Complete Media Elite เจ้าพ่อสื่อบันเทิงครบวงจร PHANYA NIRUNKUL WORKPOINT ENTERTAINMENT
จากโปรดักชั่นเล็กๆ ผลิตรายการป้อนช่องทีวี วันนี้แถวย่านบางพูน บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) กับอาณาจักรนับ 1,000 ล้านที่ผลิตสื่อบันเทิงครบวงจร บนเนื้อที่ 30ไร่ กว่า 19สตูดิโอ พร้อมพนักงานกว่า700 คนทั้งทีวีดิจิตอลช่อง 23ที่เรตติ้งมาแรง โรงละครเคแบงก์สยามพิฆเนศชั้นดาดฟ้าใจกลางสยามสแควร์ และบริษัทย่อยในเครืออีกมากมายที่กวาดรางวัลทั้งในประเทศและระดับอาเซี่ยน ทั้งหมดนี้อยู่ภายใต้การนำทัพของ ปัญญา นิรันดร์กุล ประธานบริษัท บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) เจ้าของรางวัล Creative Entertainment Awards 1ใน 13 นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ รับรางวัล ME AWARDS 2017 เพราะฉะนั้น Executive Talk ต้อนรับปี 2559 จึงเป็นใครไปไม่ได้…
ในวันนี้ คุณปัญญาเล่าให้ ME ฟังขณะที่นั่งสัมภาษณ์ที่อาณาจักรเวิร์คพอยท์ย่านบางพูนว่า เขาอยู่ในวัยที่พร้อมจะรับและน้อมนำธรรมะมาใช้ในชีวิต เมื่อเราถามเรื่องตัวเลข เขาพูดเรื่องธรรมะ ดูเหมือนเป็นคนละเรื่องแต่สุดท้าย มันคือเรื่องเดียวกัน…
ผลประกอบการปี 2558
ทั้งรางวัลพิธีกรยอดเยี่ยม และรางวัลรายการเกมโชว์ยอดเยี่ยม “ปริศนาฟ้าแลบ”ช่องเวิร์คพอยท์ จากรางวัลนาฏราชครั้งที่ 6ของสมาพันธ์สมาคมวิชาชีพวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์, รางวัลเรตติ้งอันดับ 1ของไมค์ทองคำ จากเรตติ้งรายการวาไรตี้ เดือนพฤษภาคม ปี 2558ของ Pantip.com และอีกหลายรางวัลจากหลายสถาบัน รวมทั้งผลประกอบการเมื่อปี 2558 กว่า 2,200 ล้านบาท เรตติ้งที่มาเป็นอันดับ 3จากการสำรวจของ AGB Nielsen 1-31 ตุลาคม 2558 การันตีได้ว่า ปีที่แล้วเป็นปีทองของเวิร์คพอยท์ ทั้งที่เพิ่งก้าวเข้าสู่การเป็นทีวี
ดิจิตอลเข้าปีที่ 2ในสภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ “ปีที่แล้วเราทำได้ 2,200 ล้านบาท ปีนี้เราตั้งเป้าที่ 3,000 ล้านบาท เรามีรายการที่โดดเด่นขึ้นมาอย่าง “ไมค์ทองคำ” ซึ่งเป็นรายการที่มีเรตติ้งชนะช่องหลักทุกๆ ช่องมีรายการที่เป็นที่รู้จักอย่าง “ปริศนาฟ้าแลบ”ที่ได้โหวตจากยูทูป ได้รางวัลนาฏราช แสดงว่าคนดูเขาก็อยากให้เราทำไปเรื่อยๆเราเห็นคนดูชอบเราก็ไม่เหนื่อย หรือแม้แต่ซีรีย์ “พระพุทธเจ้า” ที่มาได้จังหวะ หลังจากผมไปทำบุญที่อินเดียและอยู่ในวัยที่กำลังพร้อมจะรับรู้เรื่องราวต่างๆ เหล่านี้พระพุทธเจ้าท่านก็มา เราเลยได้ต่อบุญ ฝากธรรมะไปยังท่านผู้ชมด้วย ซีรีย์นี้ได้รับการตอบรับมาเป็นอย่างดี หลายๆ คนที่ค่อยๆคุ้นเคยก็เป็นจุดกระตุ้นให้เขาไปเปิดประตูค้นหารายละเอียดเพิ่มเติม รวมทั้งตัวเราเองด้วยทำให้เราได้เห็นสิ่งต่างๆ ชัดเจนมากขึ้นประณีตมากขึ้น ละเอียดมากขึ้น กระจ่างมากขึ้น”
การเติบโตอย่างก้าวกระโดดของเวิร์คพอยท์ หมายเลข 23
“ผมมองว่าเราเติบโตมาเรื่อยๆ ตั้งแต่เราเป็นโปรดักชั่นธรรมดา มาเป็นสถานี มันก็เติบโตมาตามวิถีทางที่เราถนัด จากสถานีปีแรกเราก็ทำเลย คือเริ่มต้นเลย แต่การเริ่มต้นของเราไม่เหมือนที่คนอื่นเริ่มต้น ไม่ใช่อยู่ดีๆ เราจะกระโดดได้ แต่เรามีของที่เป็นที่รู้จัก มีแบรนด์อยู่แล้ว เพราะว่าเวิร์คพอยท์ปีนี้ก็อายุ 26ปีเข้าไปแล้ว เราเริ่มมาตั้งแต่ปี 2532เราก็ได้สั่งสมประสบการณ์มาพอสมควร ผลประกอบการเลยก้าวกระโดดขึ้นมา”
สู้ศึกดิจิตอลเต็มรูปแบบ
“ปี 2559นี้เวิร์คพอยท์ก็จะปล่อยละครเต็มที่ อย่าง “หน้ากากนางเอก” หรือละครลิขสิทธิ์เรื่องยิ่งใหญ่จากประเทศจีน ปีนี้จะมีอีกหลายรายการ มีฟอร์แมทซ์ต่างๆ อย่าง “I Can See Your Voice” ชื่อดังจากประเทศเกาหลี มีซีรีย์ ซิทคอม แล้วก็มีกีฬา ปีนี้กีฬาเราจะเน้นมวยไทย รายการ “ซูเปอร์มวยไทย” มีคุณบัวขาว บัญชาเมฆ เป็นโปรโมเตอร์ เวิร์คพอยท์เมื่อเป็นอะไรก็ต้องเป็นอย่างนั้น เมื่อเป็นวัฒนธรรมก็ต้องเป็นวัฒนธรรม เมื่อเป็นศิลปะแม่ไม้มวยไทยมันก็จะโหด ดุ ใครทนความหวาดเสียวดูเลือดออก ดูการเย็บทุกอาทิตย์ไม่ได้ก็อย่าดู เพราะมันรุนแรงมากแล้วคนไทยเราตอนนี้ก็แพ้เสียส่วนใหญ่ ประมาทไม่ได้เลย เพราะฝรั่งเศสเขาดุมาก แม่ไม้ดุมาก”
ธรรมะและตัวตนในธุรกิจ
“เมื่อก่อนก็ใช้ธรรมะโดยที่เราไม่รู้ตัว เดี๋ยวนี้ใช้โดยรู้ตัวมากขึ้นว่าอะไรที่เป็นสิ่งที่มงคล อัปมงคล อันไหนสุดโต่งหรือไม่สุดโต่งพระพุทธองค์สอนให้เดินสายกลาง การเดินสายกลางไม่ใช่วางเฉย แต่เราต้องมีความแข็งแกร่ง มีความเป็นงูจงอางหรือราชสีห์ที่ไม่ใช่ว่าหงอ ไม่ทำร้ายคนแล้วกลายเป็นเชื่องให้คนมารังแก อย่างนี้ไม่ได้ เราไม่ได้ไปกัดใคร แต่เราสามารถที่จะผงาดขึ้นมาเป็นตัวตนของเราได้ ว่าเราก็มีพิษสงของเรา แต่การรู้จักตัวเองนี่ยาก ยากมหาศาลเลยเพราะว่าเป้าหมายของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน บางคนบอกทำทีวีต้องเอาอย่างนี้ ของเรามันไม่ค่อยมีเป้า แต่ตอนนี้อยู่ในบริษัทมหาชน คนก็จะถามเป้าอยู่ทุกครั้ง ถ้าจะเอาเป้าจริงๆ ก็เอาแบบสบายๆ ได้ก็ได้ ไม่ได้ก็ไม่ได้ แต่ผมมองว่าถ้าเรามีความตั้งใจจริง เรารู้จักตัวเราเองจริง เรามีความสามารถจริง เรามีสติปัญญาจริง แล้วทำไมมันจะไม่ได้ล่ะ และดิจิตอลทีวีของช่องเวิร์คพอยท์เราอยากจะมาทำด้วยใจ ไม่มีใครบังคับให้มา เมื่ออยากทำก็ต้องทำ แล้วทุกคนเหนื่อยหมด ไม่มีอาชีพไหนไม่เหนื่อย แต่ความเหนื่อยในความชอบของเราเป็นความสุข”
แบบฉบับการทำธุรกิจและหลักการปกครองคนสไตล์ ปัญญา นิรันดร์กุล
“คุณต้องรู้จักตัวเอง เมื่อรู้จักตัวเอง เมื่อสติมาปัญญาเกิด อะไรก็จะสำเร็จหมด แต่ถ้าเราทำเพราะเห็นว่าเขาทำอย่างนั้น เราก็เลยอยากเป็นอย่างนั้น เราไม่รู้ว่าเราจะทำได้หรือไม่ แบบนั้นมันจะสำเร็จยาก แต่ถ้าเรามีความมุ่งมั่น เราอยากจะเป็นมันก็จะพาไปเอง ใจเราอยู่ดีๆ ก็อยากไปทำ คนเย็บผ้าก็จะมองแต่หนังสือเสื้อผ้า กองผ้าก็จะเห็นแต่ผ้าสวย ดึกๆ ดื่นๆ นั่งเย็บปักถักร้อยอยู่นั่น มีผ้าลายใหม่ออกมามันก็เห็นเป็นคนแรก เพราะฉะนั้น มันจะมุ่งมั่นไปตรงนี้แหละ เห็นใครเก่งเรื่องผ้าก็จะไปหา มันจะขวนขวายไปหาครูบาอาจารย์เขาเอง เพราะฉะนั้น หาตัวเองให้เจอ ในหมู่บ้านของเวิร์คพอยท์ใครเข้ามาทำงานต้องเหนื่อยสาหัส ต้องรับผิดชอบ เราทำงานแบบแลกกันไปแลกกันมา ปะทะกันอยู่ในห้องประชุม เราซัดกันเลยว่าตรงไหนดี ตรงไหนไม่ดีดีคืออะไรก็ช่วยกันหา มันเละในห้องประชุม เเละในโรงงานของเราไม่เป็นไร แต่ผลงานออกมาดี แล้วสุดท้ายมันก็พากันดี ตัวเราก็จะค่อยๆ แข็งแรงขึ้น แล้วเราจะสะอาดขึ้น เราก็จะแกร่งขึ้นเราอบรมกันมาแบบนี้ แต่คุณจะมีความสุขหลังจากงานเหนื่อยสุดๆ ได้เห็นผู้ชมเขาชื่นชมงานของคุณ คุณอดหลับอดนอน คุณยอม คุณโดนด่ายอม เพราะสุดท้ายเรารู้ว่าความจริงคืออะไร ศิลปินแต่ละคนเขายิ่งใหญ่มาก อดหลับอดนอนมา 4-5วัน งานเสร็จออกมาปุ๊บ เขามีความสุขมาก ไอ้พลังแห่งความสุขมันไม่ต้องไปห้าม ไม่มีใครรู้เท่าตัวเรา ปัจจัตตัง เวทีตัพโพ วิญญูหิติ ไม่มีใครรู้ เราต้องรู้ด้วยตัวเราเอง เวลาที่เรารู้ว่าตัวเองทำได้ความสุขความปิติมันจะหวืบขึ้นมา แต่บอกตรงๆ เห็นเด็กๆ ทำงานกันแล้วโอ้โห นับถือเลย เดี๋ยวนี้เขามาอดหลับอดนอนแทนเรา อย่างไมค์ทองคำ หรือปริศนาฟ้าแลบ แต่พี่ก็ทำให้น้องเห็นเหมือนกัน ยืนฟ้าแลบถึงตี 1คนที่มาร่วมงานจะเห็นเลย โอ้โห พลังมาจากไหนแล้วเราจะเก็บพลังไว้ทำไมล่ะ พรุ่งนี้ค่อยไปนอนอ้วกแตกอ้วกแตนหรือพักไปกี่วันก็ช่าง แต่ตอนขึ้นเวทีเอาให้เต็มที่ ใช่ไหม ต้องปล่อยพลังให้เต็มที่”
สูตรความสำเร็จ
“ผมมองเวิร์คพอยท์เป็นความภูมิใจ อย่าไปโอ๋เขามาก อย่าไปดุเขามาก เขาเป็นความสำเร็จร่วมกันของทีมงานและเป็นความสำเร็จที่ทุกๆ คนชื่นชม ก็ต้องรักษาเขาให้สมเกียรติที่ทุกคนให้เกียรติเขา เขาค่อยๆ เติบโตมาอย่างน่ารัก
ก็ให้มองโลกดี มองโลกบวก มองโลกให้สดชื่น มองงานให้สดชื่น มองช่องเวิร์คพอยท์ให้สดชื่น เดี๋ยวความสำเร็จก็มา มองบวกไว้ ยิ้มเยอะๆ หัวเราะเยอะๆ ปัญหามีใครไม่เจอบ้างล่ะ ระดับสูงสุดไหนๆ ก็มี พระพุทธเจ้ามีมากกว่าเรา คนปัญหาน้อยอย่าไปอ้างแล้วมาโทษตัวเอง ไม่ไหวแล้ว ตายดีกว่า”
สู่รากเหง้าแห่งความเป็นไทย
ธุรกิจได้ทั้งเงินและกล่อง “เวิร์คพอยท์นอกจากจะเน้นเรื่องความครีเอทีฟ ที่สำคัญยังเน้นความเป็นรากเหง้าของศิลปวัฒนธรรมไทยที่นำเสนอผ่านทางรายการอย่าง “คุณพระช่วย”“ไมค์ทองคำ”แล้วก่อเกิดเป็นธุรกิจตัวใหม่ โรงละครเคแบงก์สยามพิฆเนศ ที่ผลงานของบริษัทในเครืออย่างโต๊ะกลมโทรทัศน์ ที่มีผลงานเป็นที่กล่าวขวัญอย่าง “โหมโรง เดอะมิวสิคัล”“เมื่อเราทำงานไป อะไรที่จะเป็นจุดที่จะต่องานเราได้ก็เป็นโอกาส เวิร์คพอยท์อยู่ตรงบางพูน เป็นสตูดิโอมีหน้าที่ป้อน ซึ่งตอนนี้ช่องเวิร์คพอยท์ 80%เป็นรายการที่ผลิตโดยคนเวิร์คพอยท์เอง เพราะฉะนั้น ตรงนี้เป็นโรงงานส่วนโรงละครเคแบงก์สยามพิฆเนศ ซึ่งชื่อมาจาก“สยาม” คือ ที่ตั้งย่านสยามสแควร์ และ “พิฆเนศ”เป็นหนึ่งในสร้อยพระนามเมื่อครั้งทรงกรมของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้พระราชทานกำเนิดจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ครั้งที่ยังทรงดำรงพระยศ “กรมหมื่นพิฆเนศวรสุรสังกาศ” คือ เป็นโอกาสที่ทางจุฬาฯ เขาสร้างสยามสแควร์วัน บนดาดฟ้าก็มีโรงละคร เราได้พื้นที่ตรงนี้มา เราอยากจะมีหน้าบ้าน เป็นที่ปล่อยของได้ ศาสตร์ของทีวีก็อย่างหนึ่ง เวทีก็อย่างหนึ่ง อย่างโหมโรงเดอะมิวสิคัล นี่ก็ต้องยกย่องทีมผู้ผลิตของทางโต๊ะกลม คุณสังข์ (ธีรวัฒน์ อนุวัตรอุดม) และทีมนักแสดงแต่ละท่าน พ่ออี๊ด (สุประวัติ
ปัทมสูตร) คุณอาร์ม (กรกันต์ สุทธิโกเศศ)คุณประภาส (ประภาส ชลศรานนท์) ฯลฯ คนที่เรียนดนตรีไทย เรียนระนาด มาดูแล้วมีความสุขมาก จะได้เห็นว่าไอ้ที่ดีๆ มันเป็นอย่างนี้เอง เขาจะได้เห็นว่าไอ้ที่เขาทำยังไม่ถึงขั้น ต้องฝึกต่อไปอีก ฝึกดีๆ แล้วเดี๋ยวมีการสนับสนุน ไม่รู้จะไปที่ไหนมาเวิร์คพอยท์ แล้วการวางบท วางอารมณ์ต่างๆเราไปดูกี่รอบๆ ก็น้ำตาไหลด้วย
ความชื่นใจใช้คำว่าช่องครีเอทีฟทีวี งานของเราจะสรรสร้างเรื่องราวของความเป็นศิลปวัฒนธรรม เราขายความสุข สนุก เอ็นเตอร์เทนเม้นต์ แต่เราจะซ่อนเรื่องความครีเอทีฟ กับศิลปวัฒนธรรม อย่างโหมโรง ละคร คอนเสิร์ตเพลงประภาส 2รายการคุณพระช่วย มันจะแฝงเรื่องรากไทย จะแทรกเข้าไปให้เห็นว่าศิลปะไทยถ้ามีเวที มีพื้นที่ให้ศิลปินไทย ไม่ว่าจะระดับไหน คนรุ่นใหม่ รุ่นเก่าโอ้โห…มันน่าสนใจมาก มันมีพลังดีมาก ดูแล้วมันชื่นใจ นายปัญญาเองดูแล้วยังชื่นใจ ชื่นชม
ทำให้เรามีพลังด้วย คือต่างคนต่างปล่อยพลังใส่กัน ใครที่พูดว่าศิลปวัฒนธรรมไม่น่าขายได้ มันอยู่ที่วิธีการ (เน้นเสียง) เหมือนกับอาหารนี่แหละ ข้าวแกงไม่อร่อย ก๋วยเตี๋ยวไม่อร่อย ไอ้ราเม็งญี่ปุ่นมันโด่งดังเพราะอะไร ทุกคนสนับสนุน มองราเม็งของร้านตัวเองว่ามันอายุร้อยปี เขาจะต้องเคี่ยวน้ำซุบ เขาให้ความสนใจด้านนี้จริงๆ ไม่ใช่มานั่งพูดกัน ศิลปวัฒนธรรมไทยไม่ดีๆ ไอ้คนพูดก็ไม่ไปทำ ไอ้คนทำก็ทำไม่ดี ถ้าทำดีคนเขายกย่อง เดี๋ยวนี้โขนพระราชทานเป็นอย่างไรล่ะ สุดยอด! พระราชินีทรงเสียสละ คนที่ฝึกศิลปวัฒนธรรมไทยก็จะมีกำลังใจ ทางช่องเวิร์คพอยท์ ทางโรงละครเคแบงก์สยามพิฆเนศก็ขอเป็นหนึ่งในพื้นที่ ให้ผู้ที่เป็นระดับครูบาอาจารย์มาช่วยแนะนำเด็กๆ คนรุ่นใหม่”
ธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเม้นต์คือความท้าทาย
“แค่ชื่อวาไรตี้ มันก็ท้าทายแล้ว 10คนมองวาไรตี้ไม่เหมือนกัน มองละครไม่เหมือนกัน ไม่ว่า 1ช่องมีละคร ซิทคอม วาไรตี้ มันครบแล้วก็จบมันเหมือนเราเปิดร้านอาหาร ขายก๋วยเตี๋ยวก็จบไม่มีคนกิน แต่นี่ปากแม่ค้าก็ร้าย แล้วอยู่หลังกำแพงด้วย ต้องต่อบันไดขึ้นไปกิน เพราะโปรดักส์มันได้ มันสด น้ำซุปมันอร่อยเหลือเกิน แซบโดยน้ำจิ้ม หรืออะไรไม่รู้ แต่จะไปกิน ของเราก็เหมือนกัน มันท้าทายหมดว่ารายการที่จะมีใหม่จะสู้กับรายการเก่าที่เรามีเองไหวไหม รายการเก่าจะมีอายุยาวนานที่สุดขนาดไหน อย่างชิงร้อยชิงล้าน มีอายุ 26ปีแล้ว เก่าแก่ที่สุดบนผืนแผ่นดินไทย ผู้คนยังชื่นชมกันอยู่ เราจะทำ
อย่างไรให้เขายังอยู่ เพราะฉะนั้น มีการท้าทายอยู่ตลอดเวลา แล้วมีช่องนี่ยิ่งท้าทายใหญ่เลย เศรษฐกิจก็เป็นอย่างนี้ การแข่งขันก็สูง ช่องก็มีเยอะ ช่องใหญ่ก็แข็งแรง เราจะทำอย่างไร แต่ก็โชคดี ภายใน 2ปี ตั้งแต่ปีแรกที่เราเริ่มคนดูก็ให้กำลังใจ ให้น้ำ ให้ข้าว ให้ผ้าเช็ดเหงื่อ เชียร์กันสุดฤทธิ์ เราก็มีความสุข ก็เลยมีกำลังใจในการทำงาน เกิดพลังกลับมา เด็กๆ ในเวิร์คพอยท์เขาก็จะเห็น เมื่อเห็นก็ปล่อยพลังเต็มที่ มันชกโดนชกโดนก็รู้แล้ว มันชกไม่วืด วืดแล้วเหนื่อย บางอันอาจจะไม่โดน ก็แก้ไขไป แต่ส่วนใหญ่จะได้ เอเจนซี่ยอมรับ การขายมันได้ ราคามันดีขึ้นเพราะฉะนั้น ไม่ต้องถามอะไรมาก ถามว่าเอ๊ะ
ทำไมไม่ขายเท่านี้ๆ ก็เจ้าเดิมเขาขายอยู่เท่านี้รสชาติก็สู้เขาไม่ได้ เราจะไปอ้างราคาได้ไง มันตอบของมันเองอยู่แล้ว ไม่ต้องไปร้องแรกแหกกระเชออะไรเลย เพราะฉะนั้น เราก็รู้ตัวเองว่ามันควรจะขายราคาเท่าไรในตอนนี้ ในตอนนี้นะเอ้า 10บาท ช่วยมาชิมเราหน่อยนะ บางทีเราดีเราอาจจะต้องยอมก็ได้ เขามาชิมปุ๊บ เฮ้ย…อร่อยนี่หว่า นานๆ เข้า เราไม่แถมแล้วนะ เฮ้ย…ไม่แถมก็กิน ไม่ได้ต้องขึ้นราคานะ เฮ้ย…อย่างนี้ยอม เพราะมันดีจริง ถ้ามันดีจริง เป็นของจริงของแท้ล่ะก็ไม่ต้องห่วง”
เวิร์คพอยท์กับตลาด AEC
“เปิด AEC นี่ไม่ต้องกลัว เราได้ทำตัวเองไปล่วงหน้าแล้ว ตอนนี้อย่าง “ปริศนาฟ้าแลบ”อเมริกามาซื้อเราไปแล้ว “แฟนพันธุ์แท้”สวีเดนและอังกฤษออกอากาศไปแล้ว และอีกหลายที่ หรืออย่าง The Band ประกวดวงดนตรี ทางเปรูเวียดนาม และกัมพูชามาซื้อไป ในเอเชียใต้รายการเวิร์คพอยท์เต็มไปหมด แล้วทางกัมพูชาพม่า เขาอยากมีสถานีเขาก็มาดูงานที่เรา ดังนั้นโอกาสที่จะเติบโตก็ค่อยๆ เป็นไปว่าเราจะขยายอะไรณ เวลาไหน ที่เหมาะควร เหมือนทำรายการในช่องเหมือนกัน เราจะเร่งอันไหน หยุดอันไหน ลง AECก็เหมือนกัน อันไหนที่จะเร่ง อันไหนที่จะรอ เป็นอย่างนั้น เราก็มีทางพอสมควร แต่ใครจะไปก่อนก็ให้เขาไป อย่าไปตกอกตกใจเกินไป” แม้วิธีคิดดูสบายๆ แต่การทำงานแบบเวิร์คพอยท์ไม่ง่ายเลย ต้องผ่านการคิดเป็นสิบเป็นร้อยหรืออาจจะพันครั้ง ผ่านการเคี่ยวกรำ เอาใจใส่ ลงดีเทลอย่างหนัก ทุ่มเทและเอาจริงเอาจัง จึงไม่แปลกใจเลยว่าแค่ 2ปี น้องใหม่แต่เก๋าในวงการอย่างเวิร์คพอยท์ หมายเลข 23ได้ก้าวมาอยู่อันดับ 3 และยังคงพุ่งทะยานต่อไปในโลกของสื่อบันเทิงสู่สายตาประชาชน อย่างหยุดไม่อยู่…
PHANYA NIRUNKUL
ปัญญา นิรันดร์กุล เป็นผู้ก่อตั้ง บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน)
ร่วมกับประภาส ชลศรานนท์เมื่อ 11กันยายน พ.ศ. 2532แรกเริ่มเป็นสตูดิโอเล็กๆ มีพนักงาน 10 คน ปัจจุบันก้าวเข้าสู่ปีที่ 26มีพนักงานทั้งหมดกว่า 700คน ปัจจุบันเป็นธุรกิจผลิตสื่อบันเทิงครบวงจรยักษ์ใหญ่ของเมืองไทยที่มีผลงานทางด้านรายการโทรทัศน์ สื่อสิ่งพิมพ์ แอนิ-เมชั่น สตูดิโอบันทึกเสียง ธุรกิจเพลง คอนเสิร์ต โชว์บิซ และละครเวที โดดเด่นมีชื่อเสียงนับเป็นเบอร์หนึ่งของประเทศทางด้านเกมโชว์และรายการบันเทิงมากมาย