โรช (SIX: RO, ROG; OTCQX: RHHBY) ในกรุงบาเซลได้ประกาศเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2563 ว่าบริษัทกำลังพัฒนาและเตรียมที่จะเปิดตัวชุดทดสอบเพื่อหาภูมิต้านทาน Anti-SARS-CoV-2 ที่สามารถตรวจหาสารภูมิต้านทานในผู้ที่ติดเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ (Severe Acute Respiratory Syndrome Coronavirus 2; SARS-CoV-2) อันเป็นต้นเหตุของโรคโควิด-19
- ชุดตรวจเลือดเพื่อหาภูมิต้านทาน Anti–SARS–CoV–2 (แอนตี้-ซาร์ส-โควี-2) สามารถตรวจหาแอนติบอดีต่อเชื้อไวรัส SARS–CoV–2 ในผู้ป่วยที่ได้สัมผัสกับเชื้อมาแล้ว โดยเชื้อไวรัสดังกล่าวเป็นต้นเหตุของโรคโควิด–19
- การตรวจจับสารภูมิต้านทานนี้จะช่วยระบุว่าผู้เข้ารับการตรวจ มีภูมิต้านทานไวรัสตัวนี้หรือไม่ และเป็นข้อมูลสำคัญเพื่อประกอบการรักษาต่อไป
- โรชมีแผนที่จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์นี้ในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม โดยเริ่มจากประเทศที่ยอมรับการรับรองด้วยมาตรฐาน CE Mark (ซีอี) ก่อน นอกจากนี้ โรชยังทำงานอย่างใกล้ชิดกับองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกาเพื่อเข้าสู่กระบวนการขอใช้งานผลิตภัณฑ์แบบฉุกเฉินอีกด้วย
การทดสอบหาสารภูมิต้านทานมีบทบาทสำคัญในการระบุตัวผู้ติดเชื้อไวรัส โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการใด ๆ³ นอกจากนี้ ชุดทดสอบนี้ยังสามารถใช้รองรับการตรวจคัดกรองกลุ่มบุคคลที่มีความเสี่ยงสูง เช่นบุคลากรทางการแพทย์ หรือผู้ที่ทำงานเกี่ยวข้องกับการจัดส่งและทำอาหาร โดยที่คนเหล่านี้อาจมีภูมิต้านทานเชื้ออยู่แล้วในระดับหนึ่ง จึงสามารถปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้ตามปกติ และเมื่อทุกภาคส่วนมีความเข้าใจที่ลึกซึ้งขึ้นเกี่ยวกับภูมิต้านทานโรคโควิด-19 ชุดทดสอบนี้ก็อาจช่วยให้สังคมฟื้นคืนสู่สภาวะปกติได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
มร. เซเวริน ชวาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของโรช กรุ๊ป กล่าวว่า “หลังจากที่เราได้เปิดตัวชุดทดสอบแบบ PCR (พีซีอาร์) เพื่อการใช้งานในวงกว้างไปในช่วงกลางเดือนมีนาคม เพื่อใช้ตรวจหาเชื้อไวรัสนี้โดยตรง ขณะนี้ เรามีแผนที่จะเปิดตัวชุดทดสอบสารภูมิต้านทานแบบใหม่ในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม โดยเราเชื่อว่าการมีชุดทดสอบที่มีคุณภาพ เชื่อถือได้มากขึ้นในตลาด จะช่วยให้หน่วยงานในภาคสาธารณสุขสามารถต่อสู้และเอาชนะโรคร้ายนี้ไปด้วยกัน โรชกำลังทำงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานของภาครัฐ พร้อมยกระดับกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่องเพื่อให้มั่นใจได้ว่าบุคลากรทางการแพทย์ทั่วโลกจะมีโอกาสได้ใช้งานชุดทดสอบนี้ในเวลาไม่นานนัก”
“โรชมีความมุ่งมั่นอย่างสูงสุดที่จะสนับสนุนทุกภาคส่วนในการต่อสู้กับโรคโควิด-19 ที่ได้แพร่ระบาดไปทั่วโลก” โธมัส ชิเนคเกอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของโรช ไดแอกโนสติกส์ กล่าว “การส่งมอบชุดตรวจอย่างทันท่วงที และการเปิดให้บุคลากรทางการแพทย์ได้เข้าถึงชุดตรวจที่มีคุณภาพสูงและเชื่อถือได้นั้น ล้วนเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง ชุดทดสอบสารภูมิต้านทานนี้จะเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการต่อสู้กับโรคโควิด-19 โดยเราสามารถขยายการผลิตและจัดจำหน่ายชุดตรวจดังกล่าวนี้ได้อย่างรวดเร็วเพื่อให้สามารถนำไปใช้งานได้ทั่วโลก เนื่องจากเรามีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานสำหรับภารกิจนี้อยู่แต่เดิมแล้ว”
ชุดตรวจสารภูมิต้านทาน Anti-SARS-CoV-2 นี้ เป็นชุดตรวจภายในห้องปฏิบัติการ โดยการเจาะเลือดเพื่อตรวจหาสารภูมิต้านทานและปฏิกิริยาของร่างกายที่มีต่อเชื้อ SARS-CoV-2 จากเซรั่มและพลาสม่าในตัวอย่างเลือดของผู้เข้ารับการตรวจ ทั้งนี้ ชุดตรวจนี้อาจถูกนำไปใช้ประกอบการวิจัยเชิงระบาดวิทยา เพื่อสร้างเสริมความเข้าใจเกี่ยวกับการแพร่กระจายของโรคโควิด-19 และยังอาจนำไปใช้ร่วมกับการทดสอบเชิงโมเลกุลเพื่อวินิจฉัยและคัดแยกผู้ป่วยที่ติดโรคดังกล่าว ทั้งนี้ โรงพยาบาลและศูนย์วิจัยสามารถใช้ชุดทดสอบนี้ร่วมกับเครื่องมือตรวจวิเคราะห์ระบบอัตโนมัติของโรช ซึ่งมีให้ใช้งานในแล็บทั่วโลก
โรชจะเริ่มจัดจำหน่ายชุดตรวจสารภูมิต้านทานนี้ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป ในประเทศที่ยอมรับการรับรองด้วยเครื่องหมาย CE โดยบริษัทฯ ยังคงทำงานร่วมกับองค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิดเพื่อขอใบอนุญาตการใช้งานในกรณีฉุกเฉินสำหรับชุดตรวจนี้ นอกจากนี้ โรชยังมีแผนที่จะขยายกำลังการผลิตของชุดตรวจนี้ให้ถึงหลักหลายสิบล้านชิ้นต่อเดือนภายในเดือนมิถุนายน และจะทำการขยายการผลิตต่อไปในอนาคตโดยเร็วที่สุด
เกี่ยวกับเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 (โคโรนาไวรัส)
โคโรนาไวรัส (CoV) เป็นไวรัสตระกูลหนึ่งที่เป็นต้นเหตุของหลายโรค นับตั้งแต่โรคที่พบได้ทั่วไปอย่างหวัดธรรมดา ไปจนถึงโรคร้ายแรงอย่าง Middle East Respiratory Syndrone (MERS-CoV) หรือ Severe Acute Respiratory Syndrome (SARS-CoV) ส่วนเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ (SARS-CoV-2) นั้น เป็นเชื้อที่ไม่เคยตรวจพบในมนุษย์ ก่อนที่จะเกิดการระบาดขึ้นในปัจจุบัน
อาการอันเป็นสัญญาณบ่งบอกผู้ติดเชื้อ ประกอบไปด้วยอาการที่เกี่ยวข้องกับทางเดินหายใจ เช่นไอ หายใจไม่สะดวก และไข้ขึ้น โดยในกรณีที่ร้ายแรง เชื้อในตระกูลนี้อาจก่อให้เกิดโรคปอดอักเสบ โรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง ไตวาย หรือถึงกับเสียชีวิตได้
เพื่อลดการระบาดของเชื้อไวรัสประเภทนี้ องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำให้ล้างมือเป็นประจำ ปิดปากและจมูกเมื่อไอหรือจาม ปรุงอาหารประเภทเนื้อสัตว์และไข่ให้สุกอย่างทั่วถึง และหลีกเลี่ยงการเข้าใกล้หรือสัมผัสผู้ที่มีอาการของโรคทางเดินหายใจ