เอสซีจี โดยดร.สุรชา อุดมศักดิ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ และ Chief Technology Officer–Innovation and Technology ธุรกิจเคมิคอลส์ เอสซีจี ได้ร่วมกับบริษัท สตาร์บอร์ด จำกัด โดยนายสเวน รัสมุสเซ่น (Mr. Svein Rasmussen) Chief Innovator of Starboard ลงนามบันทึกข้อตกลงในโครงการ “Collaboration for Sustainable Future” เพื่อนำแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) มาใช้แก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมระดับโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสภาวะโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ โดยมีนางแชสตี เริดส์มูน (Mrs. Kjersti Rodsmoen) เอกอัครราชทูตนอร์เวย์ ประจำประเทศไทย ร่วมแสดงความยินดีและสนับสนุนความร่วมมือครั้งนี้ โดยได้กำหนดขอบเขตการศึกษาและความร่วมมือใน 3 ด้าน ได้แก่ การพัฒนาวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยธุรกิจเคมิคอลส์ เอสซีจี จะนำความรู้และความเชี่ยวชาญด้านวัสดุศาสตร์ในกลุ่มวัสดุพอลิเมอร์ ตลอดจนการออกแบบและขึ้นรูปสินค้ามาใช้พัฒนาวัสดุใหม่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสำหรับสินค้าของสตาร์บอร์ด รวมถึงการส่งเสริมกิจกรรมที่ช่วยลดสภาวะโลกร้อน เช่น การปลูกป่าชายเลน เพื่อเป็นแหล่งกักเก็บคาร์บอน ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตลอดจนการสร้างความตระหนักรู้และปลูกฝังพฤติกรรมเรื่องการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าให้กับเยาวชน โดยมุ่งหวังว่าการดำเนินงานภายใต้กรอบความร่วมมือทั้ง 3 ด้านนี้ จะช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อมของโลกได้อย่างยั่งยืน
นางแชสตี เริดส์มูน (Mrs. Kjersti Rodsmoen) เอกอัครราชทูตนอร์เวย์ ประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า “รัฐบาลนอร์เวย์ให้ความสำคัญเรื่องสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่กลายเป็นวาระสำคัญของโลกและเป็นความรับผิดชอบของทุกคน ซึ่งหนึ่งในวิธีที่ได้รับการยอมรับว่าช่วยแก้ไขปัญหานี้ คือ การปลูกป่าชายเลน เพื่อช่วยดูดซับก๊าซเรือนกระจก รวมถึงการปลูกจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมที่สอดคล้องกับหลักพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์กรสหประชาชาติ (SGDs) ให้แก่คนรุ่นใหม่ ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญในการดูแลทรัพยากร โดยความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นตัวอย่างของภาคธุรกิจที่จะเป็นแรงขับเคลื่อนให้เกิดการเปลี่ยนแปลง และการแลกเปลี่ยนความเชี่ยวชาญของสององค์กรเพื่อแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมร่วมกัน”
ดร.สุรชา อุดมศักดิ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ และ Chief Technology Officer–Innovation and Technology ธุรกิจเคมิคอลส์ เอสซีจี กล่าวว่า “จากปัญหาสภาวะโลกร้อน และการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ ซึ่งได้กลายเป็นวิกฤติของโลกที่ต้องอาศัยความร่วมมือของทุกฝ่าย เอสซีจีและสตาร์บอร์ดต่างเล็งเห็นถึงวิกฤตความรุนแรงของปัญหานี้ และมีเป้าหมายร่วมกันในการนำแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) มาใช้ในการดำเนินธุรกิจเพื่อให้บรรลุเป้าหมายด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม จึงเกิดเป็นความร่วมมือที่จะนำนวัตกรรมมาใช้พัฒนาสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตลอดจนส่งเสริมกิจกรรมปลูกป่าชายเลนเพื่อลดปริมาณก๊าซเรือนกระจก โดยเอสซีจีเชื่อมั่นว่าด้วยความรู้และความเชี่ยวชาญของทั้งสององค์กรจะช่วยแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมโลกและช่วยรักษาความสมบูรณ์ของทรัพยากรให้คนรุ่นหลังต่อไปได้”
ด้านนายสเวน รัสมุสเซ่น Chief Innovator of Starboard กล่าวว่า “เป้าหมายของสตาร์บอร์ด คือ การสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศเพื่อให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืนผ่านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เช่น การเก็บขยะร่วมกับกลุ่มผู้พิชิตขยะกรุงเทพฯ (Trash Hero Bangkok) กิจกรรมปลูกป่าชายเลน เพื่อลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ รวมถึงศึกษาแนวทางด้านธุรกิจร่วมกับธุรกิจ
เคมิคอลส์ เอสซีจี เพื่อวิจัยและพัฒนาวัสดุจากโพลิเมอร์ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สำหรับนำมาใช้ผลิตส่วนประกอบในสินค้าของสตาร์บอร์ด นอกจากนี้ ยังได้ให้ความรู้แก่เยาวชนเรื่องสิ่งแวดล้อมผ่านโครงการ ‘Ambassadors for the Planet’ เพื่อสร้างตัวแทนเยาวชนที่จะเป็นกระบอกเสียงในการรณรงค์เรื่องสิ่งแวดล้อม โดยเชื่อมั่นว่าความมุ่งมั่นและศักยภาพของสตาร์บอร์ดและเอสซีจีจะช่วยให้การดำเนินงานทั้ง 3 ด้านบรรลุตามวัตถุประสงค์ของโครงการ และขยายผลสำเร็จไปยังระดับโลกได้ ”
สำหรับโครงการความร่วมมือ “Collaboration for Sustainable Future” ระหว่างเอสซีจี และ
สตาร์บอร์ด ในครั้งนี้ ถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน และการลดปัญหาสภาวะโลกร้อนของโลก ผ่านความร่วมมือในการสร้างสรรค์นวัตกรรม และโซลูชั่นใหม่ๆ ของทั้งสององค์กร เพื่อดูแลสิ่งแวดล้อมและยกระดับชีวิตของคนในสังคมให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน