ท่ามกลางสภาวะการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตของผู้คนทั่วโลก ธุรกิจทุกภาคส่วนต่างได้รับความเสียหาย และต้องหาทางในการปรับตัวเพื่อให้อยู่รอดในภาวะวิกฤตนี้ หากแต่ยังมีหนึ่งธุรกิจที่สามารถยืนหยัดและอาจเรียกได้ว่า “โควิด” ไม่มีผลกระทบต่อการเติบโตของบริษัท นั่นคือ แลนด์ แอนด์ พร็อพเพอร์ตี้ กรุ๊ป หรือ แอลพีกรุ๊ป ภายใต้การนำของ “สยาม เลิศลุมพลีพันธุ์”
เริ่มต้นจากติดลบ สู่ธุรกิจติดลมบนอสังหาฯ
สยาม เลิศลุมพลีพันธุ์ เล่าให้ฟังว่า จุดเริ่มต้นของ บริษัท แลนด์ แอนด์ พร็อพเพอร์ตี้ กรุ๊ป จำกัด หรือ “แอลพีกรุ๊ป” นั้นมีความแตกต่างจากธุรกิจอื่น เพราะเริ่มต้นด้วยหนี้สินกว่า 200 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลกระทบมาจากวิกฤตต้มยำกุ้งเมื่อปี 2540 นั่นเอง ที่ทำให้ผู้บริหารทุกคนกำหนดแบบแผนและแนวทางการดำเนินงานขึ้นมาใหม่ ฉีกแนวออกไปจากแบบแผนของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยทั่วไป โดยใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 มาปรับใช้อย่างลงตัว
“เราเริ่มต้นธุรกิจจากวิกฤตต้มยำกุ้งปี 2540 เราเรียนรู้จากการติดลบ ฉะนั้นเราจะมีภาพไม่เหมือนคนอื่น เรามีแบบแผนของเราเอง เราไม่เลียนแบบใคร เราคิดนอกกรอบ ถ้าสมัยนี้ก็จะเรียกว่าคิดแบบสตาร์ทอัพ”
สยาม ที่เพิ่งเรียนจบเกียรตินิยมอันดับ 1 จากสาขาการเงินการธนาคาร คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาฯ ในวัย 21 ปี ก้าวเข้ามาบริหารธุรกิจในยุคติดลบก็เรียกได้ว่าหนักพออยู่แล้ว และต้องเรียนรู้ใหม่ทั้งหมดเกี่ยวกับการทำธุรกิจอสังหาฯ เขาเน้นย้ำว่าสิ่งสำคัญที่ทำให้สามารถก้าวข้ามผ่านอุปสรรคต่างๆ ก็คือทีมเวิร์ค กำลังใจของทุกคนในครอบครัวที่ร่วมเดินทางไปในเป้าหมายเดียวกัน
“แลนด์ แอนด์ พร็อพเพอร์ตี้ กรุ๊ป เราเป็นธุรกิจครอบครัว เราไม่สามารถประสบความสำเร็จคนเดียวได้ เรามีทีมเวิร์คที่ดี เพราะเราทำบ้านจัดสรร พอปี 2540 ทุกอย่างโครงการหยุดชะงัก ตอนนั้นหุ้นส่วนทุกคนคือไม่ไปต่อ ส่วนครอบครัวเราตัดสินใจเดินต่อ ถามว่าเราทำธุรกิจสิ่งทอไม่ได้มีเงินทุนมากมายแต่เรามองแล้ว ว่ายังมีลูกค้าหลายๆ คนเขาผ่อนบ้านอยู่ เงินออมทั้งชีวิตเขาอยู่ตรงนี้ คือ เรามองแล้ว ถ้าเรายอมแพ้ตอนนั้น คนอีกเป็นร้อยคน ต้องยอมแพ้ตามเรา”
Started from deep in red to become leader in real estate.
อยากสำเร็จต้องคิดบวก
เรียกได้ว่า สยาม คือ นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จที่หลายคนจับตามอง ในขณะที่ตัวเขาเอง มองว่าสิ่งที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จนั้น มาจากหลักการง่ายๆ ก็คือ การมีสมดุลในทุกๆ เรื่อง
“การสร้างสมดุล ภายนอก ภายใน แต่แน่นอนว่าทุกองค์กร ทำเหมือนกันไม่ได้ ทุกที่แตกต่างกัน พนักงานไม่เหมือนกัน สิ่งที่ใช่สำหรับเรา อาจจะไม่ใช่สำหรับองค์กรอื่น อยู่ที่ผู้บริหารว่าจะบริหารจัดการให้เกิดความสมดุลอย่างไร”
ทุกๆ ก้าวย่าง คือความพอใจ เป็นความพอเพียงตามแบบฉบับของสยาม หากแต่ผลลัพธ์คือการพิชิตเป้าหมายอย่างไม่ยากเย็น แม้ในยามวิกฤตโควิด19 เช่นนี้ โครงการ เดอะบาลานซ์ ซิกม่า ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2563 เพียงไม่กี่อาทิตย์ต่อมารัฐบาลประกาศล๊อคดาวน์ประเทศ หากเป็นองค์กรอื่น เชื่อว่าต้องได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่สำหรับแอลพีกรุ๊ป กลับยังเดินหน้าและสามารถพิชิตเป้าหมายที่ตั้งไว้อย่างงดงาม
“เราพอใจในทุกๆ ก้าว เพราะคิดว่าถ้าพอใจเราก็จะพอเพียง เป้าหมายเราตั้งเป้าทุกปีอยู่แล้ว ปีนี้ก็พิชิตเป้าหมายได้ เราตั้งเป้าไว้ 250 ล้านบาท ขณะที่เราทำได้ 300 ล้านบาท สำหรับปีหน้าเราตั้งเป้าที่ 500 ล้านบาท”
Satisfaction in every step we took makes us sufficient.
ยุคแห่งออนไลน์ ทุกองค์กรต้องปรับตัว
กลยุทธ์สำคัญ ของผู้บริหารคนเก่งแห่งแอลพีกรุ๊ป คือการเตรียมความพร้อม สยาม มองเห็นการเปลี่ยนแปลง โลกออนไลน์ได้เข้ามามีบทบาทในวิถีชีวิตคนเราและจะยิ่งมีมากขึ้น ทำให้กว่า 7 ปีแล้ว ที่แอลพีกรุ๊ป ปรับเปลี่ยนตัวเองมาสู่โหมดธุรกิจออนไลน์ หากแต่ผสมผสานเข้ากับออฟไลน์อย่างลงตัว
“เราเข้าสู่การทำออนไลน์มาร์เก็ตติ้ง เมื่อ 5 ปีที่แล้ว แต่เราใช้เวลาเตรียมความพร้อมมาก่อนหน้านั้น 2 ปี จัดระบบ CRM เราทำแบบ ออนไลน์ ทู ออฟไลน์ เพราะอย่างไรก็ตาม คนไทย ที่คิดจะซื้อบ้านก็จะต้องมาดูบ้านตัวอย่าง”
ออนไลน์ก็คือการสร้างแบรนด์ สร้างการรับรู้ ทำอย่างไรให้ลูกค้าเกิดความประทับใจในช่วงห้านาที สิบนาที ที่เขาเข้ามาดู สยาม เน้นย้ำ
เราขายความแน่นอน
หากถามว่าในการทำธุรกิจในยุคโควิดนี้ สยามมีแนวทางรับมืออย่างไร เขามองว่า ปัญหาของการทำธุรกิจไม่ใช่โควิด 19 หากแต่คือความไม่แน่นอน พอรู้แบบนี้ วิธีรับมือก็จะต้องมุ่งไปให้ตรงจุด ก็คือจะต้องขายความแน่นอนให้กับลูกค้า
“ปัญหาของธุรกิจ ไม่ได้สู้กับโควิด แต่สู้กับความไม่แน่นอน โควิด คือ Uncertainty เราสู้กับความไม่แน่นอน พอเราดูแกนอย่างนี้เสร็จแล้ว การตลาดทุกอย่าง แบรนด์ดิ้งของเราที่เราจะสื่อออกไปให้ลูกค้า เราต้องสื่อความ Certainty ความแน่นอน นี่คือ ความคิดผม เพราะฉะนั้นเราบอกลูกค้าว่า เราไม่หยุดก่อสร้าง คุณเห็นความคืบหน้าของการก่อสร้าง เราไม่มีวันหยุดเลย โปรโมชั่นที่เราคิด ต้องให้ลูกค้า Certainty ที่สุด คุณมาแล้วจ่ายแค่นี้ แล้วได้บ้านแน่นอน เราขายบ้านที่สร้างเสร็จพร้อมโอน เพราฉะนั้นหลักการตลาดจึงต้องมาจากสิ่งที่ปรุงแต่งจากแรงบันดาลใจข้างใน เราต้องทำทุกอย่างให้แน่นอนให้ลูกค้าจับต้องได้”
เป้าหมายในปีหน้าของ แอลพีกรุ๊ป ภายใต้การนำของ สยาม ตั้งเป้าที่ 500 ล้านบาท เขามั่นใจว่าจะสามารถนำพาองค์กรไปถึงจุดหมายอย่างไม่ยากเย็น ไม่ใช่เพราะมั่นใจในความเก่งฉกาจ หรือมองแนวโน้มของตลาด หากแต่เป็นการมองตนเอง เดินตามแนวทางที่ตนเองถนัด ทำได้อย่างดีที่สุด การประเมินตนเองตลอดเวลา ตลอดจนไม่ลืมที่จะสร้างปุ่มกดสวิทช์รีเซ็ตเรื่องการปรับตัวตลอดเวลา ให้กับบุคคลากร นี่คือ หมัดเด็ดของผู้บริหารคนเก่งแห่งแอลพีกรุ๊ป
การสร้างสมดุล ภายนอก ภายใน แต่แน่นอนว่าทุกองค์กร ทำเหมือนกันไม่ได้ ทุกที่แตกต่างกัน พนักงานไม่เหมือนกัน สิ่งที่ใช่สำหรับเรา อาจจะไม่ใช่สำหรับองค์กรอื่น อยู่ที่ผู้บริหารว่าจะบริหารจัดการให้เกิดความสมดุลอย่างไร”
Positive thinking is the key to success…
สยาม เลิศลุมพลีพันธุ์
กรรมการู้จัดการ บริษัท แลนด์ แอนด์ พร็อพเพอร์ตี้ กรุ๊ป
ขอบคุณ
สถานที่ถ่ายทำ: Marriott Surawongse
โทร. +66 2 088 5666