“เราเป็นยูนิคอร์นแล้ว” คำพูดนี้มาจากผู้ชายหนุ่มคนหนึ่งที่มีความฝันและความตั้งใจทำในสิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงวิถีธุรกิจด้านการเงินดิจิทัลของเมืองไทย 2 ปี ก่อน นับจากดำเนินกิจการ กระแสตอบรับเติบโตมากขึ้น ผู้ติดตามแสดงความคิดเห็นชื่นชม กระแสความนิยมในคริปโตเคอร์เรนซีเริ่มเพิ่มสูงขึ้น ณ นาทีคงไม่มีใครไม่รู้จัก บิทคับ ไทยแลนด์ หรือผู้ชายที่ชื่อ ท๊อป- จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ร่วมก่อตั้งและ Group CEO ของบริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BCGH) บริษัทเกี่ยวกับบล็อกเชนและคริปโตเคอเรนซี่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เค้าคือผู้บุกเบิกและ เป้าหมายต่อไปคือเปลี่ยน บิทคับ ให้เป็นที่สิ่งที่ประเทศไทยขาดไม่ได้
จุดเริ่มต้นของการสนใจ“บิตคอยน์”ซึ่งเป็นตัวแทนของโลกคริปโตเคอร์เรนซี่ Exponential Growth ธุรกิจเติบโตแบบก้าวกระโดด
ในช่วงเริ่มต้น ผมได้มีโอกาสไปทำงานด้าน Investment Bank ที่เซี่ยงไฮ้ครับ ผมเริ่มรู้จักกับเทคโนโลยีด้านสินทรัพทย์ทางการเงินแบบใหม่ที่เรียกว่า Bitcoin ในช่วงปี 2013 โดยที่ผมสังเกตเห็นราคาพุ่งจากมูลค่า 11 ดอลลาร์ เป็น 1,150 ดอลลาร์ ซึ่งคำนวณแล้วเป็นการเติบโตมากถึง 1,000% และนั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมได้เรียนรู้และเข้าใจเกี่ยวกับ Bitcoin ต่อมาผมก็ได้เชื่อมั่นว่าบิตคอยน์จะสามารถเข้ามาเปลี่ยนแปลงโลกทางการเงินในอนาคตภายใน 10 ปีนี้ได้อย่างแน่นอนครับ
เราต้องยอมรับนะครับว่าไม่ว่าจะเป็นอายุ ชื่อเสียง หรือยอดขายของเราในปัจจุบันจะไม่สามารถรับประกันได้ว่าธุรกิจของเราจะยืนยาวและประสบความสำเร็จแค่ไหนในอนาคต แต่ถ้าหากเราสามารถสร้างองค์กรที่สามารถปรับตัวให้สอดคล้องเพียงพอกับความต้องการของการเติบโตอย่างก้าวกระโดด หรือที่เราเรียกกันว่า exponential growth นั้น ธุรกิจของเราก็จะมีโอกาสที่สดใสและมั่นคงขึ้นในอนาคตครับ
องค์กรแบบ exponential ถูกสร้างขึ้นโดยเทคโนโลยี เป็นการทำให้สิ่งที่เราคุ้นเคยกันในอดีตเปลี่ยนแปลงจากรูปแบบที่สามารถจับต้องได้ ให้ไปสู่รูปแบบของดิจิทัลที่เราจับต้องไม่ได้ แต่มีอิสระให้การเข้าถึง ซึ่งผมเชื่อว่าการก้าวไปข้างหน้าของนวัตกรรมเทคโนโลยีจะเร็วยิ่งขึ้นไปอย่างต่อเนื่องแน่นอนครับ
จุดเปลี่ยนแปลง ของการที่ ไม่ตั้งใจเรียน แก้ปม มาเป็นนักเรียนดีเด่นและก้าวสู้การเป็นนักเรียน Top from ได้เหรียญทอง
ผมคิดว่าจุดเริ่มต้นมันเกิดจากตอนที่ผมเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
ที่เคยมีอยู่ หรือสร้างหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์และบริการขึ้นมาใหม่ ซึ่งอาจจะขัดต่อวิธีคิดของการทำธุรกิจในอุตสาหกรรมที่มีอยู่ครับ เราจึงตัดสินใจที่จะก่อตั้ง Bitkubเราได้เห็นแล้วว่าเทคโนโลยีบล็อกเชนมีอิทธิพลอย่างมากต่ออนาคตและเราตั้งใจที่จะทำให้มันเกิดขึ้นจริง เพราะเราเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลจะยังคงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกเป็นอย่างมากในระยะยาว เราจึงสนับสนุนการทดลองและลงมือทำในสิ่งใหม่ๆ รวมถึงการกล้าคิดนอกกรอบครับ
การที่ผมได้เห็นกระบวนการการทำงานทุกขั้นตอนอย่างละเอียดของบริษัท ในช่วงต้นของการตั้งบริษัทสตาร์ทอัพ ทำให้ผมมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในทุกๆทีม เพราะสิ่งที่ผมให้ค่ามากกว่าตัวเงินก็คือ ประสบการณ์และการเรียนรู้ครับ
การเติบโตแบบก้าวกระโดดของ Bitkub ทำให้เราใช้โอกาสนี้ในการสร้างมูลค่าอย่างต่อเนื่อง เพื่อขับเคลื่อนให้องค์กรมีความพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาขั้นตอนการทำงานให้เติบโตมากยิ่งขึ้นขึ้น โดยส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมของเราคือการมุ่งเน้นไปที่นวัตกรรมที่ทำซ้ำได้ ซึ่งในขณะที่เราได้มีการปรับขนาดของเรา เราก็ได้ฝึกฝนพนักงานให้มีความพร้อมทั้งด้านความคิด มุมมอง การจัดการความท้าทาย การฝ่าฟันข้อจำกัด ตลอดจนเน้นเรื่องของการมีระเบียบวินัย เพื่อก้าวสู่การเป็นสตาร์ทอัพที่จะสามารถปฏิวัติวงการได้ครับ
ในฐานะ wartime CEO ผมให้สงครามกำหนดวัฒนธรรมในองค์กร และในฐานะ peacetime CEO ผมให้ความสำคัญกับภาพรวมและให้อำนาจแก่ทุกคนในการตัดสินใจอย่างละเอียดครับซึ่งโดยหลักๆการทำงานของผมในวันจันทร์ถึงศุกร์ผมจะ Unlock ศักยภาพของทีม และติดตามงานสำคัญ ในส่วนของเสาร์อาทิตย์จะเป็นวันส่วนตัว ที่จะ Unlock ศักยภาพตัวเองครับในบางครั้งผู้นำจำเป็นมีต้องบทบาทหลากหลายรูปแบบ โดยพร้อมที่จะรับมือกับหลายๆสิ่งที่จะเข้ามาได้ทุกเมื่อ เพื่อให้องค์กรของสามารถฝ่าฟันพายุนั้นไปได้ครับ
จากประเทศนิวซีแลนด์แล้วได้กลับมาประเทศไทยเพื่อมาสอบเข้ามหาวิทยาลัยครับ ซึ่งการแข่งขันมันค่อนข้างสูงมากอย่างที่รู้กัน ผมเลยเลือกที่จะไปเรียนต่อมหาวิทยาลัยที่ประเทศอังกฤษและได้เลือกเข้าเรียนตามสโมสรฟุตบอลที่ผมชื่นชอบนั่นคือ มหาวิทยาลัย Manchester ครับ การที่ผมได้เข้าเรียนในที่แห่งนี้ทำให้ผมได้ตระหนักว่าผมต้องปรับและพัฒนาตัวเองอีกมาก จากเด็กที่ชอบเล่นฟุตบอลเป็นชีวิตจิตใจผมตัดสินใจพลิกตัวเอง 360 องศาแล้วหันมาโฟกัสและตั้งใจเรียนอย่างเดียว ผมอ่านหนังสือวันละไม่ต่ำกว่า 10-12 ชั่วโมง ต่อเนื่องมาโดยตลอดเพื่อให้ทำคะแนนออกมาได้ดีและผมก็ทำมันออกมาได้ดีจริงๆ ครับ นี่แหละคือจุดเปลี่ยนที่สำคัญของผม ผมเห็นเลยว่าถ้าคนเรามีความตั้งใจ มุ่งมั่นและแน่วแน่ที่มากพอ ไม่ว่าเราตัดสินใจลงมือทำอะไร เราจะทำมันได้ดีอย่างแน่นอน ความสำเร็จมันไม่ไกลเกินเอื้อมครับ ผมว่าไม่ใช่เรื่องแปลกหรือเรื่องน่าอายที่บางครั้งในชีวิตเราจะต้องเผชิญกับการตัดสินใจที่ลำบากเช่น การออกจากพื้นที่ที่เป็นความสบายใจหรือเผชิญกับความท้าทายต่างๆ ที่อาจรับมือได้ยาก ผมกลับมองว่าสิ่งเหล่านั้นมันจะทำให้เราแกร่งขึ้นนะครับ คนเราไม่จำเป็นต้องเพอร์เฟกต์ในทุกวัน บางวันเราอาจล้ม เหนื่อย ท้อ หรือเสียใจ สิ่งสำคัญคือการลุกขึ้นมาและพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง เอาสิ่งเหล่านั้นมาเป็นแรงผลักดันให้เราไปต่อครับ ผมเชื่อว่าทุกคนมีแรงผลักดันนั้นในตัวครับ
เริ่มต้นการทำงาน ที่ไม่มีแบรนด์เนม แนวคิดกับการเลือกทำงานและการทำงานแบบ Out perform
การดำเนินงานในรูปแบบของบริษัทจะมีข้อจำกัดอยู่ในเรื่องของวิธีการทำงานแบบดั้งเดิมหรือ traditional มันจะเต็มไปด้วยกระบวนการ ขั้นตอน ระเบียบการ แนวทางปฏิบัติ และมาตรการควบคุมที่เข้มงวด ส่งผลให้การพัฒนาล่าช้าในด้านต่าง ๆ อย่างเช่น นวัตกรรม และไอเดียความคิดใหม่ ๆ ในขณะที่ สตาร์ทอัพ คือ disruptors หรือเป็นบริษัทที่มีรูปแบบธุรกิจที่ทำซ้ำได้และปรับขนาดได้ สตาร์ทอัพมีรากฐานมาจากนวัตกรรมที่เข้ามาจัดการกับข้อบกพร่องของผลิตภัณฑ์
ระดมทุนจากกระดาษแผ่นเดียวจนมาเป็น บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด
การวางแผนระยะยาว การวางกลยุทธ์กับหุ้นส่วน รวมถึงการมีทีมที่มีอุดมการณ์หรือมีวิสัยทัศน์เดียวกันกับเราเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ถ้าเรามีทีมที่แกร่งและมีกลุยุทธ์และการวางแผนที่ดีแล้ว การระดมเงินทุนถือเป็นเรื่องหลักที่รองลงมาครับ
โดยในช่วง ปี 2018 ทาง ก.ล.ต. ได้เปิดแข่งขัน Fintech Challenge เป็นครั้งแรกเพื่อส่งเสริมด้านนวัตกรรมในด้านการเงิน ผมได้เข้ารวมแข่งขันในเรื่องของเทคโนโลยี Blockchain ที่จะมาเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ ซึ่งผมเชื่อว่าได้รับความสนใจพอสมควรนะครับ ต่อมาเมื่อได้มีการอนุมัติให้ผู้ประกอบการสามารถทำธุรกิจประเภท Digital Asset Exchange หรือตลาดซื้อขายเพื่อแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ประเภทดิจิตอลได้ถูกต้องตามกฎหมายครับ ผมจึงได้เริ่มทำการระดมทุนซึ่งผมคิดว่าเราต้องสร้างความความน่าเชื่อถือให้กับนักลงทุนครับ โดยหลังจากที่ผมระดมทุนสำเร็จผมได้ดำเนินการเปิดบริษัทอย่างรวดเร็วครับ แม้ว่าการลงทุนในรอบแรกจะผ่านไปได้ด้วยดี แต่สิ่งที่ตามมา คือความกดดันครับ เพราะหากบริษัทยังไม่โตเท่ามูลค่าที่ถูกตีเอาไว้ที่ 525 ล้านบาท ในตอนแรก จะส่งผลให้บริษัทถูกลดมูลค่าลงในการระดมทุนในรอบถัดไปครับ
คิดอย่างไรกับคำว่า “บิตคอยน์” จะมาเปลี่ยนแปลงโลกและจะมาพัฒนาระบบในประเทศไทย
มีผลลัพธ์ที่เป็นไปได้หลากหลายรูปแบบสำหรับสิ่งที่บิตคอยน์จะมาเปลี่ยนแปลงระบบทางการเงิน เราไม่สามารคาดเดาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอีกหนึ่งปี แต่เราไม่สามารถปฏิเสธศักยภาพที่เติบโตอย่างมหาศาลนี้ได้ครับ อินเทอร์เน็ตได้ประสบความสำเร็จด้วยการเปลี่ยนวิธีการส่งข้อมูล เสียง และวิดีโอของเราทุกคนไปตลอดกาล แต่ส่วนที่ยังคงขาดหายไปคือการโอนทรัพย์สินที่เชื่อถือได้และปลอดภัย ซึ่งบิตคอยน์เป็นสกุลเงินดิจิตอลแรกที่ประกาศในปี 2008 (และเปิดตัวในปี 2009) และตั้งแต่ก่อตั้ง Bitcoin blockchain ก็ได้ปฏิวัติวิธีการโอนเงินไปทั่วโลก โดยเรากำลังอยู่ใน “ยุคปฏิวัติ Fintech” ที่เป็นจุดเริ่มต้นของเว็บการเงินแบบเปิด (web 3.0) ระบบนิเวศสำหรับการกระจายคุณค่า (เช่นเดียวกับอินเทอร์เน็ตสำหรับการกระจายข้อมูล) บล็อกเชนเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สมบูรณ์แบบในการสร้างธนาคารรุ่นต่อไปที่เพียงพอและมีความยุติธรรมมากขึ้นครับ
ความเปลี่ยนแปลงในโลกเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา และในช่วงเวลานี้เป็นช่วงของนวัตกรรมบล็อคเชนและการปฏิวัติด้านดิจิทัลหรือที่เราเรียกว่า digitalization เราอาจจะได้เห็นการนำสกุลเงินคริปโตไปใช้กันอย่างแพร่หลายมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นการขยายทางเลือกที่จะช่วยให้ระบบการชำระเงินมีความหลากหลายมากขึ้นอีกด้วยครับ ซึ่งท้ายที่สุดแล้วทั้งสกุลเงินคริปโตและเงิน fiat ต่างมีค่าจากความเชื่อถือร่วมกันของผู้คนครับบิตคอยน์เป็นเหมือนสกุลเงินของอินเทอร์เน็ต โดยบิตคอยน์อนุญาตให้สามารถโอนเงินออนไลน์แบบไม่ต้องผ่านตัวกลางที่เหมือนกับธนาคารหรือบริษัทผู้ให้บริการชำระเงิน ซึ่งทำให้เกิดสิ่งสามารถเป็นไปได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก รวมถึงศักยภาพของเงินที่จะเคลื่อนผ่านอินเทอร์เน็ตทั่วโลกได้รวดเร็วและราคาถูกมากยิ่งขึ้น อีกทั้งช่วยให้ทุกคนสามารถควบคุมเงินและสินทรัพย์ของตนเองได้อย่างเต็มที่ครับ
ก้าวผ่านอุปสรรค 3 ปี ที่ต้องลำบาก
ภายหลังจากไม่กี่เดือนในการทำ startup ครั้งแรกของผม (Coins.co.th การแลกเปลี่ยน bitcoin ครั้งแรกในประเทศไทยในปี 2014) ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ออกจดหมายแจ้งว่า Bitcoin ไม่ใช่เงินตราที่ถูกต้องตามกฎหมาย และผมไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับบิตคอยน์ ซึ่งในตอนนั้นทางธนาคารกล่าวว่า Bitcoin น่าจะเป็นแชร์ลูกโซ่ครับ
ช่วงเวลานั้นถือได้ว่าเป็นช่วงที่ท้าทายมากสำหรับผมครับ ผมที่ต้องพิสูจน์ตัวเองให้เพื่อนๆ ลูกค้า และพนักงานของผมได้เห็นว่าสิ่งที่ผมทำนั้นไม่ใช่การหลอกลวง อีกทั้งช่วงเวลานั้นการจ้างพนักงานที่พร้อมจะทำงานบนความเสี่ยงกับเราเป็นเรื่องที่ยากมากครับ ไม่นานต่อมาก็มีเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่จากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ติดต่อเข้ามาพร้อมส่งจดหมายเกี่ยวกับกระบวนการฟอกเงิน และการ KYC ของเรา เหตุการณ์นั้นทำให้เราได้เข้าไปให้ความรู้กับทาง ปปง. เกี่ยวกับสกุลเงินคริปโต เราลองนึกภาพตามดูนะครับ ความท้าทายของผมในช่วงเวลานั้นคือที่ผู้คนยังคงคิดว่า Bitcoin เป็นเงินของเล่นและใช้ในการฟอกเงิน หรือเป็นกลไลของตลาดมืดอยู่เลยครับ อีกกรณีหนึ่งมาจากกรมสรรพากรครับ เจ้าหน้าที่ได้มาที่สำนักงานของเรา เพราะเจ้าหน้าที่ไม่ทราบ วิธีการเก็บภาษีกับบริษัทและลูกค้า Bitcoin เป็นโอกาสที่เราได้แบ่งปันและแลกเปลี่ยนให้ความรู้กับกรมสรรพากรเกี่ยวกับ Bitcoin และกฎระเบียบใหม่เกี่ยวกับการเก็บภาษีธุรกรรม Bitcoin ครับ
จากนั้นในปี 2559 เป็นครั้งแรกที่เราได้พบกับบุคลากรจาก สำนักงาน ก.ล.ต.หน่วยงานกำกับที่ทำหน้าที่ดูแลตลาดทุนภาพรวมของประเทศไทย เราเป็นหนึ่งในคนกลุ่มแรกๆ ที่ให้ความรู้แก่ ก.ล.ต. ว่าบล็อคเชนคืออะไร และได้ร่วมงานกันมานับตั้งแต่ตอนนั้น ต่อมาในปี 2560 ได้มีการออกใบอนุญาตดำเนินการแลกเปลี่ยนสกุลเงินคริปโต ดังนั้นกฎระเบียบจึงเอื้อต่อการเข้าถึงลูกค้าที่ง่ายมากขึ้น รวมถึงการศึกษาที่ตามเทคโนโลยีปัจจุบันได้ทันครับ
การบริหารงานแบบ Start up ของคุณท๊อป
รูปแบบการบริหารของเราเริ่มต้นที่กระบวนการรับคนเข้าทำงานครับ เราคัดคนที่เข้ามาร่วมงานกับเราด้วยคอนเซปที่เรียกว่า “Hire slow, fire fast” หรือการคัดเข้าทำงานให้ช้าและคัดคนออกให้เร็ว ซึ่งเราไม่ได้คัดเพียงคนที่เก่งอย่างเดียว เราจะดูที่ค่านิยมองค์กร วัตถุประสงค์ ว่าพนักงานคนนั้นจะสามารถเดินไปพร้อมกับองค์กรของเราหรือไม่ครับ
นอกจากนี้ สิ่งที่เป็นหัวใจหลักขององค์กรเราเลยคือเรื่องของวัฒนธรรมภายในองค์กร เราเป็นผู้สร้างที่ใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาโลก เราเรียกตัวเองว่า professional team ทุกคนในทีมต้องสามารถช่วยเหลือกันและทำงานแทนกันได้โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่เร่งด่วน เราเป็นทีม winning team ไม่ใช่ครอบครัว และมีความคาดหวังที่สูงสำหรับประสิทธิภาพและผลลัพธ์ของงาน อีกทั้งสิ่งสำคัญคือเราแข็งแกร่งขึ้นด้วยกัน เราจึงเลือกที่จะจดจ่ออยู่กับสิ่งที่รวมเราเป็นหนึ่งไม่ใช่สิ่งที่แบ่งแยกเราออกจากกัน และเราให้คุณค่าการเรียนรู้มากกว่าการเชื่อว่าสิ่งที่ตนเองคิดนั้นถูกต้อง
เมื่อเรารับคนเก่งเข้ามาทำงานกับเรา เราก็จะต้องเป็นผู้นำแบบใช้ไอเดียดีที่สุดนำพวกเขา และเปิดโอกาสให้พวกเขาได้ถกเถียงกับเรา กล้าที่จะแบ่งปันข้อมูลกัน เพื่อกลั่นเอาความคิดดีที่สุดออกมา และพูดคุยกันจนกว่าข้อสรุปได้ครับเรามีการประเมินและพัฒนาทั้งพนักงานและองค์กรอยู่ตลอด เรียกได้ว่าเราไม่เคยหยุดที่จะพัฒนาตัวเองเลยก็ว่าได้ครับ ในฐานะที่เป็นสตาร์ทอัพ เทคโนโลยีคือส่วนสำคัญที่ขาดไม่ได้ เรามีการใช้แอปพลิเคชั่นกว่า 50 รายการเพื่อให้การทำงานของเรามีประสิทธิภาพและตอบโจทย์ยิ่งขึ้นครับ
Bitkub เป็นเบอร์หนึ่ง สิ่งที่แตกต่างจากคู่แข่ง และเป็นผู้นำด้านการลงทุน ด้าน “บิตคอยน์” ในเมืองไทยและต่างประเทศอย่างไร
Bitkub เป็นการผสานการทำงาน หรือ hybrid ระหว่างเทคโนโลยีและการเงิน เราเป็นบริษัทบล็อกเชนและสกุลเงินดิจิทัลที่น่าเชื่อถือและใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เราเป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศที่กว้างขึ้น เราพยายามที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงรูปแบบของระบบการเงินแบบเดิม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้ดีขึ้นและลดความไม่เท่าเทียมกัน การสร้างสมดุลระหว่างวิธีจัดการความเสี่ยงในเชิงรุก ในขณะเดียวกันก็สนับสนุนให้พนักงานของเราสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับลูกค้า ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่กำหนดวัตถุประสงค์ของเราไว้อย่างชัดเจนครับ
เราต้องการเผยแพร่ความรู้เทคโนโลยีใหม่ให้ทุกคนเข้าถึงได้อย่างง่ายดายครับ เราเลือกทำในสิ่งที่เราเชี่ยวชาญ อ่อนน้อมถ่อมตน และให้คุณค่ากับการเรียนรู้มากกว่าการพิสูจน์ตนเองว่าถูกต้องครับ
เรายังคงน้อมรับข้อเสนอแนะต่างๆอย่างซื่อตรงและมองว่าทุกความล้มเหลวเป็นโอกาสในการเรียนรู้ครับ เราต้องมีเป้าหมายเดียวกันคือการนำเทคโลยีใหม่เข้ามาในชีวิตประจำวันของทุกๆคน ทำให้สิ่งที่เราคุ้นเคยอยู่แล้วสะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมครับ
ฝากถึงคนรุ่นใหม่ ที่กำลังมองหาตัวเอง และธุรกิจ SME จะปรับตัวอย่างไรกับโลกอนาคตที่กำลังตามมา
ในโลกปัจจุบัน การเรียนรู้ไม่ใช่แบบฝึกหัดที่เราเรียนจบในโรงเรียน เป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้เพื่อความสำเร็จในชีวิตที่เราจะต้องคิดและเข้าใจให้ได้ ว่าเราจะพัฒนาตนเองอย่างไรเพื่ออนาคต โดยสิ่งหนึ่งที่เราต้องมีคือความ กล้าที่จะท้าทายลงมือทำสิ่งที่ไม่เหมือนใคร เราจะต้องศึกษาในสิ่งที่ต้องใช้กระบวนการทางความคิดมากกว่าการเลือกศึกษาในสิ่งที่เราต้องท่องจำครับ
ในความเป็นจริงไม่มีใครได้ทุกอย่างที่ต้องการในชีวิตแน่นอนครับ เราต้องยอมล้มเหลวบ้างในบางอย่าง และเราทุกคนมี 24 ชั่วโมง และ 7 วันต่อสัปดาห์เท่ากัน ถ้าเราจะเด่นกว่าคนอื่นในด้านอื่น เราก็ต้องล้มเหลวกว่าคนอื่นเช่นกันครับ ความล้มเหลวเป็นทางผ่านของการประสบความสำเร็จของทุกคน ไม่มีใครเชี่ยวชาญทักษะในชั่วข้ามคืน ไม่มีใครขี่จักรยานเป็นตั้งแต่ครั้งแรกและไม่มีใครที่จะไม่ล้มก่อนที่จะประสบความสำเร็จ เราจะต้องล้มกันทุกคนครับ
สำหรับคนรุ่นใหม่ ความอดทนมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการก้าวไปข้างหน้า ทุกความสำเร็จมาพร้อมกับการปฏิเสธและการพ่ายแพ้หลายร้อยครั้ง ซึ่งทั้งหมดมีความสำคัญพอๆกับการบรรลุเป้าหมายนั้นเอง เราถูกบังคับให้ออกจากพื้นที่สบายของเราเพื่อให้เราสามารถทำตามวัตถุประสงค์ของเราและทำประโยชน์ให้กับสังคมได้มากขึ้น เส้นทางที่เราเดินไม่เรียบเสมอไปแน่นอน เพราะฉะนั้นคุณต้องรับความเจ็บปวดให้ได้อย่างดีครับ
เราต้องเป็นคนส่วนน้อยที่เห็นในสิ่งที่คนส่วนใหญ่ทำไม่ได้ โอกาสก็จะมีมากมายสำหรับเราครับ ซึ่งผมอาจจะทำไม่สำเร็จ ถ้าในช่วงเวลานั้นคนส่วนใหญ่มองเห็นเหมือนกับผมที่เห็นในวงการคริปโต โลกเราเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา การปรับตัวของธุรกิจและตัวเราเองให้ตามทันเทคโนโลยีที่กำลังเข้ามาเป็นสิ่งที่สำคัญมากครับ ความสามารถในการปรับตัวตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยให้เราจัดการความเสี่ยงได้ดีมากยิ่งขึ้น สุดท้ายแล้วไม่ว่าจะธุรกิจหรือบุคคลทั่วไปเราต้องอดทน ปรับตัวได้ กล้าคิดต่าง และทำสิ่งต่างๆ ในแบบฉบับของเราเองครับ
เราควรกล้าที่จะท้าทายความคิดของตัวเองอย่างต่อเนื่อง ด้วยการชักชวนผู้อื่นมาพูดคุยแบ่งปันข้อโต้แย้งในสมมติฐานของเราและให้เขาซักถามความคิดของเรา ว่าเราสามารถ unlearn สิ่งไหนและควรเรียนรู้ relearn สิ่งไหนเพิ่มเติม เพื่อการตัดสินใจที่เฉียบแหลมในขณะที่เราวางแผนไปข้างหน้าครับ ผู้ที่จะคว้าโอกาสในช่วงที่วุ่นวาย จะมีกลยุทธ์ เป็นผู้คิดเชิงวิพากษ์และจะไม่ใช้กฎของเมื่อวานครับ