รู้หรือไม่ว่า ร่างกายคนเรานั้นมีระบบป้องกันตัวเองแบบอัตโนมัติเพื่อป้องกันการโจมตีจากศัตรูที่อยู่ในสิ่งแวดล้อมต่างๆรอบตัวเรา ที่พบบ่อยที่สุดคือเชื้อโรค เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดภาวะเจ็บป่วยที่ไม่พึงประสงค์ ระบบนี้เราเรียกว่า ภูมิคุ้มกันร่างกาย หรือ Immunity นั่นเองและเมื่อเทคโนโลยีการแพทย์เจริญขึ้น เราสามารถสร้างภูมิคุ้มกันร่างกายต่อเชื้อโรคต่างๆ ขึ้นมาได้ เช่น การฉีดวัคซีน เป็นต้น
ศัตรูผู้รุกรานร่างกาย หรือที่เราชอบเรียกว่า สิ่งแปลกปลอม แบ่งง่ายๆ เป็น 2 กลุ่ม คือ
- จากภายนอกร่างกายเช่นเชื้อโรคอัน ได้แก่ เชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา เชื้อไวรัส การเกิดเสี้ยนตำ หรือสิ่งต่างๆ ที่ไม่ใช่ของร่างกายเราถูกใส่เข้าไปในร่างกาย เช่น เหล็กดามที่กระดูก stent ของหลอดเลือดและหัวใจ
- จากภายใน เมื่อเซลล์ที่เป็นส่วนประกอบของเนื้อเมื่อร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลง เช่น ติดเชื้อ หรือกลายพันธุ์ไปเป็นมะเร็ง ร่างกายจะจดจำหรือ detect ว่าเป็นสิ่งแปลกปลอมทันที และเกิดภูมิคุ้มกันวิ่งมาทำลาย ร่างกายจะรู้ได้อย่างไร หรือ detect ได้อย่างไรว่าสิ่งไหนเป็นเพื่อน หรือสิ่งไหนเป็นสิ่งแปลกปลอม โดยเราพบว่าทุกๆ ผนังเซลล์ของทุกเซลล์ในร่างกายจะมีโปรตีนชนิดหนึ่งเหมือนกับในทุกเซลล์ของคนๆ หนึ่งและแตกต่างกันในแต่ละคน ซึ่งอาจต่างกันมากหรือน้อยแล้วแต่ความใกล้ชิดของคน โปรตีนนั้น มีชื่อเรียกว่า Major Histocompatibility Complex (MHC) ซึ่งเปรียบเสมือนสัญลักษณ์บอกฝ่ายของฝ่ายเราและสิ่งแปลกปลอม เหมือนเครื่องแบบทหารในการรบในสงคราม แต่มีเซลล์ผิดปกติบางเซลล์ สามารถปลอมตัวเหมือนกับเอาเครื่องแบบทหารของเรามาใส่จนเราเข้าใจผิดว่าเป็นพวกเดียวกัน ภูมิคุ้มกันจึงไม่ทำลาย เช่น เซลล์มะเร็ง เป็นต้น
สารที่ไม่มีชีวิต เช่น โลหะ ไม้ ไม่มีโปรตีนชนิดนี้ จึงเป็นสาร inert หรือ เฉื่อยชา ต่อ ภูมิคุ้มกัน ทำให้โลหะหลายอย่างมีปฏิกิริยากระตุ้น ภูมิคุ้มกันต่ำ สามารถใส่เข้าไปในร่างกายมนุษย์เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ได้
ความรู้เรื่อง MHC เป็นพื้นฐานให้นำมาใช้ในวิชา เซลล์บำบัด หรือ cell therapy ได้ เช่น การให้เลือด การปลูกถ่ายอวัยวะ การให้ stem cell ถ้าเราจะเปลี่ยนไตให้ผู้ป่วย เราไม่ต้องเอาเซลล์ของไตผู้บริจาคและเซลล์ไตผู้ป่วยมาตรวจ เพื่อหา MHC ว่าเข้ากันได้มากน้อยเพียงใด เพราะโชคดีที่เราตรวจพบว่าที่เม็ดเลือดขาวของมนุษย์นั้น มีโปรตีนอีกชนิดที่เรียกว่า HLA Human Leukocytic Antigen ทำหน้าที่เหมือนกับ MHC ทุกประการ ถ้าเราตรวจเลือดพบว่า 2 คนมี HLA ใกล้เคียงกัน อวัยวะก็จะเข้ากันได้จนเกิดปฏิกิริยาภูมิคุ้มกันร่างกายน้อย จนสามารถใช้ยาระงับอาการไว้ได้
ระบบป้องกันตัวเราหรือภูมิคุ้มกันร่างกาย แบ่งเป็น 2 กองทัพ ดังนี้
- ทัพหน้า หรือ ภูมิคุ้มกันที่มีมาแต่กำเนิดและอยู่ในร่างกายตลอดเวลา คอยเฝ้าระวัง ไม่ให้ถูกโจมตี เสมือนทหารยาม หรือทหารเฝ้ากำแพงเมืองที่ทำลายศัตรูทุกประเภท เรียกว่า innate immunity หรือ Non-specific Immunity
- ทัพหลวง หรือ กองหนุน สร้างขึ้นมาเมื่อร่างกายถูกโจมตี โดยเอาลักษณะและจุดอ่อนของศัตรูผู้รุกรานเป็นพิมพ์เขียวมาสร้างกองทหาร กองทัพหลวงที่มีความสามารถสูง และสร้างมาเพื่อทำลายศัตรูโดยเฉพาะตามพิมพ์เขียวเท่านั้น ไม่ทำลายศัตรูชนิดอื่นที่ลักษณะไม่ตรงกับพิมพ์เขียว เรียกว่า Acquired หรือ Adaptive Immunity
ถ้าเปรียบร่างกายเหมือนเมืองๆหนึ่ง แบบสมัยโบราณ ระบบป้องกันที่ติดตั้งมาพร้อมกับการสร้างเมือง คือ กำแพงเมือง หรือ ผิวหนังที่ปกคลุมร่างกาย ที่อาจเรียกว่า กายนคร ผิวหนังนี้จะประกอบด้วย เซลล์สี่เหลี่ยมที่แข็งแรง เรียกว่า squamous cell และต่อกันแน่นด้วยวิธีที่ เรียกว่า Tight Junction ถ้าผิวหนังไม่ฉีกขาดเป็นแผล จะไม่มีสิ่งแปลกปลอมใดๆ เข้าสู่ร่างกายได้เลย ดังนั้นที่ว่าเชื้อไวรัสซึมผ่านผิวหนังเข้ามาได้ตามที่กลัวกันนั้นเป็นเรื่องโม้ อะไรจะเก่งขนาดนั้น
กำแพงเมืองนั้น มีจุดอ่อนอยู่ที่ประตูเมือง ทหารผู้รุกรานใช้ท่อนซุงกระแทกประตูเมืองให้พัง จุดอ่อนของผิวหนังที่ปกคลุมร่างกายที่ศัตรูผู้รุกรานเข้ามาได้ คือ รูเปิดของทวารทั้ง 5 ได้แก่ ตา หู จมูก รูเปิดอวัยวะสืบพันธุ์ และรูเปิดของทวารหนัก ซึ่งทวารทั้ง 5 ก็มีระบบป้องกันตัวเอง เหมือนประตูเมืองที่มีกลอนประตูและมีกรวดทรายร้อน ถูกไฟมาเผาโจมตีผู้รุกราน
กำแพงเมืองมีทหารเมืองมีทหารเฝ้า ร่างกายของเราก็มีทหารเฝ้า ซึ่งคือ ภูมิคุ้มกันทัพหน้า หรือ innate Immunity ที่สร้างมาจากไขกระดูก เป็นเม็ดเลือดขาว ลอยอยู่ในกระแสเลือดและอวัยวะต่างๆ เปรียบเสมือน ทหารเฝ้ากำแพงและทหารยามลาดตระเวน คอยต่อสู้กับศัตรูทุกชนิดที่รุกราน ซึ่งการต่อสู้มักต่อสู้แบบยอมตาย หรือกัดกินศัตรูเข้าไป ในกลุ่มนี้มีทหารเอกที่เราคุ้นเคยกันดีตัวหนึ่ง คือ NK cell หรือ Natural Killer Cell ที่เก่งกาจในการรบ และซึ่งการพิฆาตศัตรูจะผิดจากเม็ดเลือดขาวตัวอื่น คือ จะบังคับให้เซลล์ของร่างกายที่ถูกศัตรูรุกราน เช่น เซลล์ที่ติดเชื้อไวรัส หรือ เซลล์ที่กลายพันธุ์จนเป็นมะเร็ง กลายเป็นเซลล์ทรยศต่อบ้านเมือง และมี MHC ที่แปลกไปจากเดิมกลายเป็นสิ่งแปลกปลอม จะถูกบังคับฆ่าตัวตาย เราเรียกขบวนการฆ่าตัวตายของเซลล์ที่ผิดปกตินี้เรียกว่า Apoptosis เมื่อเซลล์ในอวัยวะหนึ่งตายมันจะถูกแทนที่ด้วยขบวนการหายของแผลที่เรียกว่า พังผืด ทันที อวัยวะไหนมีพังผืดมากๆ ก็ทำให้การทำงานของอวัยวะนั้นเสียไป เช่น ภาวะ long Covid ก็เกิดจากพังผืดที่ปอด
มีเม็ดเลือดขาวอีกตัวที่เป็นพระเอกเหมือนกับทำหน้าที่เป็นสายลับ 007 นำข้อมูลลักษณะและพิมพ์เขียวของศัตรูผู้รุกรานไปแจ้งให้เม็ดน้ำเหลือง เพื่อสร้าง ภูมิคุ้มกัน หรือทัพหลวง หรือ กองหนุน ที่ใช้เวลา 5-15 วัน แล้วแต่ความแข็งแรงของร่างกาย เม็ดเลือดขาว007 นี้จะไม่ได้ชื่อว่า James Bond แต่ชื่อว่า Dendritic Cell
ยังมีเม็ดเลือดขาวอีกหลายชนิดที่มีส่วนในภูมิคุ้มกันทัพหน้านี้ บางตัวทำหน้าที่ ชี้เป้า บางตัวทำหน้าที่เหมือนกับรถถัง หรือปืนใหญ่ ดังนั้นกองทัพที่จะรบชนะ ต้องมีสัดส่วนของทหารทุกประเภทที่เหมาะสม เพราะทุกห่วงโซ่สำคัญหมด แม้แต่พลาธิการส่งเสบียงและอุปกรณ์จำเป็นในการรบ เช่น น้ำมันเชื้อเพลิง รถถังที่ไม่มีน้ำมันคือเศษเหล็ก สัดส่วนของทหารร่างกายเหล่านี้ ถูกกำหนดโดยธรรมชาติ เพื่อให้การทำงานได้ดีที่สุด การไปทำให้สัดส่วนผิดไป เช่น เพิ่มจำนวน NK Cell โดยฉีดเข้าไป อาจทำให้ความสามารถในการรบของกองทัพด้อยลงไปก็ได้ มิหนำซ้ำการฉีด NK Cell เข้าร่างกายเราจะตรวจพบว่า จำนวนหรือปริมาณเพิ่มขึ้น โดยไม่สามารถตรวจพบว่าหน้าที่การทำงานดีขึ้นหรือไม่ ตัวอย่างคือ มีอวัยวะบางอย่างในร่างกาย เช่น ตับ ถ้าเสียไปจะงอกขึ้นมาใหม่ได้ เรียกว่า เกิด Regeneration แต่ตับที่งอกขึ้นมาใหม่นั้น ไม่สามารถทำงานได้เหมือนตับเก่า
การบำรุงให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ดี คือ การทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง ทานอาหารครบหมวดหมู่ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ 6-8 ชั่วโมงต่อวัน หลีกเลี่ยงสารเสพติดเช่น แอลกอฮอล์ ที่มีงานวิจัยแล้วว่าทำให้ภูมิคุ้มกันร่างกายอ่อนแอลง อาหารเสริมต่างๆ ที่อ้างว่าช่วยเสริมภูมิคุ้มกันนั้น หลายอย่างพบว่าทำให้ปริมาณเซลล์ภูมิคุ้มกันแบบ innate immunity เพิ่มขึ้น แต่ไม่เคยมีหลักฐานที่บอกได้ว่าการทำงานของภูมิคุ้มกันโดยรวมดีขึ้น ร่างกายที่แข็งแรงจะทำให้การสร้างทัพหลวงหรือกองหนุนใช้เวลาสั้น จะมีทหารจำนวนมากมารุมทำลายศัตรูผู้รุกรานก่อนที่มันจะยึดพื้นที่ต่างๆ ของประเทศเรา และเพิ่มจำนวนขึ้น จนเราปราบปรามไม่ไหว และเกิดผลลัพธ์ คือ ความเจ็บป่วย ต้องพึ่งความช่วยเหลือจากพันธมิตร เช่น การให้ยา เป็นต้น
ครั้งหน้าเราจะกล่าวถึง ว่าเมื่อสายลับ 007 หรือ Dendritic Cell นำข้อมูลข่าวสาร หรือพิมพ์เขียว หรือเรียกภาษาแพทย์ ว่า Antigen ไปให้ต่อมน้ำเหลืองแล้ว จะเกิดอะไรขึ้นกับปฏิกิริยาภูมิคุ้มกันร่างกาย พบกับตอนที่ 2 นะครับ
วท.บ., พ.บ., ว.ว.ศัลยศาสตร์ทั่วไป อ.ว.ศัลยศาสตร์ล าไส้ใหญ่ทวารหนัก , อ.ว.ศัลยศาสตร์มะเร็งวิทยา F.R.C.S (Edinburgh), F.R.C.S (Ireland), F.A.C.S, F.I.C.S, F.R.S.M
(London), FAM(Malaysia), FCS (Sri Lanka) อดีตประธานราชวิทยาลัยศัลยแพทย์แห่งประเทศไทย