้านมีธุรกิจอื่นๆ อยู่ซึ่งทุกธุรกิจก็ต้องใช้ไอทีรวมถึงเพื่อน ๆ ที่รู้จักกันที่เรียนด้วยกันมา ทุกคนก็ต้องการไอที ใช่ไหมครับ ก็จะมี feedback กลับมาว่าจ้างเจ้านี้แล้วสักพักหนึ่ง หายไป จ้างเจ้านี้ไปไม่ตอบกลับ บริการไม่ดี เรียกไม่มาและอีกหลายอย่าง จน ทำให้เรามองว่า อันนี้เนี่ยคือจุดที่เราสามารถเข้าไปเติมเต็มได้เพราะว่า ที่บ้านทำธุรกิจเกี่ยวกับการบริการอยู่แล้ว ทำให้เรามองว่าเนี่ยคือ pinpoint ที่เราจะ เข้าไปเสริมได้ครับผม
สิ่งที่ธุรกิจเราแตกต่างจากคนอื่นอย่างไร และมีอะไรที่เราซื้อใจลูกค้าได้
ต้องยอมรับเลยว่า เรา ไม่ค่อย ยัดเหยียดในการขาย เราจะฟังลูกค้าเป็นหลักก่อนว่า เค้าเจอปัญหา อะไร เค้าต้องการอะไรและเค้ามี Budget เท่าไหร่ ? ในการทำระบบนั้นๆ เพราะว่า บางที แต่ละเจ้าให้ความสำคัญและความเข้าใจไอที ไม่เหมือนกัน บางคนมองว่าไอที เนี่ยคือการโยนเงินทิ้งไปและไม่ได้อะไรกลับมา ทางเราเองมองถึงจุดที่ ROI Return on Investment คุณลงทุนทางไอทีแล้วได้อะไรกัลบมาบ้าง สิ่งที่ Add on benefit เกิดขึ้นจากการลงทุนระบบนั้น ๆ อะไรแบบนี้ว่าจะเห็นผลเมื่อไหร่ อาจจะไม่ใช่เห็นผลทั้งหมดในเดือน สองเดือนนี้ อาจจะต้องใช้เวลาเป็นปี สองปี ถึงจะเห็นผล ครับผม
ยกตัวอย่าง SME ที่จะนำระบบเทคโนโลยีเข้าไปใช้งาน
หลักๆ เลยนะครับ SME จะเจอปัญหา เรื่อง server อย่างที่บอกไปว่ามี Server แต่ดูแลไม่ได้เรามีบริการ private cloud ย้าย Sever เค้ามาอยู่กับเรา เราจะได้บริการและดูแล ให้ 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะน้ำไม่ไหล ไฟดับ เกิดอะไรขึ้น ประเทศไทย ไม่ต้องห่วง ระบบ Server อยู่กับเรา ออนไลน์ 24 ชั่วโมง คุณสามารถเข้าถึงข้อมูลคุณได้ จากที่ไหน ๆ ก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นที่ออฟฟิต ที่บ้านหรือที่โรงแรม ครับผม หรือสามารถ work from anywhere ได้เลย
นอกจากระบบ cloud แล้วยังมีบริการอย่างอื่นอีกไหมที่จะไปเสริมทัพทาง SME ให้แข็งแกร่งขึ้น
มีหลายรูปแบบ เช่นเรื่องการทำ File sharing การทำ Document sharing หากันว่าพนักงาน สามารถนำ Document หากัน โดยที่ไม่ต้องส่ง Thumb drive หากันบางทีไม่ต้องส่งอีเมล์ก็ได้ ทำเป็นไฟล์ Share ทุกคน Save File ตรงนี้ อีกทีมหนึ่งดึงข้อมูล ทำงานต่อได้เลย 2. ทำระบบ Printing ให้ครอบคุม ไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็พริ้นงานได้ แทนที่ว่าทุกคนต้องมีพริ้นเอตร์ติดคอม ไม่ต้องแล้วอาจะมีแผนกละหนึ่งเครื่อง หรือบริษัทหนึ่งมีไม่กี่เครื่องก็พอ ทุกคนมาปริ้นหากันได้ก็จะ Save cost ตรงนี้เพราะว่าไม่มีใครพริ้นได้ตลอดทั้งวัน ถูกไหมครับ คุณจะปริ้นงาน อาทิตย์ละครั้ง 2 ครั้ง หรือไม่ก็คือ Report ตอนสิ้นปี หรือสิ้นเดือน ใช่ไหมครับ แต่ระหว่างนั้นพริ้นเตอร์ไม่ได้ใช้งานเลย ครับผม ตรงนี้เราก็เอามาเสริม ทำให้คุ้มทุนในการลงทุนครับ เป็นระบบที่เอามาคุมให้ เราจะมีระบบที่มาคุมระบบพริ้นติ้ง File Sharing ให้และนำระบบเรื่องการเข้าถึงระบบไฟล์ เอาสิทธิ์หรือ Policy มาควบคุม ว่า พนักงานแต่ละหน่อยงานแต่ละส่วนมีสิทธิไม่เหมือนกัน เจ้าของจะมีสิทธิ์เยอะสุด หัวหน้างานเยอะกว่าลูกน้องธรรมดา อะไรแบบนี้เป็นต้น สามารถสร้างความปลอดภัยของข้อมูลได้
ราคาการบริการ
จริง ๆ ราคาของเราไม่แพง อยู่ที่โจทย์ของลูกค้ามากกว่า ว่าลูกค้าต้องการขนาดไหน เล็กๆ ไปถึงใหญ่ ราคาก็จะตามความต้องการของลูกค้าครับผม อย่างลูกค้าที่ใช้บริการกับเราก็คิดเป็นแบบรายเดือน เองไม่แพงมาก ที่ราคาจับต้องได้ เริ่มต้นด้วยหลักพันบาท/ เดือน ความจุจะอยู่ที่พื้นที่การทำงานเนื้องานว่าการทำงาน Data ที่เค้าใช้มากน้อยแค่ไหน ถ้าเป็นระบบบัญชีทั่วไป อันนี้ Data ไม่เยอะ ปลอดภัยดูแลได้
การบริหารทีมงานและทีมบริการ
สำหรับทีมขายก่อนนะครับ Concept เราคือรับฟังลูกค้าเป็นอย่างแรกลูกค้า ต้องการอะไร สองพยายามเข้าใจในตัวธุรกิจลูกค้าด้วยว่าลูกค้าทำธุรกิจอะไรอยู่ แล้วระบบที่ลูกค้าพูดถึง เค้าเอามาทำอะไร เค้าจำเป็นแค่ไหน บางทีเราเคยไปเจอลูกค้าที่ไปฟังเพื่อน มา ไปเจอใน Google ต้องอย่างนั้นอย่างนี้ พอเอาราคาให้ดูตกใจและจะบอกลูกค้าว่า จริงๆ ลูกค้าไม่ต้องการขนาดนี้หรอก ต้องการแค่ไม่กี่อย่างเอง เหมือนซื้อสมาร์ทโฟนเป็นต้นนะครับ อย่างเช่นเราซื้อไอโฟนเราต้องการซื้อขนาด iPhone 14Pro max คำถามคือใช้ถึงหรือป่าว เราต้องไปดูโจยท์ตรงนั้นว่าจำเป็นมากน้อยแค่ไหนในวันนี้ อาจจะเริ่มต้น
จากตัวเล็กก่อนแล้วเมื่อธุรกิจเค้าขยายขึ้น ค่อย Expand ขึ้น ก็ได้ พูดถึงฝ่ายขายนะครับ พอฝ่ายบริการ ทีม Service เหมือนกันครับเอาใจใส่ลูกค้า รับฟังปัญหาที่เกิดขึ้นเวลาเราเข้าไปลูกค้าเราก็จะมาบ่นเอง ว่า เจอปัญหานั้นเจอปัญหานี้ แก้ไขได้ไหม เราต้องมาดูว่าเค้าเจอปัญหาเพราะอะไร เพราะเราหรือเพราะของเดิม หรือเพราะปัจจัยอืน ๆ ที่เกิดขึ้น บางครั้งการเป็น IT Consult ไม่จำเป็น ต้องให้คำปรึกษาไอทีอย่างเดียว บางครั้ง ก็มีการปรึกษาเรื่องก่อสร้างด้วย หรือเรื่องอื่น ๆ ด้วยเหมือนกันครับ ต้องรับฟังลูกค้าครับ
การเอาเทคโนโลยีมาลดความเสี่ยงในการบริหารองค์กร
การนำเทคโลโลยีมาลความเสี่ยงในยุคนี้ นั้น เราจะเห็นตั้งแต่ก่อนโควิด เราจะเจอเรื่อง Spyware Ransomeware อะไรแบบนี้ พวกไวรัส การบริหารความเสี่ยงนะครับทุกองค์กร ควรมี Back up ที่ดี ซึ่งระบบไม่จำเป็นต้องเป็นของแพง และดูแลให้เป็น บางองค์กรซื้อมาเลย Back up แต่ไม่มีทีมดูแล ถึงเวลามาดู อ้าวไม่มี Back up ข้อมูลเต็ม Back up ไม่ได้ เป็นต้น นี่คือ ส่วนสำคัญ ครับผม
เทคโนโลยี ในการเปิดโลกใหม่ให้กับองค์กร
จริงๆ เปิดโลกมานานแล้ว แต่แค่ลูกค้าไม่เคยเจอและยังเข้าไม่ถึง ก็มาเข้าถึงในช่วงโควิดนะครับคือระบบ Work from home ที่ทุคนพูดถึงกัน เพราะว่าช่วงนั้น อย่างที่เรารู้ๆ กันว่าโควิดไม่สามารถเจอหน้าหันได้ พนักงานไม่สามารถเข้าออฟิตได้ ได้ทำยังไงละครับ ทำงานที่บ้านทำยังไงก็ต้องมีระบบนี้เข้ามา ระบบ work from home เข้ามาช่วย basically แล้ว มันคือระบบ VPN Virtual Private Network ทำ internet network ให้เป็น Network ขององค์กร ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ไม่ว่าจะอยู่บ้านหรืออยู่โรงแรมนะครับ เหมือนอยู่ที่นี้ต่อหน้าการสัมภาษณ์กัน ถ้ามีระบบ VPN เข้ามาทำงานได้เลยเหมือนอยู่ในออฟฟิต ระบบนี้จะเข้ามาช่วยองค์กรใหม่ ๆ ได้
เยอะ และช่วยแก้ปัญหาความเลื่อมล้ำ ที่เกิดขึ้นว่า อยู่บ้านแล้วทำงานไม่ได้ คอมออฟฟิตไม่มี ต้องเข้าทำงานที่ออฟฟิต ต้องเข้าไปปริ้นงาน ที่บ้าน ไม่มีปริ้นเตอร์ แทนที่บริษัทจะต้องลงทุนซื้อ พริ้นเตอร์ใหม่ให้ พนักงาน ไม่ต้องเลยนะครับ แค่ invest ระบบ VPN ไม่ได้แพงเลย แค่ install โปรแกรม VPN มีอุปกรณ์ที่ออฟฟิต ให้มันเชื่อมหากัน พนักงานก็สามารถทำงานอยู่ที่บ้านเปรียบเสมือนนั่งอยู่ออฟฟิตได้ พริ้นงานได้ด้วย สมมิตุว่า ที่ออฟฟิตมี 50 คนตอนที่มีโควิด ล็อคดาวน์ อาจจะมีแค่คนสองคนที่เหลือปริ้น คนที่อยู่ออฟฟิตก็ช่วยพริ้นเอกสาร ก็ใส่ซอง ส่งแมสได้เลยเพิ่มความคล่องตัว ถึงว่าจะไม่สามารถเจอหน้ากันได้ก็ตาม
ข้อเสียของการนำเทคโนโลยีเมาใช้ในองค์กร
ข้อเสียมีครับ ถ้าทางองค์กรไม่มีการเข้าใจเทคโนโลยี ซื้อแต่ใช้ไม่เป็น ไม่เข้าใจว่าใช้งานยังไงใช้งานอะไรได้บ้าง ข้อเสียก็จะเกิด เช่นการสิ้นเปลือง อาจจะ โดนปัญหาเจอ Hacker เข้ามา เป็นต้นและข้อเสียอื่น ๆ ตัวอย่างเช่น ก็จะไม่เข้าว่าต้องข้อเสียแบบนี้ แทนที่จะซื้อ ของแพง สามารถซึ้อของถูกก็ได้ไม่จำเป็นต้องดีที่สุด แต่จำเป็นที่สุดดีกว่า
เคล็ดลับของการทำงาน ทั้งการบริหารจัดการทีมงาน
อยากที่บอกตั้งแต่แรกคือ รับฟังลูกค้าก่อนเลย เข้าใจธุรกิจลูกค้า ว่าเค้า ทำอะไรแค่นั้น หลักๆ เลย รับฟังและเข้าใจเค้าก่อน แล้วคุณก็จะขายของเข้าได้เอง อย่า ไปยัดเยียด Hard sell เข้าใจว่าทุกคนต้องขายแบบนี้ ต้องทำความเข้าใจลูกค้าก่อนว่าเค้าต้องการอะไร เหมือนจีบสาวอะครับ ต้องเข้าใจเค้าก่อน
ทีมงานให้คำปรึกษา
เรามีทีมงานพร้อมให้คำปรึกษา เรามีทีมที่มีประสบการณ์ ทีมงานเราประสบการณ์เกิน 20 ปี ครับผม ผ่านมาหลายระบบมาก ผ่านมาหลาย Solution เห็นมาหลายธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจเล็ก จนถึงธุรกิจใหญ่ สายการบินเราก็ดูแลมาแล้ว เพราะฉะนั้นเราจะสามารถให้คำปรึกษา ได้อย่างชัดเจนว่าลูกค้าต้องการอะไร ต้องการเพราะอะไร บางอย่างไม่จำเป็นเพราะอะไร บางอย่างรอได้เพราะอะไร อย่างนี้เป็นต้นครับ
สิ่งที่ทำให้ประสบความสำเร็จด้านของไอที
ต้องบอกตรงๆ คือความซื้อสัตย์ เป็นหลักเลย เราต้องขายของด้วยความซื่อสัตย์ ว่าเราขายเพราะอะไรนะครับ ลูกค้าจำเป็นมากแค่ไหน อะไรไม่จำเป็นเราไม่ขาย เราบอกเค้าตรง ๆ ว่า ตอนนี้ยังไม่จำเป็น แต่วันหน้า คุณอาจจะต้องใช้นะ แต่วันนี้เอาแค่นี้ก่อน ครับผม
ปรัชญาในการทำงาน
มีครับ ใจถึง พึ่งได้ ครับ คำว่าใจถึงคืออะไร บริษัทเราเนี่ย มีของเดมโมให้ลูกค้าเล่นเลย อยากรู้ว่าใช้งานได้จริงไหม ตอบโจทย์เค้าไหม เราเอาไปติดตั้งให้เลย เอาไปลองใช้งานเลย 1 เดือน เล่นให้พอใจ เล่นให้เข้าใจ แล้วค่อยซื้อเราก็ได้ ไม่ซื้อก็ไม่ว่า แต่อย่างน้อย คุณเข้าใจแล้ว่าสิ่งที่คุณต้องการ มันตอบโจทย์อยู่หรือป่าว พึ่งได้คืออะไร มีอะไรสามารถโทรปรึกษาเราได้เสมอ โทรมาได้ตลอดเวลา เราก็ให้คำปรึกษา ไม่ว่าจะเป็นระบบไอที หรืออื่น ๆ ที่งานรอบ ๆ ไอที ไม่เกี่ยวกับไอที เราก็ให้คำปรึกษาได้ ครับผม
ปัญหาช่วงวิกฤตโควิด -19
จริง ๆ เราปรสบปัญหาหลายรูปแบบ อย่างแรกเลยตัวออฟฟิตเราเองพอเจอโควิด ก็เจอทีมน้อยลงทุกคนก็ไม่กล้าเข้าออฟฟิต เราต้องมีระบบ Conference เข้ามาช่วยทำให้เราได้คุยงานและปรึกษางานกันได้ง่ายขึ้นนะครับผม สองประสบปัญหาคือ ลูกค้าหลายเจ้าของเราจากเดิมที่ตั้ง Budget ไว้ก็มีการ Pause หรือ Potstone Budget เพราะว่าเศรษฐกิจ สถานการณ์บ้านเมืองเรา มันไม่แน่ไม่นอนไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แทนที่จะ Spend เงินในวันนี้อาจจะเก็บไว้เผื่อมาใช้จ่าย ในองค์กรก่อนช่วงโควิค ก็มีประมาณนี้ครับ ลูกค้าปรับ เราก็ปรับ ทุกคนต้องปรับเข้าหาช่วยเหลือกันครับผม
ทิศทางการเปลี่ยนแปลงระบบไอทีปี ก่อน ๆ กับปีนี้ และโลกอนาคต
ต้องบอกเลยว่า แค่ช่วงก่อนโควิดและหลังโควิด ระบบ work from Home ระบบ VPN ระบบ cloud completing ก็มาแรงขึ้น ก็คือแทนที่องค์กรจะต้องเสียเงิน ในการซื้อคอมพิวเตอร์แพง ๆไม่จำเป็นแล้ว ใช้คอมพิวเตอร์ตัวเก่า และก็รีโมทเข้าไปที่ระบบใหม่ได้เลย ตอนนี้ถ้าจะเห็นหลักๆ เลยคือไมโครซอฟ ประกาศแล้ว นะคับ ว่า Window on could ก็คือ สามารถใช้ iPad ก็ได้ เปิดเข้าไปในเว็ปของไมโครชอฟ ที่คุณสมัครสมาชิกไว้ ก็สามารถใช้งาน Windows ได้เลย สามารถพิมพ์งานในนั้น save งานได้จบเลย มาเป็นเทคโลยี ที่ disrupt อีกทางหนึ่ง คนเรา Invest กับ Hardware เกิดไปแล้ว ปัญหาของเราคือเป็นที่ ชอฟแวร์ การทำงานคืออยู่บนเครื่อง อย่างเช่น ทำงานบนคอม คอมตกพื้น Data หาย ไฟดับ Data หาย หรือเกิด accident อะไรก็แล้วแต่ แต่ถ้าคุณทำ ระบบ on cloud คุณสามารถพิม์งานบนโน้นเลย ไฟดับก็ save งานไว้อยู่แล้ว เปิด iPad ก็ได้ ไปบ้านเพื่อนก็ขอยืมคอมหน่อย ก็สามารถทำงานต่อได้เลย ทันที ครับผม ซึ่งระบบนี้ทาง PSS Groups ก็เริ่มมาประยุกต์เข้าใช้แล้วเหมือนกัน อาจไม่หวืหวาเหมือนกับทางไมโครซอฟแต่เราก็ทำได้ใกล้เคียงกันครับผม
ช่วงโควิดที่ผ่านที่เทคโนโลยีอะไรที่เข้ามามีบทบาทแล้วได้ผลและไม่ได้ผล
ที่ได้ผลเลยนะครับคือ Streaming platform ที่เห็นได้ชัดคือ ระบบ Streaming platform Netflix ขายดีมาก คนดู YouTube มากขึ้นดู Netflix มากขึ้น Free TV ที่เราดูกัน คนดูน้อยลง เพราะว่า contents ดีๆ หลัก ๆ จะอยู่ในนั้นเพราะอะไร เรา Search หาได้เลยเราไม่ต้องรอว่าจะฉายกี่โมง ใช้ไหมครับ เราสามารถกดดูได้ทันที นะครับผม แต่จะเห็นว่า สิ่งที่จะมีการเปลี่ยนแปลง ในทางที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก คือเรื่องการใช้ พวก File sharing เพราว่าไม่ได้ Connect กับ Internet หลายองค์กร ที่เป็นระบบปิดนะครับที่กลัวข้อมูลรั่วไหล ทำให้พนักงานใช้งานลำบากมาก การทำ VPN เยอะๆ ทำให้ Internet ภายในองค์กรมัน น้อยลง อย่างเช่น Internet มี 1 Gigabyte bit แต่พนักงานมี 100 คนเข้ามาใช้งานพร้อมกัน Internet 1 Gigabyte bit ก็ไม่พอใช้งาน ทำให้ระบบ Cloud Google drive, Microsoft one drive มันโตสำหรับองค์กรแล้ว คุณแทนที่จะเป็นเอาไว้ Data ที่อยู่ในองค์กรไปไว้บน Cloud แต่ทำระบบปิดให้ก็ได้แทนที่พนักงานจะเอาข้อมูลจากออฟฟิต เลยต้องวิ่งเข้าออฟฟิต ไม่ต้องเลยไปวิ่งบน Google บน ไมโคชอฟ คุณจะลดภาระการใช้งาน infrastructure ขององค์กรได้เยอะมาก ครับผม
สำหรับปี 2566 นี้จะมีผลิตภัณฑ์ตัวไหนที่จะมาช่วย SME มากขึ้น
อย่างที่บอกครับว่าจะมี Cloud Computing ระบบ Private Cloud จะมาช่วยเราจะแตกต่างจาก Public Cloud คำว่า Public Cloud ของผมคืออะไร อย่างเช่น Amazon, Google อย่างนี้เรียกว่า Public Cloud ก็คือถ้าเซตระบบได้ไม่ดี ใครก็สามารถเข้ามาดูระบบได้หมด ของเราเป็นระบบ Private Cloud อยู่บนระบบของทาง PSS ซึ่งเราทำขึ้นมาเอง ทุกอย่างอยู่ภายใต้เราเราดูแลระบบให้ทุกอย่าง ตัวนี้จะทำงานดี และลูกค้า องกรค์เริ่มให้ความสนใจเพราะว่า Cost ที่เค้าจะต้องซื้อ Server 1 ตัว และดูแลในระยะ เวลา 1 ปี ราคาแพงกว่าใช้บริการรายเดือนกับเรา อย่างนี้จะเห็นผลได้ชัด สองเรามีระบบ ผลิตภัณฑ์ใหม่ ระบบเช่าใช้ เดิมที่บางคนต้องซื้อมาใช้หากเกิดอะไรขึ้นก็ต้องหาวิธีขายหรือแจก แต่อยู่กับเราคือเช่าได้เลยอุปกรณ์ทุกชนิด Server network กล้องวงจรปิด แม้กระทั้ง PC ก็ตาม บางบริษัทนะครับ พยายามกำลังจะขยับขยาย Budget ยังไม่มี แต่ต้องรีบขยายทำยังไง มาใช้บริการเช่ากับเรา เรามีทั้งหมดเลย Wi-Fi, internet ครบวงจร แค่คุณหาพื้นที่ แค่บอกเราว่าต้องการรองรับพนังงานกี่คนใช้กี่คน ทางทีมงานเราจะคิด Solution ให้ ทำแพคเกจส่งราคาเสนอรายเดือน เดือนต่อเดือน หมดปุ๊ปมองว่าไม่ต่อ อยากใช้ยกเลิกได้เราสามารถเอาของคืน ให้ หากต้องการขยายสามารถใส่เติมได้ทันทีครับผม
กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
เดิมทีเราโฟกัสที่กรุงเทพก่อน หลังๆ เราเริ่มมีลูกค้าจากต่างจังหวัดบ้างแล้ว ช่วงโควิดเราโชคดีเราได้ลูกค้าต่างประเทศด้วยคือเพื่อนบ้านเรานี้เอง เราสามารถเดินทางไปดูแลได้นะครับก่อนที่จะปิดประเทศ เค้าก็ต้องการระบบ Work from Home เหมือนกัน นะครับ เราก็ไปจัดการ Environment ให้
ธุรกิจไอทีมีความเหนื่อยหรือท้อในการบริหารงานบ้างไหม
เหนื่อยครับเหมือนทุกธุรกิจที่ ต้องมีการบริหารของที่จะขายอย่างเดียว เราต้องเข้าใจลูกค้าด้วยว่าลูกค้าต้องการอะไร ความต้องการของลูกค้าแต่ละคนไม่เหมือนกัน และก็ลูกค้าเปลี่ยนใจบ่อยเหมือนกัน คำว่าเปลี่ยนใจบ่อย ไม่ใช่ว่าเค้าไม่ซื้อเรานะครับ เค้าอยากได้อะไรมากขึ้น หรืออย่างลดสเปคลงมา อะไรแบบนี้เป็นต้นเราต้องตามให้ทัน เข้าใจลูกค้าว่าทำไม เพราะอะไร ครับผม
ทิศทางการลงทุนในปี 2566
เรามองการบริการเป็นตัวหลักเหมือนเดิม เรายึดมั่นคำเดิมว่าเราเน้นการบริการ แน่นอนเราลงทุนที่บุคลากรเราจะเอาทีมงานไปเทรนด์มากขึ้น เทรนด์เรื่องความรู้ใหม่ๆ เรื่องเทคโนโลยี แทรนด์เรื่องวินัย ในเรื่องบริการ เวลาเจอหน้าอยากให้ลูกค้า Happy เวลาลูกค้าเจอหน้า แล้วอยากจะคุยด้วยทุกครั้งเมื่อเข้าไปหา เรียกได้ว่าหัวใจของการบริการ
สุดท้ายฝากเรื่อง ไอที ด้านการบริการ
มีครับอยากจะเสริมโดยตรงเลยว่า อย่าประมาท ขอใช้คำเดียวเลย เพราะว่าเราเคยมีลูกค้าที่ประมาท แล้วไม่สามารถกู้คืนได้ อยากจะบอกเพื่อน ๆ SME ทุกหคน ลงทุนเรื่องการ Back up เถอะครับ ลงทุนเรื่องระบบบ้างอย่างเถอะครับมันมีประโยชน์ จริงๆ มันอาจจะดูแพง อาจจะดูสิ้นเปลือง แต่เชื่อเถอะว่าถ้าคุณใช้มันแล้ว ผ่านไปสักครึ่งปี จะรู้ได้ว่ามันจะมีประโยชน์ต่อองค์กรแค่ไหน เพราะว่าบางอย่างเงินซื้อไม่ได้จริงๆ ข้อมูลที่โดนแฮ็คไปแล้ว หรือหายไปแล้วเนี่ย คุณไม่สามารถซื้อคืนได้แล้ว วันนี้คุณมีเงิน สามารถซื้อได้แล้ว คุณซื้อเถอะซื้อไว้ก่อน ครับผม
สามารถติดต่อปรึกษาได้ที่ Facebook : PSS Groups : Total I.T. Solutions
ขอบคุณสถานที่ถ่ายทำ
Centara Grand at CentralWorld
https://www.centarahotelsresorts.com/centaragrand/cgcw
ชมย้อนหลังการสัมภาษณ์ผ่าน Live Steaming
ติดตามชมย้นหลังบทสัมภาษณ์ ได้ที่ YouTube Memag Online
YouTube Memag Online : CEO Talk interview https://www.youtube.com/watch?v=JM4n4FUnX4o&t=2258s
Behind the scenes https://www.youtube.com/watch?v=jClPQgxvsSo