หลายปีมานี้ ธุรกิจทางการแพทย์และความงามยังคงครองอันดับ 1 และในปีนี้ก็ยังคงความเด่นเหมือนเดิมรวมไปถึงธุรกิจเกี่ยวกับความสวยความงามต่าง ๆ เครื่องสำอาง อาหารเสริม และการดูแลสุขภาพ ซึ่งที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่ามีบรรดาผู้มีชื่อเสียงในสังคม ทั้งนักแสดง นักร้องหลายคนสนใจเข้ามาทำธุรกิจพวกนี้กันเพิ่มขึ้นมากมาย อย่างไรก็ตาม สำหรับ แอน สิเรียม ภักดีดำรงฤทธิ์ ดวงดาวที่เจิดจรัสได้ผันตัวเองเข้าสู่ธุรกิจความสวยความงามและสุขภาพด้วยใจรักซึ่งธุรกิจโดยการบริหารและการจัดการของคุณสิเรียมนั้นประสบความสำเร็จและเติบโตอย่างแข็งแรงซึ่งในปัจจุบันเธอดำรงตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าบริหารฝ่ายการตลาด บริษัท ไบโอคอสกรุ๊ป จำกัด
แอนเชื่อว่า ถ้าเรารักสิ่งใด เราจะใส่ใจและตั้งใจ อยากเรียนรู้ในที่สิ่งที่เราจะทำ ดังนั้นธุรกิจที่ทำอยู่นี้แอนทำด้วยความรักและสนใจ เพราะว่าแอนคลุกคลีอยู่กับความสวยความงามอยู่ตลอด คือรักและชอบที่จะทำให้ตัวเองดูสวยและสุขภาพดี และชอบทดลองเทคโนโลยีความงามใหม่ ๆ ยิ่งเวลาไปต่างประเทศ สปาที่ไหนดัง เครื่องมือที่ไหนดี ผลิตภัณฑ์อันไหนปลอดภัย แอนก็จะไปทดลองด้วยตัวเอง ด้วยความรักและความสนใจในด้านนี้จึงเป็นที่มาของการเริ่มธุรกิจด้านสุขภาพและความงามทำเรื่อยมาประมาณ กว่า 10 ปี จนมาเป็น‘ไบโอคอส กรุ๊ป’ ผู้ดำเนินธุรกิจด้านสุขภาพและความงามครบวงจร”ภายใต้แบรนด์ใหญ่คือ ‘ไบโอคอส กรุ๊ป’ นั้นประกอบไปด้วยแบรนด์ที่ให้บริการด้านความสวยความงามครอบคลุมกลุ่มลูกค้าครบทุกเซกเมนต์ ได้แก่ ไบโอคอส โปรเฟชชั่นแนลสลิมมิ่งพลัส, อาเมทิส บอดี้ แอนด์ บิวตี้คลับ และแบรนด์น้องใหม่ “บิวตี้สตอรี่” คุณสิเรียมได้ขยายความถึงผลิตภัณฑ์และบริการของแต่ละแบรนด์ ดังนี้ “ทั้งหมดเป็นธุรกิจสุขภาพและความงามค่ะ โดยเริ่มจากไบโอคอส โปรเฟชชั่นแนลนั้นเป็นการนำเข้าและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ความงามคุณภาพระดับพรีเมียมจากแบรนด์ชั้นนำของยุโรปในรูปแบบซาลอนและรีเทลให้กับโรงแรม สปาและสถาบันความงาม“ในส่วนของ ‘สลิมมิ่งพลัส’ เป็นสถาบันดูแลรูปร่างและผิวพรรณครบวงจร ขณะนี้เรามีทั้งหมด 25 สาขาด้วยกันค่ะซึ่งมีความโดดเด่นด้านการดูแลความงาม ที่นี่มีโปรแกรมทรีตเมนต์ต่าง ๆ ที่ค่อนข้างตอบโจทย์ลูกค้าได้หลากหลายตรงต่อความต้องการ ลูกค้าสามารถเลือกรับบริการสาขาที่สะดวก เนื่องจากมีสาขาค่อนข้างเยอะและอยู่ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ โปรแกรมต่าง ๆ ก็หลากหลายไม่ว่าจะในเรื่องของรูปร่างและผิวพรรณ ต่อมาก็คือ ‘อาเมทิส’ ที่จะเป็นคลับสุขภาพและความงามระดับเอ็กซ์คลูซีฟที่มอบเอกสิทธิ์พิเศษเฉพาะคุณผู้หญิงเท่านั้น โดยจะดูแลเน้นเฉพาะบุคคลนั้น ๆ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของอาหารความรู้สึก การใช้ชีวิตประจำวันของแต่ละคนว่าควรปรับอย่างไรเพราะลูกค้าส่วนใหญ่จะค่อนข้างเป็นผู้บริหารที่งานยุ่งมาก หรือบางท่านอาจจะไม่ได้ทำงานแต่ก็ต้องการให้มีโค้ชความงามที่ดูแลเป็นพิเศษ นอกจากนี้เรายังดูแลในเรื่องของโภชนาการและการออกกำลังกายต่าง ๆ เพิ่มเติม เช่น โยคะ พิลาทิส ซึ่งค่อนข้างครบวงจรค่ะ ดังนั้นการออกแบบโปรแกรมเฉพาะบุคคลจึงเป็นเรื่องที่เราให้ความสำคัญเป็นพิเศษสำหรับ ‘อาเมทิส’
“ส่วนแบรนด์น้องใหม่ ‘บิวตี้สตอรี่’ จะเน้นรูปแบบการให้บริการแบบ express beauty สำหรับสาว ๆ ที่ไม่ค่อยมีเวลา หรือมีปัญหาเฉพาะส่วน โดยเน้นการดูแลสุขสุขภาพผิวพรรณเพื่อความนุ่มนวล เรียบเนียน เช่น แวกซ์กำจัดขน, สปามือ-เท้า, พาราฟิน ซึ่งได้รับการตอบรับดีมากค่ะ”
วางกลยุทธ์ 360° ปูพรมธุรกิจความงามทั้งไทยและเทศ
CMOs สาวคนเก่งได้กางแผนการขยายธุรกิจเพื่อรองรับการให้บริการที่ครอบคลุมทั่วประเทศ และสร้างฐานลูกค้าใหม่ โดยตั้งเป้าจะขยายสาขา ‘สลิมมิ่งพลัส’ ให้ครบ 30 สาขา ทั้งกรุงเทพฯและต่างจังหวัด โดยเน้นปูพรมตามหัวเมืองใหญ่ทุกภูมิภาค อาทิ อุดรธานี อุบลราชธานี สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต ส่วน ‘Beauty Story’จะขยายให้ครบ 6 สาขา ภายในปีนี้ ซึ่งทั้งหมดคาดว่าจะสร้างรายได้เกิน 1,000 ล้านบาท รวมถึงขณะนี้ทางบริษัทได้ศึกษาและวางโมเดลรับการขยายธุรกิจสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) แล้วกว่า 80% โดยมองความต้องการของตลาดในแต่ละประเทศเป็นหลัก“โดยหากวิเคราะห์ถึงเทรนด์คนเอเชียมีความชอบเหมือนกัน คือ ชอบความสวย-หล่อเหมือนกัน โดยเฉพาะผิวขาว อีกทั้งวงการแพทย์ไทยยังมีฝีมือและความสามารถ รวมไปถึงราคาที่ถูกกว่าประเทศอื่นทำให้พบว่าแต่ละปีมีชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาใช้บริการด้านความสวยความงามในเมืองไทยเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกปี ทางบริษัทมีแผนร่วมทุนกับพันธมิตรรุกธุรกิจความงามทั้งในและต่างประเทศ และรุกตลาดเพื่อนบ้านอย่างฟิลิปปินส์ มาเลเซีย ลาว เวียดนาม และพม่า เพื่อดึงรายได้เข้าสู่ประเทศ ดังนั้นการขยายสาขาเพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าต่างประเทศ จึงมีทั้งการเลือกใช้กลยุทธ์ตั้งรับภายในประเทศ และรุกไปต่างประเทศไปด้วยค่ะ”นอกจากนี้ ‘ไบโอคอส โปรเฟชชั่นแนล’ ได้มีการร่วมมือกับAlgotherm แบรนด์ผลิตภัณฑ์ความงามชั้นนำจากประเทศฝรั่งเศสเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เหมาะกับผิวคนไทยโดยเฉพาะ และตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าทุกกลุ่ม รวมถึงเน้นบริการการแบบครบวงจร พร้อมกับเทคโนโลยีที่ทันสมัยและนวัตกรรมรวมถึงผลิตภัณฑ์และบริการที่ได้มาตรฐานในระดับสากล “จากการดำเนินงานที่ผ่านมา
บริษัทฯ ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีด้วยความไว้วางใจจากลูกค้า เราจึงพร้อมที่จะพัฒนาบุคลากรและบริการที่ดียิ่งขึ้นเพื่อให้ผู้หญิงมีสุขภาพและความงามที่ดีจากภายในสู่ภายนอกแบบยั่งยืน จึงทำให้มั่นใจได้ว่าBiocos Group สามารถก้าวไปเป็นผู้นำด้านธุรกิจสุขภาพและความงามครบวงจรในอาเซี่ยน ภายใน 3 ปี อย่างแน่นอนค่ะ”
“ส่วนแบรนด์น้องใหม่ ‘บิวตี้สตอรี่’ จะเน้นรูปแบบการให้บริการแบบ express beauty สำหรับสาว ๆ ที่ไม่ค่อยมีเวลา หรือมีปัญหาเฉพาะส่วน โดยเน้นการดูแลสุขสุขภาพผิวพรรณเพื่อความนุ่มนวล เรียบเนียน เช่น แวกซ์กำจัดขน, สปามือ-เท้า, พาราฟิน ซึ่งได้รับการตอบรับดีมากค่ะ”
หัวใจในการทำธุรกิจที่ไม่ใช่แค่ “ความสวย”
คนทั่วไปอาจมองว่าการที่บุคคลที่มีชื่อเสียงมีภาพลักษณ์ที่สอดคล้องกับธุรกิจด้านความสวยความงาม เมื่อผันตัวมาจับธุรกิจย่อมได้เปรียบในการ ‘แจ้งเกิด’ และนำพาธุรกิจให้ ‘รุ่ง’ แต่สำหรับคุณสิเรียมนอกจากความรัก ความใส่ใจที่ทุ่มเทให้กับธุรกิจแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ให้ความสำคัญก็คือ‘การบริหารจัดการ’ ทั้งภายในและภายนอกองค์กร “แอนเริ่มต้นที่การจัดการในองค์กรก่อนค่ะ เริ่มจากคัดสรรบุคลากรที่เหมาะสมกับงาน โดยมีการพัฒนาบุคลากรด้านความรู้ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน มีการพัฒนาด้านงานบริการเพื่อให้เกิดความประทับใจสูงสุดและการดูแลลูกค้าในระดับมาตรฐานสากล ให้ความสำคัญกับการทำงานเป็นทีม และมีระบบการจัดการที่ดี และมีหุ้นส่วนที่เป็นผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ไม่ว่าจะเป็นการบริหารคน และบริหารจัดการทางด้านไฟแนนซ์ พอมารวมตัวกันแล้วจึงทำให้บริษัทมีความแข็งแกร่ง สำหรับภายนอกองค์กร แบ่งเป็นกลุ่มลูกค้า และกลุ่มที่ยังไม่เป็นลูกค้า จะมีการใช้หลักการที่แตกต่างกันในการเข้าหากลุ่มคนเหล่านี้ค่ะเราจะต้องทำความเข้าใจก่อนว่า เราอยากจะสื่อสารอะไรออกไป ซึ่งต้องทำให้กลุ่มคนกลุ่มนี้รู้ว่า เค้าอยู่ในสถานะอะไร เช่น คุณแม่ยุคใหม่ที่ใส่ใจเรื่องการดูแลสุขภาพ ผู้หญิงทำงานที่ให้ความสำคัญเกี่ยวกับการดูแลรูปร่างและผิวพรรณ”นอกจากนี้ ‘ไบโอคอส กรุ๊ป’ ยังเสริมความแข็งแกร่งและโดดเด่นในเรื่องบริการ ด้วยการเน้นกลยุทธ์การตลาดแบบครบวงจรทั้งในส่วนของ Above the line และ Below the line ที่ตอบรับไลฟ์สไตล์ทุกกลุ่มเป้าหมาย โดยจัดแคมเปญเพื่อกระตุ้นลูกค้าใหม่และเก่าด้วยกลยุทธ์ CRM และCEM เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าและให้ลูกค้าเกิดประสบการณ์ที่ดีร่วมกับแบรนด์“เมื่อลูกค้าเดินเข้ามาหาเรา เราจะมีการทำ CEM หรือที่เรียกว่า Customer Experience Management คือการบริหารลูกค้าเชิงประสบการณ์ ให้ลูกค้าได้ทดลองใช้บริการเกิดความประทับใจและพึงพอใจในต่อแบรนด์สินค้าและบริการของบริษัทเพื่อเมื่อลูกค้าประทับใจในบริการก็มีโอกาสในการที่จะเข้ามาเป็นลูกค้าในอนาคต…ยังไม่จบเพียงแค่นี้นะคะ เรายังมีการทำ CRM (Customer Relationship Managment) ซึ่งสร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าในระยะยาว โดยมีการจัดกิจกรรม Workshop outing ตามไลฟ์สไตล์
ให้ความสนใจ และเข้าใจความต้องการของลูกค้าเป็นรายบุคคลและมีระบบการจัดการฐานข้อมูลที่ดีเราจึงรักษาดูแลกลุ่มลูกค้าเดิมที่มีอยู่ไว้อย่างดี พร้อมกับการเชิญชวนกลุ่มลูกค้าใหม่ให้เค้ามามีส่วนร่วมกับบริการของเราด้วย ดังนั้นแอนมั่นใจว่า การพัฒนาองค์ความรู้ ทักษะความชำนาญที่เราได้คิดค้นจนกระทั่งเป็นคุณภาพความงาม ในรูปแบบของไบโอคอส กรุ๊ป คือความแตกต่างและทำให้เราประสบความสำเร็จค่ะ”
สุขกับงานสราญกับชีวิตด้วยการคิดบวก
แม้จะเปี่ยมประสบการณ์ในสิ่งที่ทำอยู่ มีแผนงานที่กลั่นกรองมาหลายชั้นมีทีมงานที่เปี่ยมประสิทธิภาพ แต่บางครั้งบางสิ่งก็ไม่เป็นไปอย่างที่คิด คุณสิเรียมมีวิธีฝ่าวิกฤตด้วยวิธีง่ายๆ แต่หลายคนก็ว่ายากนั่นก็คือ การคิดบวก… “positive thinking และการเรียนรู้จากสิ่งที่อยู่รอบๆ ตัว ให้มากที่สุดค่ะ แอนคิดว่าปัญหามีเกิดได้ในทุก ๆ วัน ซึ่งทุก ๆ องค์กรก็ย่อมเจอกับปัญหาและอุปสรรคที่แตกต่างกันออกไป แต่สิ่งหนึ่งที่เราต้องมีนั้นก็คือ ความมั่นคงของการทำงานในตัวเราเอง เราต้องยอมรับกับทุก ๆ ปัญหาและพยายามหาทางแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ให้ได้ แอนจะมองในเชิงบวกเป็นหลัก ใช้บทเรียนเพื่อเป็นประสบการณ์ ให้กำลังใจ และเอื้ออาทรให้ความช่วยเหลือกับเพื่อนร่วมงพยายามพูดคุยกันเมื่อเวลามีปัญหา เพราะงานจะออกมาดีและสำเร็จได้ก็ต้องมีความร่วมมือจากทุก ๆ ฝ่าย ถ้าเราได้รับความร่วมมือที่ดีงานก็จะสามารถเดินหน้าไปได้และมีผลงานที่ดีออกมา ไม่ว่าเรื่องคน องค์กร ผลิตภัณฑ์ บริการนวัตกรรมของโลก คือสิ่งที่ต้องเรียนรู้และพัฒนาอยู่ตลอดเวลาค่ะ”
น้อมนำจิตงาม… ตามหาแก่นธรรม
แม้จะสั่งสมองค์ความรู้ด้านการวิชาการจนสร้างผลงานเป็นที่ยอมรับ และนำพาธุรกิจก้าวหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง แต่ผู้หญิงแถวหน้า เช่นคุณสิเรียมกลับมองว่า ‘ไม่มีวิชาใดที่ช่วยให้เข้าใจชีวิตและอยู่ในสังคมได้อย่างสงบสุขได้ดีกว่า ‘วิชาพระพุทธศาสนา’ ในวันนี้จึงแบ่งเวลาไปศึกษาวิชาพระพุทธศาสนา “โดยชีวิตส่วนตัวของแอน ก็คงไม่ต่างจากชีวิตชาวพุทธปกติทั่วไปคือได้นับถือพระพุทธศาสนาตามบรรพบุรุษและตามศรัทธาในพระพุทธศาสนาได้ทำบุตักบาตรตามคุณย่า คุณยาย แต่ได้สนใจพระพุทธศาสนาจริง ๆ จัง ๆ คือช่วงที่มีโอกาสเข้าปฏิบัติธรรมวิปัสสนาที่ยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทย จึงเห็นว่าพระพุทธศาสนานั้นมีอะไรดี ๆ กับชีวิตเราอีกเยอะมากพระพุทธศาสนาไม่ได้สอนนอกตัวเราเลย พระพุทธเจ้าได้สอนความจริงกับชีวิตให้เราได้สอนเรื่องทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ในตัวเรานี่เอง เมื่อมีโอกาสจึงได้เข้าปฏิบัติวิปัสสนาตลอดมาแต่เป็นการปฏิบัติตามเวลาที่มีอยู่จำกัด เพราะแอนยังต้องทำงานมีครอบครัว และได้นำหลักธรรมมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันเท่านั้นยังไม่มีโอกาสได้ศึกษาตามเนื้อหาบทเรียนที่มีอยู่ในคัมภีร์ ทางพระพุทธศาสนา คือ พระไตรปิฎกอรรถกถา ฎีกา ดังนั้น หากมีโอกาสก็จะเรียนพระพุทธศาสนาอย่างเต็มที่ ตอนนี้แอนกำลังศึกษาระดับปริญญาเอกสาขาวิชาพระพุทธศาสนา ที่บัณฑิตวิทยาลัยมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร) ค่ะ” นอกจากการมุ่งมั่น ตั้งใจอย่างเต็มที่แล้ว ยังมีพลังใจที่สำคัญจากลูกสาวหัวแก้วหัวแหวน นนนี่-นนลนีย์ ภักดีดำรงฤทธิ์ อีกด้วย
“ลูกเป็นกำลังใจสำคัญเราสองคนต่างให้กำลังใจซึ่งกันและกันในยามที่ท้อแท้ หรือมีปัญหา ลูกคือสิ่งสำคัญมากในชีวิตเราเองก็ส่งมอบสิ่งดี ๆ ให้กับเขา และเราก็ชื่นใจที่เขาสนใจเรียนรู้จากสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่รอบตัว และมีอนาคตที่ดี” เชื่อเหลือเกินว่าคุณสิเรียมจะนำพาธุรกิจเดินหน้าอย่างสง่างามขึ้นแท่นเป็นผู้นำอาเซียนอย่างเจิดจรัสภายใน 3 ปี ตามที่ตั้งเป้าไว้แน่นอน เพราะนอกเหนือจากประสบการณ์ ความรู้ การทำธุรกิจด้วยความรักแล้ว หัวใจที่งดงามบนถนนสายแห่งพุทธศรัทธาของคุณสิเรียมก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จะส่งให้ ไบโอคอส กรุ๊ป เติบโตและก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง
[envira-gallery id=”2346″]